เจ้าหน้าที่บุกค้นบ้านนายก อบต.บึงกาฬ พบไม้พะยูงเถื่อนกองพะเนิน มูลค่ากว่า 50 ล้าน เตรียมเรียกเจ้าของบ้านมาสอบสวน
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 14 กันยายน เจ้าหน้าที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) บึงกาฬ พล.ร.ต.รังสรรค์ โตอรุณ ผบ.นรข. ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะมีการลักลอบส่งไม้พะยูงออกนอกราชอาณาจักรไปยังประเทศลาวและมีการนำไม้พะยูงจำนวนมากมาพักไว้บริเวณบ้านโนนสา หมู่ 5 ต.ท่าดอกคำ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ จึงสั่งการให้ น.อ.มรุเดช บุญนิตย์ ผบ.นรข.เขตหนองคาย และ ร.อ.คำพัน พวงไธสง หน.สน.เรือบึงกาฬ ประสานกับหน่วยงานต่างๆในพื้นที่ร่วมกันสืบสวนหาข่าว
กระทั่งทราบว่าบ้านเลขที่ 34 หมู่ 5 บ้านโนนสา ต.ท่าดอกคำ อ.บึงโขงหลง มีไม้พะยูงจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ จึงสนธิกำลังกับทหารพรานที่ 2109 บึงกาฬ ป่าไม้ ตำรวจน้ำ ตำรวจ ปทส. ตำรวจ ตชด.244 บึงกาฬ ตำรวจ สภ.เหล่าหลวง และฝ่ายปกครอง อ.บึงโขงหลง กว่า 200 นาย เข้าปิดล้อมและขอหมายศาลจังหวัดบึงกาฬ เลขที่ มค. 60/2556 เข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว พบนางอมลา พรมพิมพ์ ผู้ดูแลบ้านรับว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นของนายประสงค์ เวฬุวนาธร นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ท่าดอกคำ เจ้าหน้าที่จึงตรวจค้นพบไม้พะยูงแปรรูปทั้งเก่าและใหม่วางกองเรียงรายอยู่รอบๆ บ้าน โดยใช้ผ้าใบปกคลุมและยังพบซุกซ่อนในรถยี่ห้อฟอร์ดเอเวอร์เรสต์ ทะเบียน กจ 9227 อุดรธานี จำนวนหนึ่ง และในรถ 10 ล้อ ยี่ห้อมิตซูบิชิ ทะเบียน 82-3744 สุรินทร์ รถอีซูซุ ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียนอีกหนึ่งคัน เจ้าหน้าที่จึงยึดไม้พะยูงทั้งหมดส่ง สภ.เหล่าหลวง เพื่อตรวจนับ ได้ไม้พะยูงของกลางทั้งหมด 656 ท่อน/เหลี่ยม/กลม ปริมาตรรวม 14.714 ลบ.ม. มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท
จากนั้น พล.ต.ต.มนธน ทิพย์จันทร์ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ และ พ.อ.ประสิทธ์ ทิศาวงศ์ เสนาธิการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ร่วมกันแถลงข่าวที่สถานีตำรวจภูธรเหล่าหลวง พร้อมกล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังกันหลายฝ่ายทั้ง ทหารตำรวจเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เพื่อทำงานด้านการปราบปรามขบวนการค้าไม้พะยูงข้ามชาติอย่างจริงจัง นำมาสู่การจับกุมในครั้งนี้ และจะได้เรียกตัวนายประสงค์ที่เป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวมาสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ หากมีส่วนเกี่ยวข้องจริงก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
