LINE : ติดต่อผู้ดูแล

ยินต้อนรับเว็บไซต์ข่าวสารเพจข่าวท้องถิ่นบึงกาฬ

วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2024
ข่าวเด่นบึงกาฬ

อ.ปากคาด-สุดรันทด!!พ่อติดคุกแม่ทิ้งพี่สาว ป.4 หอบน้องสาว 2 ขวบไปเลี้ยงในห้องเรียน

[ae-fb-embed url=’https://www.facebook.com/khaosod/videos/1352456251614580/?vh=e’ width=’500′ showtext=’true’ showcaptions=’true’ allowfullscreen=’true’ autoplay=’true’]

สุดแสนรันทดครอบครัวบ้านแตกพ่อไปติดคุกถูกแม่ทิ้งปล่อยให้อยู่กับญาติที่หาเช้ากินค่ำ พี่สาววัย 10 เดือนเรียนชั้น ป 4 จึงนำน้องสาววัย 2 ขวบเดินไม่ได้พูดไม่เป็นไปเลี้ยงในห้องเรียนด้วย ทำให้ผลการเรียนตกจากที่เคยได้เกรด 3.5 ขึ้นไป บ้านก็ไม่แข็งแรงปลอดภัย วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 14 ส.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดบึงกาฬว่า ที่โรงเรียนบ้านห้วยไม้ซอด หมู่ที่ 9 บ้านห้วยไม้ซอด ต.ปากคาด อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ ได้มีนักเรียนหญิงชั้น ป.4 นำน้องสาววัย 2 ขวบที่พูดยังไม่ได้เดินไม่เป็นแต่ฟังการสื่อสารพอรู้เรื่องไปเลี้ยงในห้องเรียนด้วย เนื่องจากไม่มีญาติดูแล จึงเดินทางไปตรวจสอบได้พบกับ นางสาวศิริอร เหลาคำ ครูสอนภาษาจีน ซึ่งเป็นผู้ประสานและติดต่อทางผู้สื่อข่าว เพื่อหาทางช่วยเหลือครอบครัวเด็กนักเรียนคนดังกล่าว ซึ่งฐานะยากจนแต่เป็นเด็กเรียนดีและไม่มีผู้ดูแลขณะมาโรงเรียน

นางสาวศิริอร เหลาคำหรือครูก้อย ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เด็กหญิงคนดังกล่าวชื่อ เกวลิน สำรี อายุ 10 ปีนักเรียนชั้น ป.4 เป็นเด็กที่เรียนดีคนหนึ่งเกรดเฉลี่ยที่ออกใบรับรองให้เมื่อเดือน กรกฎาคม 2563 ผ่านมาได้ 3.35 หลังจากโรงเรียนปิดจากพิษโควิดมานานหลายเดือน เมื่อเปิดเรียนใหม่ต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาทาง นายเดชสมัย วรรณคำโกฏิ์ผู้อำนวยการโรงเรียนได้จัดโครงการออกเยี่ยมนักเรียนตามบ้านต่างๆ ซึ่งมีนักเรียนเรียนอยู่จำนวนกว่า 500 คน ขณะที่เปิดเรียนมาวันแรก เด็กหญิงเกวลิน สำรีหรือน้องญาญ่าได้มาขอครูประจำชั้นขออนุญาตนำน้องสาว ชื่อเด็กหญิงการ์ตูนเข้ามาเลี้ยงดูในห้องเรียนด้วย เนื่องจากที่บ้านไม่มีใครดูแล เพราะพ่อติดคดีความติดคุกอยู่ที่เรือนจำจังหวัดบึงกาฬ ส่วนแม่ก็เป็นคนต่างด้าว หลังคลอดน้องสาวก่อนกำหนด ออกมาได้ไม่กี่เดือน ก็ทิ้งน้องหนีกลับไปบ้านเกิดในประเทศเพื่อนบ้าน น้องญาญ่าได้อาศัยอยู่บ้านพักกับย่า อายุ 60 ปี 3 คน และมีอาหญิงบ้านข้างกันเป็นคนออกค่ารถให้มาโรงเรียนวันละ 20 บาท ซึ่งทั้งอาและย่าฐานะยากจน จึงต้องออกจากบ้านไปทำมาหากินโดยย่าต้องออกไปหาเก็บหอยเก็บผักตามหนองน้ำหรือทุ่งนามาขายตามตลาด หาเลี้ยงครอบครัว ส่วนอาผู้หญิงก็ต้องออกไปหาซื้อไก่ตามหมู่บ้านต่างๆ เพื่อมาชำแหละขายตลาดสดทุกวัน ทำให้ไม่มีใครดูแลน้องซึ่งเดินยังไม่ได้และก็พูดไม่เป็น เพราะน้องคลอดก่อนกำหนด คือคลอดตอนแม่ตั้งท้องได้ 6 เดือนเท่านั้น จึงไม่แข็งแรง เมื่อพี่สาวมาโรงเรียนแล้วกลางวันจะไม่มีใครอยู่บ้าน จึงต้องขออนุญาตคุณครูให้นำเอาน้องสาวมาเลี้ยงในห้องเรียนด้วย ก็จะมีทั้งเพื่อนๆ นักเรียนและคุณครูช่วยกันดูแล โดยให้น้องนั่งอยู่บนรถเข็น ถ้าง่วงก็ให้นอน

