เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 28 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวจ.บึงกาฬ เปิดเผยว่า ชาวบ้าน หมู่ 3 ต.ไคสี อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ต่างแตกตื่นแห่แหนไปชมและขอโชคลาภ รอยประหลาดคล้ายรอยสัตว์เลื้อคลานขนาดใหญ่ ซึ่งปรากฏอยู่บนก้อนหินทรายขนาดใหญ่ทางเข้าวัดอาฮงศาลาวาส จึงลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบบริเวณถนนทางเข้าวัด มีประชาชนจำนวนมากแห่มาดูลอยประหลาดที่ปรากฏบนก้อนหินทรายขนาดใหญ่กว้าง 5 เมตร สูง 3 เมตร ข้างโรงจอดรถ และบันทึกภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกหรือแชร์ในโลกออนไลน์ นายเทิดศักดิ์ กงรหัส ผู้ใหญ่บ้านหมู่ เล่าว่า ก่อนจะปรากฏรอยประหลาดขึ้น มีฝนตกลงมาในพื้นที่ติดต่อกัน 3 วัน หลังฝนหยุดตก ก็ปรากฏเห็นรอยประหลาด ดังกล่าวเกิดขึ้น โดยรอยประหลาดดังกล่าวมีความยาวประมาณ 3 เมตร สูงประมาณ 2 เมตร กว้างประมาณ 10 เซนติเมตร ความยาวสั้นบ้างยาวบ้างต่างกัน บางรอยก็คล้ายงูใหญ่กำลังเลื้อยไปมาบางรอยก็คล้าสปริงหรือขดลวดหนามหีบเพลง อย่างไรก็ตามชาวบ้าน ต่างก็เชื่อว่า ทั้งหมดเป็นรอยพญานาค 2 ตนเลื้อยเกี้ยวพันกันไปมา โดยแม่น้ำโขงที่ไหลผ่านบริเวณหน้าวัดแห่งนี้ จะเป็นจุดที่ลึกที่สุดประมาณ 200 เมตร จึงเรียกว่าสะดือแม่น้ำโขงและตามตำนานจุดนี้ก็เป็นเมืองหลวงของพญานาคด้วย
ด้านพระพิเชษฐ์ พุทฺธชโย พระเลขานุการหลวงพ่อสมานหรือพระนิเทศศาสนคุณ เจ้าอาวาสวัดอาฮงศิลาวาส เปิดเผยว่าหลวงพ่อสมาน ท่านได้เห็นรอยประหลาดนี้ แล้วบอกสั้นๆว่า“มันเป็นเรื่องของธรรมชาติ” แต่เท่าที่เห็นขอยืนยันว่า ไม่มีใครไปทำให้ปรากฏเป็นรอยประหลาดขึ้น บนก้อนหินแน่นอนไม่รู้จะเกี่ยวกับทางวัดอาฮง ร่วมกับวัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬ เชิญ ดร.ทองดี ลำต้น ประธานภูมิปัญญาวัฒนธรรมประชาคมอาเซียน ช่างฝีมือดีมาแกะสลักต้นเทียนพรรษาขนาดใหญ่สูง4 เมตรเล่าเรื่องราวของพระพุทธเจ้าน้อยและตำนานพญานาคโดยจะมีขบวนแห่และรำบวงสรวงพญานาคอยู่ภายในวัดของนักศึกษา ม.ราชภัฎอุดรธานี ในวันที่10 มิย.ก่อนจะร่วมขบวนแห่ของจังหวัดบึงกาฬในวันที่ 11 มิย. ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าชาวบ้านและคอหวยที่ไปดูรอยประหลาดนี้ต่างมองเห็นเลขเด็ดตามรอยพญานาคที่เกี้ยวพันกันไปมาบนก้อนหินตีเป็นเลขเด็ด310, 210 นำไปซื้อลอตเตอรี่ที่ช่วงนี้ขายไม่ดีเนื่องจากข่าวลอตเตอรี่หาย ทำเอาแผงขายหรือคนเดินขายลอตเตอรี่คึกคักขายดีตามๆกัน .
‘>