ใครมีญาติพี่น้องในจังหวัดบึงกาฬโดนหลอกให้ไปดาวน์รถจักรยานยนต์กับบริษัทเจียง ติดต่อสภาทนายความจังหวัดบึงกาฬ ด่วน !!!
ประธานสภาทนายความจังหวัดบึงกาฬ แฉกลโกงแนวใหม่นายหน้าหลอกลวงประชาชนให้ไปทำยอดขายหรือทำเคส กับบริษัทขายรถจักรยานยนต์จะได้ค่าดำเนินการคนละ 4-5,000 บาท อ้างทำมานานแล้วไม่มีปัญหา มีผู้หลงเชื่อกว่า 1,000 คน สุดท้ายโดนบริษัทไฟแนนซ์ฟ้องรายละ 100,000-140,000 บาท ค่าเสียหายกว่า 100 ล้านบาท แห่แจ้งความแน่นโรงพัก
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 23 ก.ค.ผู้สื่อข่าวจังหวัดบึงกาฬ ได้รับการเปิดเผยจาก นายบุญมา สายสุพรรณ์ ประธานสภาทนายความจังหวัดบึงกาฬ ว่ามีคดีแปลกใหม่เกิดขึ้นในจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งมีประชาชนกว่า 1 พันคนตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพ และได้มาขอความช่วยเหลือด้านคดีจากสภาทนายความจังหวัดบึงกาฬ จึงได้รับเรื่องราวเอาไว้เพื่อหาทางช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ยิ่งอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจถดถอยแบบนี้ ประชาชนหลายคนตกงาน จึงเป็นช่องว่างให้แก๊งมิจฉาชีพได้คิดวิธีหลอกลวงพี่น้องประชาชนแบบใหม่ๆ ออกมาหากินบนความทุกข์ยากของชาวบ้าน
เมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2562 ได้มีกลุ่มนายหน้าวางแผนเป็นกระบวนการหลอกลวงประชาชนในเขตจังหวัดบึงกาฬ โดยบอกว่าจะพาไปทำยอดขาย(ทำเคส) ที่บริษัทเจียงฯในจังหวัดบึงกาฬหลายสาขา โดยจะได้ค่าจ้างรายละ 4,000 – 5,000 บาท แต่จะไม่ได้รับรถจักรยานยนต์
วิธีการหลอกของกลุ่มนายหน้าจะมอบโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าโดยใส่ซิมการ์ดซึ่งเป็นของกลุ่มนายหน้าเอง มอบให้ผู้เสียหายถือเข้าไปในบริษัทเจียงฯ หลังจากเข้าไปที่บริษัทเเล้วทางพนักงานจะนำสำเนาทะเบียนบ้านพร้อมบัตรประชาชนของผู้เสียหายได้นำไปถ่ายเอกสารและนำมาให้ผู้เสียหายลงลายมือชื่อรับรองเอกสารพร้อมลงรายชื่อในแบบฟอร์มสัญญาเช่า และแบบฟอร์มเปล่าอีกหลายฉบับ โดยผู้เสียหายยังยังไม่ได้อ่านรายละเอียดในเอกสารต่างๆ
หลังจากนั้นพนักงานให้ผู้เสียหายนั่งรอ ประมาณ 10 นาที โดยพนักงานเเจ้งว่าจะมีคนโทรเข้าคือบริษัทไฟแนนซ์ที่จะอนุมัติว่าเคสผ่านหรือไม่ โดยจะสอบถามชื่อ-สกุลของผู้เสียหาย อาชีพ และสวนยางกี่ไร่ โดยก่อนหน้านี้กลุ่มนายหน้าจะเขียนเบอร์โทรใส่กระดาษพร้อมกับยี่ห้อรถ รุ่นรถจักรยานยนต์ และจำนวนไร่ยางพาราว่ามี 30 ไร่ ให้ผู้เสียหายแจ้งกับคนที่โทรมาสอบถามตามรายการที่จดให้ หลังจากที่ทำเคสผ่านพนักงานของบริษัทเจียงฯก็จะพาเดินไปถ่ายรูปยืนคู่กับรถจักรยานยนต์ในบริษัทเเละบอกว่าเสร็จแล้วให้กลับบ้านได้ หลังจากผู้เสียหายออกจากบริษัทเจียงฯโดยไม่ได้รับรถจักรยานยนต์แต่อย่างใด ออกมาพบกลุ่มนายหน้าที่อยู่หน้าบริษัทเจียงฯแล้วกลุ่มนายหน้าก็ได้ขอโทรศัพท์มือถือคืนและมอบเงินให้ 4,000 – 5,000 บาทให้แก่ผู้เสียหาย หลังจากนั้นก็พาผู้เสียหายกลับบ้าน ในระหว่างทางกลับบ้านกลุ่มนายหน้าก็บอกว่า “หากได้รับเอกสารทวงถามหนี้ก็ไม่ต้องสนใจ ให้ทำลายทิ้งได้เลย หากถูกฟ้องเป็นคดีก็ไม่ต้องไปศาลเพราะบริษัทเจียงฯจะเป็นคนรับผิดชอบและเคยทำในลักษณะนี้มาหลายรายแล้ว แต่จะเสียเครดิตประมาณ 6 เดือนเท่านั้น” เรื่องทั้งหมดก็จบโดยไม่มีปัญหาใดๆ
ต่อมาบริษัทอยุธยา แคปปิตอลฯ ฟ้องเรียกค่าเสียหายในข้อหาผิดสัญญาเช่าซื้อ โดยเรียกค่าเสียหายประมาณรายละ 100,000 บาท เป็นจำนวนหลายรายแล้ว ทางกลุ่มผู้เสียหายจึงมาขอความช่วยเหลือจากสภาทนายความจังหวัดบึงกาฬ เพื่อต่อสู้คดีแพ่งในส่วนที่บริษัทอยุธยา แคปปิตอลฯ ฟ้องเรียกค่าเสียหาย ส่วนคดีอาญานั้นทางผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มนายหน้า พร้อมพวกที่หลอกลวงเป็นขบวนการที่ทำให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจในจังหวัดบึงกาฬ
ณ ตอนนี้มีผู้เสียหายทั้งจังหวัดบึงกาฬประมาณ 1,000 ราย หากท่านคิดว่าเป็นหนึ่งในผู้เสียหายกรุณาติดต่อ นายบุญมา สายสุพรรณ์ ประธานสภาทนายความจังหวัดบึงกาฬ 081-9542817
‘>