LINE : ติดต่อผู้ดูแล

ยินต้อนรับเว็บไซต์ข่าวสารเพจข่าวท้องถิ่นบึงกาฬ

วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2024
ข่าวเด่นบึงกาฬ

อิ่มบุญสุขใจเที่ยวอีสานเหนือ ที่บึงกาฬ

เคยถามตัวเองไหมคะ ว่าหยุดเสาร์อาทิตย์นี้ไปไหนกันดี ?  ดิฉันเป็นอีกคนค่ะ ที่พยายามคิดหาโปรแกรมไปเที่ยวเสาร์อาทิตย์ และทริปนี้คำตอบก็คือ  อีสานเหนือ  เราเริ่มออกเดินทางแต่หัวค่ำ จากกรุงเทพ มุ่งตรงสู่อำเภออำเภอศรีวิไล ตำบลนาสะแบง จังหวัดบึงกาฬ  เพื่อไปวัดเจติยาคิรีวิหาร  หรือที่ใครๆรู้จักในนาม

วัดภูทอกนั้นมีพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ เป็นผู้ก่อตั้ง   ภูทอกนั้น มี ภูเขา 2 ลูก คือภูทอกใหญ่ และ ภูทอกน้อย  ส่วนที่นักแสวงบุญและนักท่องเที่ยวสามารถชมได้คือ ภูทอกน้อย   จุดเด่นของภูทอกนั้น คือสะพานไม้และบันไดขึ้นชมทัศนียภาพรอบๆ  บันไดเวียนไปมา มีทั้งหมด 7 ชั้น  คนที่กลัวความสูงดิฉันว่า คงจะเสียวน่าดูในการย่างก้าวแต่ละก้าว แต่โชคดีที่ดิฉันเป็นคนไม่กลัวความสูง เลยเดินสบายๆ ชมความงามเพลิดเพลินไปเลย แต่อย่างที่บอกว่าที่นี่เป็นวัด การจะเดิน หรือจะคุยพูดจากับเพื่อน ก็ควรเคารพกฏที่ทางวัดตั้งไว้ด้วย อย่าส่งเสียงดัง อย่าขีดเขียนหน้าผา

เราใช้เวลาอยู่ที่วัดภูทอก ประมาณ 3 ชม.   เดินจนถึงชั้นบนสุด ก็ได้เวลาที่เราต้องเดินทางต่อไปยังวัดสว่างอารมณ์  หรือวัดถ้ำศรีธน  ซึ่งยังอยู่ในเขตอำเภอปากคาด บึงกาฬ  วัดนี้เต็มไปด้วยหินน้อยใหญ่ เงียบสงบ มีโบสถ์ตั้งอยู่บนหินก้อนใหญ่ มีหลืบถ้ำด้านล่างเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปไสยาสน์ปางปรินิพพาน  บริเวณด้านบนก้อนหินเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของแม่น้ำโขง

จากนั้นเราแวะวัดอาฮงศิลาวาส จุดชมสะดือแม่น้ำโขง ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่บ้านอาฮง หมู่ 3 ต.ไคสี   ชมวิวแม่น้ำโขงกัน จากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่เล่าต่อๆกันมาว่า มีคนได้ลองวัดระดับความลึกของสะดือแม่น้ำโขงแห่งนี้ โดยการเอาหินผูกเชือกหย่อนลงไป ซึ่งเชือกที่หย่อนมีความยามประมาณ 108 เมตร แต่นั่นเป็นการบอกเล่าต่อกันมาของชาวบ้านเท่านั้น  ว่ากันว่า บริเวณแก่งอาฮงเป็นถ้ำขนาดใหญ่ มีปากถ้ำลอดภูเขาไปทะลุที่เขางู ตรงข้ามกับแก่งอาฮงในฝั่งลาวมีน้ำไหลเชี่ยวเป็นน้ำวน ชาวบ้านสมัยก่อนมีความเชื่อว่า ลึกลงไปเป็นวังบาดาลของพญานาค และเป็นแหล่งกำเนิดบั้งไฟพญานาคแห่งแรกของแม่น้ำโขงอีกด้วย

