จากกรณีคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 20-30 ปี สูงประมาณ 175 เซนติเมตร สวมหน้ากากอนามัยสีดำ สวมเสื้อยึดแขนยาวสีเทา สวมกางเกงขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว สวมหมวกแก๊ปสีเหลือง ก่อเหตุชิงทรัพย์เป็นทองรูปพรรณของร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ในห้างโลตัสสาขาบึงกาฬ โดยใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดบุกเดี่ยวเข้าจี้พนักงานขายทอง 5 คนที่กำลังเก็บทองเข้าตู้เซฟก่อนปิดร้าน ได้ทองไปหนักประมาณ 70 บาท แล้ววิ่งออกจากห้างไปขึ้นรถฮอนด้าเวฟสีน้ำเงินไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนไป เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 19.30 น.เมื่อคืนผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวนสามารถตามจับกุมตัวมาได้ ยอมรับสารภาพ แต่ทองที่ได้ไปอ้างเอาให้เพื่อนร่วมแก๊งไปหมด
ความคืบหน้าเกี่ยวคดี เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 1 ส.ค.ที่สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ รอง ผบช.ภ.4 ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มาติดตามความคืบหน้าพร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนผู้ต้องหาที่จับตัวมาได้แล้ว 1 คน คือ นายเฉลิมพงศ์หรือเสือ เพชรตะกั่ว อายุ 20 ปีบ้านเลขที่ 20 หมูที่ 6 บ้านโนนก่อ ต.โนนศิลา อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ และยังเหลือเพื่อนร่วมขบวนการอีก 1 คนที่ยังหลบหนีไปพร้อมทองรูปพรรณทีชิงมาได้ พร้อมกับเรียกตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนและส่วนเกี่ยวข้องเข้าห้องประชุมลับ ซึ่งมี พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ พ.ต.อ.สมศกดิ์. คงไพบูลย์ รอง ผบกฯ พ.ต.อ.อนุกูล ดาวลอย รอง ผบกฯ พ.ต.อ.สุกฤษณ์ ข้อร่วมคิด ผกก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ พ.ต.อ.ชนินทร์ จิตรแจ้ง ผกก.สภ.เมืองบึงกาฬ พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ พงศ์เพ็งธรรม นวท(สบ4) พฐ.จว.บึงกาฬ พ.ต.ท.จรูญศักดิ์ ลำพุทธา รอง ผกก.สส.พ.ต.ท.อดุลย์ ฉิมทับ รอง ผกก.ป พ.ต.ท.สุพิชา บุตรเชียงคำ สว.สืบสวน กก.สส.ภ.จ.บึงกาฬ พ.ต.ท.ฉายยนต์ ชาวดอน รอง ผกก.(สอบสวน) เจ้าของคดีและพ.ต.ท.พลสันติ์ คมขาว ผบ.ร้อยตชด.224
โดยไม่ให้สื่อมวลชนทั้งส่วนกลางและท้องถิ่นเข้าไปบันทึกภาพ โดยบรรยากาศในห้องประชุมเป็นไปด้วยความตรึงเครียด เนื่องจากได้รับทราบว่าตัวผู้ต้องหาที่จับมาไม่ค่อยจะให้ความร่วมมือกับทีมสอบสวน หลังประชุมเสร็จ รอง ผบ.ตร.ได้ไปสอบปากคำนายเฉลิมพงศ์ ผู้ต้องหาโดยตรงที่อยู่อีกห้อง จากนั้นได้เดินทางไปยังสนาม ฮ.ที่กองร้อย ตชด.244 เพื่อเดินทางกลับและให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ไปรอทำข่าว
พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้มาติดตามความคืบหน้าของคดีจี้ชิงทอง ส่วนทองที่ชิงไปผู้สื่อข่าวถามว่าได้คืนมาบ้างไหม รอง ผบ.ตร.ก็ตอบว่ายังไม่เรียบร้อยอยู่ระหว่างการขยายผล ส่วนผู้ต้องหามีกี่คนแน่นั้นก็ตอบว่าอยู่ระหว่างการสอบสวนสืบสวนต้องให้เวลา ฝ่ายสอบสวน ผู้ต้องหาก็ยอมรับสารภาพ ส่วนทำด้วยกันกี่คนนั้นก็กำลังสอบอยู่ เหตุจูงใจในการลงมือชิงทองครั้งนี้มาจากความต้องการเงินมาใช้จ่าย ส่วนจะนำเงินไปใช้อะไรนั้นพนักงานสอบสวนต้องสอบสวนอย่างรอบคอบอีกครั้งหนึ่ง และตนพอใจในการปฏิบัติงานที่จับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็วของเจ้าหน้าที่ตำรวจบึงกาฬ
พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ กล่าวว่าขอฝากถึงพี่น้องประชาชนถ้าพบเบาะแสการกระทำความผิดหรือพบบุคคลต้องสงสัยในลักษณะที่จะก่อเหตุร้ายให้ช่วยเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนป้องกันปราบปรามจะได้ป้องกันเหตุไม่ให้เกิดเหตุลักษณะซ้ำซ้อนแบบนี้
ส่วนการติดตามไล่ลาจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็วเพียง 4 ชั่วโมงเท่านั้น พ.ต.ท.อดุลย์ ฉิมทับ รอง ผกก.ป.กล่าวว่าหลังก่อเหตุชิงทองคนร้ายได้ทองรูปพรรณไปทั้งสิ้นเป็นสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 บาทจำนวน 10 เส้น , สร้อยข้อมือทองคำน้ำหนัก 1 บาท จำนวน 26 เส้น , สร้อยข้อมือทองคำน้ำหนัก 2 บาทจำนวน1 เส้น รวมน้ำหนักทองคำประมาณ 90 บาท คิดเป็นค่าเสียหายประมาณ 2,700,000 บาท แล้วขี่รถ จยย.หลบหนี จึงได้ระดมทีมสืบสวนกระจายกำลังออกตามหาตัวผู้ต้องสงสัย ซึ่งคนร้ายได้ขี่รถ จยย.เลี้ยวซ้ายออกจากห้างโลตัสไปตามถนน 222 บึงกาฬ-พังโคน และไปทำหมวกแก๊ปสีเหลืองหล่นหน้าปากทางเข้าหมู่บ้านมาสเตอร์ และไปถูกตำรวจ สภ.พรเจริญ ตั้งด่านตรวจตามคำสั่งของ พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ จับกุมและนำตัวมาสอบสวนเบื้องต้นที่โรงพักพรเจริญและยอมรับเป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้ชิงทองจริง จึงคุมตัวมาสอบสวน ที่ สภ.เมืองบึงกาฬ เบื้องต้นยอมรับว่านำรถซาเล้งพ่วงข้างของแม่ตัวเองมาถอดตัวพ่วงออกแล้วนำมาก่อเหตุ มีเพื่อนรุ่นพี่เป็นผู้ร่วมก่อเหตุด้วย โดยเป็นผู้มาดูลาดเลาและดูต้นทาง ก่อเหตุเสร็จตนได้นำเอาทองทั้งหมดให้รุ่นพี่ไป ให้เงินมา 1,500 บาทบอกว่าจะเอาทองไปขายที่ จ.ปทุมธานี แล้วจะโอนเงินมาให้ทีหลัง
ซึ่งให้การวกไปวนมาแบบมีพิรุธไม่น่าเชื่อถือจึงต้องสอบอีกต่อไปเพื่อให้คลายทองออกมาให้ได้
จากนั้นนายเฉลิมพงศ์หรือเสือ เพชรตะกั่ว ผู้ต้องหาออกมาจากห้างโลตัสแล้วได้เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดจี้ชิงทองทิ้งที่ทางเข้าหมู่บ้านหนองนาแซง ห่างบึงกาฬ 5 กม.และพาเจ้าหน้าที่ไปเก็บของกลางได้มาครบทั้งรองเท้าผ้าใบสีขาว หน้ากากสีดำ เสื้อยืดแขนยาวสีเทาและกางเกงวอร์มสีดำ ส่วนอาวุธปืนที่ใช้จี้พนักงานสาวขายทองเป็นอาวุธปืนเด็กเล่นก่อเหตุเสร็จได้โยนทิ้งไป แล้วจึงขี่รถหนีจะไปหาแฟนที่ จ.สกลนครและถูกด่านตรวจ สภ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ จับกุมได้ดังกล่าว
‘>