จากกรณีคนร้ายบุกเข้าวัดราษฎร์บูรณะ บ้านสันทรายงาม หมู่ที่ 8 ต.นาสะแบง อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ กลางดึกใช้เลื่อยโซ่ตัดโค่นต้นพะยูงอายุ 100 ปี ที่ชาวบ้านหวงแหนเจ้าอาวาสตื่นมาพบแจ้งผู้ใหญ่บ้านเข้ามาจับกุม แต่คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงสกัด ใช้รถยนต์ขนไม้หนีไปได้บางส่วน ล่าสุด พล.ต.ต.ชัยพร พาณิชอัตรา ผู้บังคับการฯ จังหวัดบึงกาฬ นำกำลังเข้าตรวจค้นในสวนยางพาราพบแหล่งแปรรูปไม้พะยูง พร้อมกับทำเป็นบ้านอำพราง อาศัยช่องโว่ของกฏหมาย เพื่อรื้อขายเป็นบ้านเรือนเก่าไปขายต่างประเทศ จึงสั่งเจ้าหน้าที่รื้อถอนตรวจยึดทันที
เมื่อเวลา 08.00น.วันที่ 20 มกราคม พล.ต.ต.ชัยพร พาณิชอัตรา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ พ.ต.อ.ธีรนารถ ปาลกะวงษ์ ณ อยุธยา ผกก.สภ.ศรีวิไล นายสา แสงสว่าง ผอ.ทสจ.บึงกาฬ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นค.5 (พรเจริญ ) และตำรวจ กก.3 บก.ปทส.เข้าตรวจค้นในป่าสวยยางพารา ห่างจากหมู่บ้านหนองจันทร์สาคร หมู่ที่ 6 ต.ศรีวิไล อ.ศรีวิไล ประมาณ 7 กิโลเมตร พบบ้านที่สร้างขึ้นชั่วคราวหรือสร้างอำพรางขึ้นมาใหม่ โดยใช้ไม้พะยูงมาเป็นพื้นกระดานและฝาบ้าน ตรวจรอบบริเวณใกล้เคียง พบเศษไม้พะยูง กองขี้เลื่อยและปลีกไม้กองรวมกันเป็นจำนวนมากวางอยู่หลายจุด นอกจากนี้ยังพบหลักฐานและอุปกรณ์การเสพยาเสพติดอยู่ด้วย จึงยึดไว้เป็นของกลาง
พล.ต.ต.ชัยพร ผบก.กล่าวว่า จุดนี้น่าจะเป็นแหล่งแปรรูปไม้พะยูงและไม้อื่นๆ ที่ถูกขโมยตัดมาจากที่ต่างๆ นอกจากจะเป็นแหล่งมั่วสุมเสพยาเสพติดของแก๊งลักลอบตัดและค้าไม้พะยูง จึงได้ให้เจ้าหน้าที่เก็บรวบรวมปลีกไม้ไปตรวจสอบ จะต้องใช้รถยนต์ขนาด 6 ล้อ ถึง 2 คันรถมาขนย้ายจึงหมด นี่ยังไม่นับรวมบ้านชั่วคราวที่สร้างขึ้นมาอำพราง เพื่อจะรื้อถอนไปเป็นไม้เรือนเก่าส่งขายออกต่างประเทศ ซึ่งจะได้เรียกเจ้าของสวนยางพาราและที่นาแห่งนี้มาสอบสวนว่าได้ไม้เหล่านี้มาจากที่ไหน เบื้องต้นทราบแล้วว่าเจ้าของเป็นใครจะต้องแจ้งข้อกล่าวหามีไม้แปรรูปหวงห้ามไว้ครอบครองเกินกว่า 0.20 ลูกบาศก์เมตร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป’>