เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 15 ก.ค.ที่สำนักงานเขตอุทยานแห่งชาติภูลังกา อ.บ้านแพง จ.นครพนม นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 และที่ปรึกษาหน่วยพญาเสือ นายพนัชกร โพธิบัณฑิต นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) นายพีรวัส เมฆิน ผอ.ทสจ.บึงกาฬ ได้แถลงผลการจับกุมขบวนการค้าไม้พะยูงข้ามชาติ โดยได้จับกุม นายวินัย จันทร์อุ่ม อายุ 35 ปีในข้อหามีไม้พะยูงแปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต(ยังนับไม่เสร็จ) ตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต มียาเสพติดประเภท 1(ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บึงโขงหลง ดำเนินคดีตามกฎมาย
ดังนั้น จึงได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นจับกุม นายวินัย จันทร์อุ่ม อายุ 35 ปีเจ้าของบ้านดังกล่าว ซึ่งได้แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน พร้อมกับพบของกลางเป็นไม้พะยูงแปรรูปทั้งแบบชนิดท่อนและเหลี่ยม เป็นจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านพักห่างจากปั้มน้ำมันประมาณ 15 เมตร และพบไม้พะยูงทั้งแปรรูปและยังไม่แปรรูปอีกเป็นจำนวนมาก ซุกซ่อนอยู่ในโกดังด้านหลังปั้มน้ำมัน ซึ่งตั้งเป็นโรงงานแปรรูปไม้และยังพบอุปกรณ์การตัดไม้แปรรูปไม้ แท่นเครื่องเลื่อยไม้ขนาดใหญ่ เลื่อยโซ่ยนต์ ตาชั่ง และอื่นๆอีกจำนวนมาก และยังพบยาเสพติด(ยาบ้า) จำนวน 1,723 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในบ้านพัก จึงร่วมกันตรวจยึดเป็นของกลางและรถยนต์ที่ใช้กระทำผิดอีกจำนวน 3 คัน พร้อมนำตัวนายวินัย จันทร์อุ่ม ผู้ต้องหามาสอบสวนที่เขตอุทยานแห่งชาติภูลังกา อ.บ้านแพง จ.นครพนม ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาขนไม้พะยูงของกลางนานกว่า 12 ชั่วโมง จนถึงช่วงเย็นวันนี้เวลา 16.00 น.ยังตรวจนับและวัดปริมาตรไม้ของกลางยังไม่แล้วเสร็จ คาดจะมีน้ำหนักมากกว่า 5 ต้นและมากกว่า 1,000 ท่อน/เหลี่ยม/แผ่น
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่าจากการขยายผลการจับกุมขบวนการค้าไม้พะยูงข้ามชาติ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ มีการบอนไม้อำพรางไปสวมโฉนดในที่ดินโฉนด แต่ว่าเจ้าหน้าที่จับกุมไม่ได้ก่อนแล้วก็ขยายผลมาภายในช่วงแรกมีการจับกุมได้ 8 คนแล้วก็ขยายผลจับมาสุดท้ายจับได้ 31 คน แล้วก็ติดตามมาโดยมีทีมงานที่ที่ต้องยอมรับว่าการติดตามและมีการขยายผลจากขยายผลอื่นๆ จากเทคโนโลยีของหน่วยพญาเสือกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช แล้วก็ขยายคนมาติดตามมาจนถึง จ.กาฬสินธุ์แล้วก็ไปที่ช่องเม็กของ จ.มุกดาหาร สุดท้ายก็หลังจากวันอาทิตย์ก็ติดตามมาแล้วก็ขอหมายศาลค้นที่บึงกาฬ ที่มาที่ไปการแกะรอยการสืบค้นจากกระบวนการเรารู้ว่าในกระบวนการนำไม้พะยูงซึ่งมาสวมบ้างใช้หลักฐานการได้มาจากมาตรามาตรา 7 ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 อ้างว่ามีหลักฐานครอบครอง สวมไปสวมมาแล้วก็นำออกนอกประเทศ มาจับได้ขณะที่การกระทำผิดก็ยอมรับไป แต่วันนี้เรามาตรวจค้นโดยถือว่าเราครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เราจับกุมในเคสที่ใหญ่ที่สุดของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชของกรมป่าไม้ร่วมกัน