ทางด้าน นายเดชสมัย วรรณคำโกฏิ์ เล่าว่าเด็กหญิงเกวลินเป็นเด็กที่เรียนดีเกรดเฉลี่ย ได้ 3.5 ขึ้นทุกเทอม แต่มาระยะหลังนี้ช่วงนำน้องมาเลี้ยงในห้องเรียนด้วย ทำให้เป็นภาระและไม่มีสมาธิในการเรียนเท่าไหร่ จึงทำให้ผลการเรียนลดต่ำลงกว่ามาตรฐานที่เคยทำไว้ แต่เนื่องจากไม่มีญาติช่วยดูแลด้วยอยู่ที่บ้านจึงต้องจำเป็นพาน้องสาวเข้ามาเลี้ยงดูในห้องเรียนด้วย บางวันย่ากับอาไม่อยู่บ้านก็ได้มอบหมายให้คุณครูจันทร์เพ็ญ มหาชัย ครูประจำชั้น ป3/2 และครูการเงินใช้รถส่วนตัวไปรับ-ส่ง พร้อมกับทำกับข้าวจากโรงเรียนไปส่งถึงบ้านพักอีกด้วย ก็ได้แจ้งไปทางบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดบึงกาฬได้ลงพื้นที่มาดูแลและประเมินสภาพแวดล้อมและชุมชนไปแล้ว ส่วนบ้านพักของเด็กหญิงเกวลิน ก็พบว่าดูไม่แข็งแรง หลายแห่ง ประตูก็ปิดล็อคไม่ได้ทั้งห้องน้ำห้องส้วมห้องครัวฝาบ้านก็ยังทำไม่เสร็จหลายแห่ง จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อร่างกายและทรัพย์สินได้ จึงอยากจะร้องขอวอนผู้ใจบุญได้ช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านให้ เด็กหญิงเกวลินและน้องสาวได้อยู่อย่างปลอดภัยด้วย เบื้องต้นนี้ต้องขอขอบคุณ นายบุญมา พันดวง นายกสมาคมวิทยุจังหวัดบึงกาฬ ที่มอบเงินช่วยเหลือจำนวน 10,000 บาทผ่าน นายอุดมสิน คำมุงคุณ รอง ผอ.สพป.บึงกาฬ เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย ค่ารถเดินทางมาโรงเรียน โดยจะเปิดบัญชีฝากธนาคารไว้ เป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคต่อไป.


 ‘>

ข่าวเด่นบึงกาฬ ล่าสุด

อัพเดทล่าสุด