ครอบครัวร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อรองปลัดกระทรวงยุติธรรม กรณี 4 ครูผู้หญิง ข้าราชการระดับซี 8 โรงเรียนบึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 4 ปี จากคดีช่วยเหลือผู้อำนวยการโรงเรียนยิงครูสอนดนตรีเสียชีวิต เมื่อปี 2552 หลังศาลยกฟ้อง ผอ. ทั้ง 3 ศาล
ขณะทีมงานของกระทรวงยุติธรรมที่ลงพื้นที่เก็บข้อมูล ระบุว่า หลังเกิดเหตุ 7 ชั่วโมง พบว่าตำรวจค้นประวัติอดีตตำรวจซึงถูกให้ออกจากราชการและรับงานเป็นมือปืนติดต่อกันถึง 5 ครั้ง มีประวัติเคยยิงครูเสียชีวิต ลักษณะคล้ายกับที่เกิดขึ้น ล่าสุด ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 4 สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรื้อคดีและสอบสวนใหม่อีกครั้งแล้ว
จากข่าว
จับผอ.โรงเรียนบึงโขงหลง จ.หนองคาย ผู้ต้องหาฆ่าครูศิลปะโรงเรียนเดียวกัน เผยตั้งวงดื่มเหล้ากันเมื่อต้นเดือนก่อน สุดท้ายโดนปืน-มีดเสียชีวิตปริศนา สอบครูร่วมวง เหล้าไม่พบพิรุธ กระทั่งพบเขม่าดินปืนที่มือผอ. จึงแจ้งข้อหา ส่วนเจ้าตัวยังปากแข็งให้การปฏิสธ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 10 เม.ย. พ.ต.ต. ศรีสันต์ เฟื่องสังข์ สว.สป สภ.บึงโขงหลง จ.หนองคาย เปิดเผยว่า ร่วมกันจับกุมนายชูศักดิ์ สุทธศรี ผอ.โรงเรียนบึงโขงหลงวิทยา ในข้อหาฆ่าคนตาย ตามคดีอาญาที่ 19/2552 อุกฉกรรจ์ ที่1/2552 ทั้งนี้เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 มี.ค.52 เวลา 20.50 น. ร.ต.ท.ชาติชัย วงษ์แสงจันทร์ พงส. สบ.1 รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีเหตุฆ่ากันตายที่เรือนพยาบาล โรงเรียนบึงโขงหลง ต.บึงโขงหลง อ.บึงโขงหลง จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยพ.ต.อ.ไพฑูรย์ ทองไพบูลย์ ผกก.สภ. บึงโขงหลง พ.ต.ท. จรัญ อั่งสนั่น รองผกก.ปป. พ.ต.ต.ศรีสันต์ เฟื่องสังข์ สว.สป. แพทย์นิติเวช ร.พ.บึงโขงหลง และกองพิสูจน์หลักฐานวิทยา การเขต 21 จ.นครราชสีมา
ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อภายหลังว่านายเพทาย อมัติรัตนะ อายุ 52 ปี เป็นครูร.ร.บึงโขงหลง สอนวิชาศิลป์และดนตรี สภาพศพนอนหงายจมกองเลือดอยู่ในที่เกิดเหตุ และยังพบครูที่ร.ร.เดียวกันอยู่ในที่เกิดเหตุจำ นวน 6 คน เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวมาสอบปากคำที่โรงพัก โดยนายชูศักดิ์ สุทธศรี ผอ.โรงเรียนบึงโขงหลงวิทยา ให้การว่าก่อนเกิดเหตุตนพร้อมเพื่อนข้าราชการครูนั่งดื่มเหล้ากันอยู่ในที่เกิดเหตุ จนเวลาประมาณ 20.10 น. ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด และห่างกันประมาณ 2-3 นาที ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก 2 นัด จนนายเพทายล้มลงกับพื้น ตนพร้อมเพื่อนข้าราชการครูที่นั่งอยู่ด้วยกันจึงวิ่งเข้าไปช่วยเหลือ แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตของผู้ตายไว้ได้
พ.ต.ต.ศรีสันต์ กล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อพยานที่ให้การ เพราะให้การแบบสอดคล้องกันอย่างมีพิรุธ และจากการตรวจบาดแผลของผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุพบว่า มีบาดแผลคล้ายโดนของมีคมแทงเข้าที่ลำตัวด้านซ้ายจำนวน 3 แผล ลึกประมาณ 10 ซ.ม. และถูกยิงที่บริเวณต้นแขนขวาเฉียงทะลุหลัง 1 นัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจเขม่าดินปืนที่มือของผู้ที่อยู่ที่ในที่เกิดเหตุทั้งหมด เพื่อส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ
จนกระทั่งผลพิสูจน์ทางการแพทย์และของกองพิสูจน์หลักฐาน ยืนยันว่านายเพทาย มีบาด แผลถูกแทงและถูกกระสุนปืน ซึ่งจากการชัน สูตรของแพทย์ ให้ความเห็นว่าสาเหตุการตายน่าจะมาจากถูกอาวุธมีดเสียชีวิต เนื่องจากบาด แผลที่ถูกอาวุธมีดนั้นเลือดจะตกมากกว่าบาด แผลที่ถูกอาวุธปืน ซึ่งกระสุนปืนตามที่ผู้ต้องสงสัยและพยานในที่เกิดเหตุให้การว่าโดนยิงจำนวน 3 นัดนั้น ถูกผู้ตายเพียงนัดเดียว และเป็นจุดที่ไม่ถูกอวัยวะสำคัญ จากการยืนยันของพยานรอบโรงเรียน ยืนยันว่าไม่มีผู้ใดวิ่งออกไปจากที่เกิดเหตุ หรือมีรถจักรยานยนต์ขับขี่ออกไปจากที่เกิดเหตุแต่อย่างใด จากพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ พยานบุคคล พยานแวดล้อมต่างๆ รวมถึงผลการตรวจเขม่าดินปืนที่ตัวนายชูศักดิ์ จึงเชื่อว่าเป็นคนลงมือฆ่าเพื่อนครูด้วยกัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญตัวมาแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนสาเหตุนั้นคาดว่าน่าจะทะ เลาะกันในวงสุรา ส่วนนายชูศักดิ์ผู้ต้องหาให้ การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอให้การในชั้นศาล ทางพนักงานสอบสวนจึงปล่อยตัวไปชั่วคราว เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นถึงผอ.โรงเรียน มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และจากพฤติกรรมไม่น่าจะหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บึงโขงหลง จะนัดส่งตัวผู้ต้องหารายนี้ไปยังอัยการเพื่อฟ้องศาลต่อไป’>