วันนี้ก็มีทาง ทสจ.บึงกาฬ ฝ่ายปกครอง ที่สำคัญคือกรมป่าไม้และน้องๆ ทหารมาร่วมตั้งแต่คืนแรก เมื่อคืนยังไม่นอนเลยเราก็เฝ้าวัดและนับไม้กันทั้งคืน ที่สำคัญที่สุดคือขบวนการนี้ในการเฝ้าระวังต้องให้เครดิตกับหน่วยงานของหน่วยพญาเสือ คือทีมงานของนายพนัชกร น้องเก้า น้องหนุ่ย และสาธิต แล้วก็ทีมงานของหน่วยพญาเสือที่มาเฝ้าระวังและติดตามจนเจอของกลางได้ขนาดนี้ นอกจากนี้ยังได้ยึดของกลางมีรถยนต์รถบรรทุก 6 ล้อ 1 คัน 4 ล้อ 1 คันของกลางอื่นๆ ก็จะมีเลื่อยโซ่ยนต์ กบไฟฟ้า ตาชั่งกิโลตราชั่งขนาดเล็กขนาดใหญ่และที่สำคัญที่สุดคือยึดยาบ้าอีกประมาณ 1,723 เม็ด เป็นตัวบ่งชี้นำกระบวนการนี้ก็จะเจออุปกรณ์อย่างนี้ พื้นที่ของผู้ต้องหา เป็น สปก.มีเนื้อที่ประมาณ 5-7 ไร่ จะมีสระน้ำด้านหลังบ้านจะมีเครื่องมือเครื่องไม้การแปรรูปไม้มีการตั้งโรงงานวัดเครื่องมือร่วมกับอุตสาหกรรมจังหวัดบึงกาฬหลายๆจุดรวมกัน ที่เป็นเครื่องมือขนาดใหญ่ประมาณ 40 แรงม้าก็ยังไม่ถึง 50 แรงม้า ก็ยังไม่ต้องขออนุญาตอุตสาหกรรมในการตั้งโรงงาน แต่กรมไม้ก็ต้องแจ้งข้อกล่าวหาตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยไม่รับอนุญาต
ส่วนเครื่องมือที่มีเขาขออนุญาตโดยการใช้ไม้ยูคาลิปตัสกับไม้ยางปิดหน้าไว้ แต่ที่สำคัญที่สุดคือขี้เลื่อยทั้งเศษปลายไม้หัวไม้ใบไม้เป็นไม้พะยูงทั้งสิ้น การขยายผลเราจะต้องแจ้งพนักงานสอบสวนให้ยึดทรัพย์อยู่แล้ว จากตรงนี้ที่เราเห็นไม้พะยูงที่ยึดได้จะมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 30-40 ล้านบาท ขนาดไม้ท่อนใหญ่ๆ 2 ท่อนราคาประมาณท่อนละ 1 ล้านบาทแล้ว ส่วนตัวผู้ต้องหาถือว่าเขากล้ามากพอสมควรเราเจอเขาไม่กลัวเราเลย สอบถามสอบสวนเขาแล้วดูท่าทีไม่เกรงกลัวเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้น การนำไม้พะยูงออกไปประเทศเพื่อนบ้าน เชื่อว่าจะถึงมือประเทศที่ 3 แน่นอน มีการส่งราคากันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย แต่ที่ยังมีไม้พะยูงกองอยู่จำนวนมาก ก็เนื่องจากมันยังไม่ได้ราคาสูงที่น่าพอใจ เขาถึงยังไม่ยอมส่งออก ส่วนผู้ต้องหาที่จับได้ยอมรับว่าเครื่องไม้เครื่องมือเครื่องจักรรวมทั้งไม้ที่ยึดได้ยอมรับว่าเป็นของเขาคนเดียวไม่ซัดทอดให้ใครแม้แต่คนเดียว ดูเหมือนเป็นมืออาชีพจริงๆ ส่วนท่านนายวราวุธ ศิลปะอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษาฯ นายธัญญา เนติธรรมกุล ได้สั่งการโดยเด็ดขาดว่าให้กัดไม่ปล่อย ตามหากระบวนการแล้วก็รื้อถอนรากถอนโคนให้ได้
ด้านนายพนัชกร โพธิบันฑิต นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ)กล่าวว่าวันนี้เป็นการขยายผลมาจากการจับกุมผู้ต้องหาในจังหวัดศรีสะ มีการขยายผลจากการใช้โทรศัพท์ หลักฐานการโอนเงิน วันนี้ที่เราตรวจยึดได้ก็จะขยายผลอย่างนั้นเหมือนกัน หากใครที่อยู่ในขบวนการนี้ก็จะถูกเข้าไปสอบทั้งหมดเช่นกัน.
‘>