ฝนตกต่อเนื่อง 5 วัน ที่ จ.บึงกาฬ อุณหภูมิช่วงเช้าลดเหลือ 8 องศาเซลเซียส ทำให้คนป่วยหรือผู้สูงอายุที่มีความต้านทานน้อย ต้องหัวใจวายตายสังเวยความหนาวเย็นไปแล้ว 2 ราย…
เมื่อวันที่ 26 ม.ค. มีรายงานว่า หลังจากมีฝนตกลงมาเป็นระยะติดต่อกันมาเป็นเวลากว่า 5 วันในพื้นที่จ.บึงกาฬ ทำให้อุณหภูมิช่วงเช้าวันนี้ ( 26 ม.ค.) ลดเหลือ 8 องศาเซลเซียส
ล่าสุดเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 26 ม.ค 59 ร.ต.ท.ทินกร ดวงแสงจันทร์ ร้อยเวร สภ.เซกา อ.เซกา จ.บึงกาฬ รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตที่กระท่อมหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ที่ 7 บ้านสันกำแพง ต.ซาง อ.เซกา จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ รุดไปชันสูตรศพพร้อมด้วย พ.ต.อ.พิเชฐ วงษ์บุรี ผกก. นพ.ประเสริฐ ดิษฐ์สมบูรณ์ แพทย์ รพ.เซกา ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างศรีวิไลจุดเซกา และบึงโขงหลง ทราบชื่อนายนิค ชำนาญดี อายุ 54 ปี เสียชีวิตอยู่บนที่นอนลักษณะนอนขวาง ด้านบนศีรษะมีถ้วยชามกับข้าววางอยู่ ไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้าย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 ชั่วโมง
สอบถามนายชัย ชำนาญดี อายุ 45 ปี น้องชายของผู้ตายเล่าว่า ตนกับพี่ชายต่างไม่มีครอบครัว เลยมาพักอยู่บ้านเดียวกัน บางวันผู้ตายก็ลงมานอนอยู่ในกระท่อมข้างบ้านจุดเกิดเหตุช่วง 04.00 น. ตนก็มาเข้าห้องน้ำอากาศหนาวเย็นมากพร้อมกับมีลมแรง จึงเรียกให้ผู้ตายเข้าไปนอนในบ้าน แต่ผู้ตายบอกว่ามีผ้าห่มและเสื้อใส่หลายผืนอยู่ แต่พอรุ่งเช้าเห็นนอนตื่นสายผิดปกติจึงไปเรียกดูพบว่าเสียชีวิตแล้ว
อีกราย ร.ต.อ.ศตพร บุตตาสี ร้อยเวร สภ.ดอนหญ้านาง อ.พระเจริญ ได้รับแจ้งจาก นายอำนาจ สาบ้านบัว ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 บ้านหนองหัวช้าง ต.หนองหัวช้าง ว่าพบผู้เสียชีวิตอยู่ข้างบ้านเลขที่ 157 หมู่ที่ 1 บ้านหนองหัวช้าง จึงไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.พรเจริญ พบผู้ตายนอนหงายอยู่ข้างโอ่งน้ำ ทราบชื่อนายบรรจง โคตรเมืองยศ อายุ 53 ปี สภาพศพใส่เสื้อและกางเกงขาสั้น ข้างลำตัวมีตะกร้าใส่กระบอกน้ำวางอยู่ ไม่มีบาดแผลจากการถูกทำร้ายแต่อย่างใด คาดว่าตายมาแล้วประมาณ 2 ชั่วโมง
จากการสอบถามบ้านข้างเคียงทราบว่า ผู้ตายอาศัยอยู่บ้านหลังนี้เพียงคนเดียว หลังจากหย่าขาดจากภรรยามาแล้วหลายปี ทุกเช้าจะลุกมากรอกน้ำอยู่ในโอ่งข้างบ้านไปใส่ตู้เย็น เจ้าหน้าที่คาดว่าทั้ง 2 รายที่เสียชีวิต อาจเกิดจากร่างกายขาดความอบอุ่นทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่ทัน ทำให้เสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งญาติไม่ติดใจเรื่องการตาย จึงมอบให้ไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป.
http://www.thairath.co.th/content/568187’>