วันเดียวกัน ที่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน พร้อมด้วยนายสังวาลย์ แสงสวัสดิ์ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน แถลงผลการจับกุมพรานผู้ลักลอบตัดไม้พะยูง ที่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้วันเดียวรวม 3 คดีพร้อมๆ กัน
นายเทวินทร์กล่าวว่า จากการสั่งการของนายเสริมยศ สมมั่น รองอธิบดีกรมอุทยานฯ มอบหมายสั่งการให้อุทยานแห่งชาติทับลาน กวาดล้างจับกุมผู้ลักลอบตัดไม้พะยูงในผืนป่าทับลาน ตามที่ได้สืบทราบว่าในระหว่างวันหยุดเสาร์-อาทิตย์นี้ จะมีผู้ลักลอบตัดไม้พะยูงและขนย้ายออกจากผืนป่าทับลานในพื้นที่ทั้ง 2 จังหวัด
โดยคดีแรก เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ฝ่ายปกครองตามที่วางแผนแบ่งชุดกำลังเข้าตามที่มอบหมาย ประกอบด้วย กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ครบุรี สภ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา นำชุดกำลังเข้าพื้นที่บ้านซับพลู ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว และพื้นที่ป่าภูเทพถาวรนิมิต อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา พบไม้พะยูงแปรรูปเป็นไม้แผ่นขนาดใหญ่ ความยาว 210 ซม. กว้าง 24 ซม. หนา 1 นิ้วเศษ รวม 13 แผ่น ซุกซ่อนอยู่ด้านเหนือบ้านป่าซับพลู หมู่ 16 จึงตรวจยึดไม้ที่ถูกลักลอบเตรียมขนย้าย
ตรวจสอบพื้นที่ต่อมา ในป่าภูเทพถาวรนิมิต ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ขณะเจ้าหน้าที่เข้าในถึงพื้นที่เป้าหมายตามที่ได้รับแจ้ง กลุ่มพรานไม้พะยูงได้ไหวตัวอาศัยพื้นที่ป่ารกทึบหลบหนีไป ทิ้งไม้พะยูงที่ตัดเป็นท่อนไว้ขนาดความยาว 210 ซม. วัดรอบวงรวม 130 ซม. รวม 2 ท่อนทิ้งไว้บนรถกระบะโตโยต้ารุ่นฟอร์จูเนอร์ 1 คัน จึงตรวจยึดของกลาง
และคดีที่ 3 ที่บ้านวังหิน หมู่ 7 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เจ้าหน้าที่ป่าไม้ พร้อม พ.ต.ท.ปัญญา วงศ์จันทรา สารวัตรเวร นำกำลังเข้าป่าไม้พื้นที่ป่าทับลานป่าเขาวังหินเข้าพื้นที่ตามที่ได้รับแจ้ง พบผู้ลักลอบ 2 คน คาดว่าขนไม้พะยูงใส่รถปิกอัพตามที่ได้รับแจ้ง ทราบว่าซุกซ่อนไว้ใต้ท้องรถที่ดัดแปลงไว้ จึงเรียกตรวจสอบ คนร้ายไหวตัวและใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่จึงยิงปะทะนานเกือบ 10 นาที 2 คนร้ายจึงยอมมอบตัว เป็นชาวไทยร่วมกับชาวกัมพูชาชื่อนายชาย อะช่วยรัมย์ อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 8 ต.หนองมาร อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ และนายเดช ชาวกัมพูชา ตรวจใต้ท้องรถพบไม้พะยูงแปรรูปแล้วขนาดความยาว 210 ซม. กว้าง 70 ซม. หนา 8 ซม. รวม 2 แผ่น โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ส่วนอาวุธที่ยิงสู้เจ้าหน้าที่ได้โยนทิ้งอยู่ระหว่างตรวจหาจึงรวบรวมและนำมาสอบสวนดำเนินคดีต่อมา
“ทั้งนี้มูลค่าไม้พะยูงราคาในประเทศจากที่ได้ตรวจยึดนี้รวมมากกว่า 10 ล้านบาท และหากส่งออกต่างประเทศจะราคาสูงเพิ่มอีก 10 เท่าจึงเป็นแรงจูงใจให้คนเข้ามาลักลอบตัด-ค้าไม้พยูง ในผืนป่าทับลานที่ไม้ขนาดใหญ่คุณภาพดี และมีกำลังต่างด้าวติดอาวุธสงครามคุ้มกัน” นายเทวินทร์กล่าว
‘>