ออกจากวัดอาฮง เราแวะอีกวัดสุดท้าย ของบึงกาฬทริปนี้ คือวัดสว่างอารมณ์

ประวัติความเป็นมาของวัดสว่างอารมณ์ เดิมบริเวณนี้เป็นที่อยู่ของชาวบ้านปากกล้วย ซึ่งอพยพมาจากแขวงเมืองปากซัน ประเทศลาว ขณะนั้นบริเวณนี้ยังเป็นป่าดงดิบรกทึบเต็มไปด้วยสัตว์ป่านานาชนิด ซึ่งในแต่ละปีจะมีพระธุดงค์ผ่านมาพำนักอยู่เป็นประจำ เพราะเป็นสถานที่เงียบสงบ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม ชาวบ้านจึงนิมนต์ให้ท่านจำพรรษาอยู่เพื่อให้เป็นวัดที่สมบูรณ์ครบองค์ประกอบ

ต่อมาพระอธิการด่อน อินทสาโร หรือหลวงปู่ด่อน ซึ่งเป็นพระที่ชาวบ้านปากคาดนับถือ ได้สร้างวัดเป็นรูปเป็นร่างขึ้น และเจริญมาเป็นลำดับจนถึงปัจจุบัน เหตุที่เรียกกันอีกชื่อว่าวัดถ้ำศรีธนนั้นสันนิษฐานว่า อาจเป็นเพราะว่าวัดแห่งนี้อยู่ใกล้กับเมืองเป็งจานนครราช ซึ่งเป็นเมืองของท้าวศรีธนนั่นเอง

หลังจากทำบุญอิ่มอกอิ่มใจกันเรียบร้อย เรามุ่งหน้าสู่หนองคาย วันนี้เราจะฝากท้องมื้อกลางวัน ที่กินกันยามบ่าย ไว้ร้านแหนมเนืองชื่อดังที่หนองคาย    กินอิ่ม เดินย่อยตลาดท่าเสด็จกันต่อ  และด้วยวันนี้เป็นวันเสาร์  เย็นนี้ริมโขง จะมีถนนคนเดินให้เดินเล่นซื้อของ หาของกินยามค่ำ  แต่ด้วยโชคร้ายช่วงที่ดิฉันไปฝนตกหนักเลยค่ะ เลยไม่มีรูปมาฝาก ถ้าหากมีโอกาสได้ไปอย่าลืมแวะชมกันนะคะ

เช้าวันอาทิตย์  เราตื่นกันแต่เช้า วันนี้เราจะไปทานข้าวเช้ากันที่ตลาดโพธิ์ชัย   หลังตลาดโพธิ์ชัย เราเดินทะลุไปไหว้หลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพ  และระหว่างทางกลับกรุงเทพนั้น  เราสามารถซื้อหม่ำ อาหารอีสานยอดฮิต ซึ่งเป็นการถนอมอาหารที่มีมานานเป็นของฝากกัน  ซึ่งขายอยู่ข้างทางจังหวัดขอนแก่น

หม่ำจะมีส่วนผสมจากเนื้อหมู หรือเนื้อวัวบด ตับ กระเทียม หรือเครื่องในมาบดสับให้ละเอียด ยัดในไส้หมูอีกที สีของหม่ำจะเข้มกว่าไส้กรอก เพราะมีส่วนผสมมากกว่า จะมีราคาแพงกว่ากว่าไส้กรอก ดิฉันเห็นแล้วยังหยุดใจไม่ได้ บอกคนขับรถจอด ๆ แวะซื้อทันที

เอื้อเฟื้อเรื่องราวและภาพถ่าย  นางสาวสุจิตรา เชาว์ดี  

เว็บ https://www.facebook.com/sujitrach

เพจตะลอนเที่ยวไปกับตาล https://www.facebook.com/438192926268514

ที่มา http://travel.sanook.com/1395513/

‘>

ข่าวเด่นบึงกาฬ ล่าสุด

อัพเดทล่าสุด