นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยระหว่างลงพื้นที่ในจ.นครพนม เมื่อวันที่ 8พฤษภาคม2557ว่า ขอเตือนผู้ใช้มือถือที่ใช้บริการข้ามแดนอัตโนมัติ (โรมมิ่ง) ใน 7 จังหวัดชายแดนริมแม่น้ำโขง ประกอบด้วย หนองคาย บึงกาฬ เชียงราย เลย นครพนม มุกดาหาร และ อุบลราชธานี ระวัง ปัญหาค่าบริการดาต้า โรมมิ่ง สูงเกินจริง หรือ บิลช็อก
“ผู้ใช้บริการต้องเจอกับปัญหาบิลช็อก เป็นผู้ใช้บริการ และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังจังหวัดชายแดนริมแม่น้ำโขง โดยมีสาเหตุมาจากมือถือมีการเชื่อมต่อสัญญาณจีเอสเอ็มจากเครือข่ายของผู้ให้บริการในประเทศเพื่อนบ้าน คือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) สำหรับยอดผู้ร้องเรียนขณะนี้ รวม 500 ราย ใน 3 จังหวัด คือ บึงกาฬ หนอองคาย และ นครพนม โดยพบยอดค่าใช้บริการต่อบิล สูงถึง 3,000-4,000 บาทต่อรายจากปัญหาโรมมิ่ง ขณะที่ค่าใช้บริการรายเดือนปกติอยู่ที่ 800 บาทต่อเดือนเท่านั้น”
อย่างไรก็ดี กสทช.ได้ลงพื้นที่เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าวนำร่องที่ จ.นครพนม ซึ่งมีจุดเสี่ยงต่อการเกิดโรมมิ่งใน 2 อำเภอ คือ อ. ธาตุพนม และ อ. เมือง ที่มีพรมแดนติดกับ สปป.ลาว และ จะขยายการประชาสัมพันธ์โครงการนี้ต่อไปยัง อ.เชียงคาน จ. เลย และ บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ อ. เชียงแสน จ. เชียงรายต่อ โดยกสทช.ได้ร่วมกับ ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของไทย เปิดเลขหมายโทรฟรี *106# เพื่อให้ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือสามารถโทร.ไปปิดบริการการใช้งานอินเตอร์เนตเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ (ดาต้า โรมมิ่ง) ซึ่งจะเป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาบิลช็อกจากบริการข้ามแดนได้
นายอติศักดิ์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า ทางจังหวัดได้รณรงค์และสร้างการรับรู้ในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง จากการที่นครพนมเป็นจังหวัดประตูเศรษฐกิจสู่การค้าชายแดน รองรับทั้งการค้าและการท่องเที่ยว ไทย ลาว เวียดนาม และจีนใต้ ซึ่งความร่วมมือกับกสทช. ครั้งนี้ จะช่วยแก้ปัญหาบิลช็อกให้กับผู้ที่อาศัยและเดินทางมาท่องเที่ยวที่นครพนมได้
‘>