LINE : ติดต่อผู้ดูแล

ยินต้อนรับเว็บไซต์ข่าวสารเพจข่าวท้องถิ่นบึงกาฬ

วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2024
ข่าวสังคม-การเมือง

ผู้ว่าฯ-นายก อบจ.ขอบคุณ’วิษณุ’ ยกบึงกาฬเป็นโมเดลประชารัฐ-แก้ปัญหาโดยพึ่งตนเอง

16-8

เมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ในงานวันยางพาราและกาชาดบึงกาฬ 2559 จัดขึ้น โดยความร่วมมือของ จ.บึงกาฬ องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) บึงกาฬ เหล่ากาชาดบึงกาฬ หอการค้าจังหวัดบึงกาฬ และองค์การหน่วยงานราชการ เอกชน โดยในวันที่ 6 ยังคงมีประชาชนรวมถึงชาวลาวมาร่วมชมงานอย่างต่อเนื่อง แม้อากาศจะยังหนาวเย็น

นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ กล่าวถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ชื่นชมการจัดงาน “วันยางพาราบึงกาฬ” ว่าเป็นแบบอย่างประชารัฐ ที่รัฐ ประชาชน และเอกชนจับมือกัน รวมถึงเชิญเอกชนจากประเทศต่างๆ มาเพื่อร่วมการพัฒนายางให้ยั่งยืนว่า สิ่งที่ท่านรองนายกฯมาเห็นนั้น ต้องขอขอบคุณชาวบึงกาฬ เพราะเป็นความร่วมมือร่วมใจของชาวบึงกาฬทั้งหมด คนบึงกาฬรู้ว่ายางเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญ ราคาก็ย่อมมีขึ้นเเละลงตามกลไกราคาตลาด คนบึงกาฬส่วนใหญ่ที่เป็นเจ้าของสวนไม่ได้ว่าจ้างคนกรีดยาง ทำให้คนบึงกาฬไม่ได้รับผลกระทบมากเหมือนที่อื่น เเม้บึงกาฬจะมีพื้นที่ปลูกยางมาก แต่การปรับตัวอย่างรวดเร็วของชาวบึงกาฬทำให้เรารอดพ้นวิกฤตมาได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพารัฐบาลมากนัก

“นอกจากนี้ แกนนำและประชาชนในพื้นที่ร่วมมือกันดีมาก หาทางออกในการพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับยางได้อย่างกว้างขวางและรวดเร็ว จนทำให้เป็นการพัฒนารูปแบบประชารัฐ” นายพงษ์ศักดิ์กล่าวและว่า ที่รัฐบาลแนะนำให้ปลูกพืชเสริมนั้นคนบึงกาฬทำมานานแล้ว เช่น ตัดพื้นที่ 1 ใน 3 เป็นสวนผลไม้ เวลาที่ราคายางตกก็ไม่กรีดยาง เชื่อว่าหากวันข้างหน้าราคายางขึ้น คนบึงกาฬจะร่ำรวยที่สุด” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว

ด้านนายนิพนธ์ คนขยัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) บึงกาฬ กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณท่านรองนายกฯที่ชื่นชมการจัดการของบึงกาฬ รู้สึกดีใจเเทนประชาชน เจ้าหน้าที่ข้าราชการ เอกชน ทุกฝ่าย อย่างไรก็ตามการที่จะประสบความสำเร็จได้รัฐต้องเร่งให้การสนับสนุนด้านเงินลงทุน ต้องอนุมัติรวดเร็ว อย่างที่บึงกาฬเรารอการอนุมัติเงินกู้สร้างโรงงานมา 2 ปีเเล้ว

“ส่วนจังหวัดอื่นๆ ที่ต้องการจะดำเนินตามบึงกาฬโมเดล อยากจะปรึกษาหรือให้ช่วยเป็นพี่เลี้ยงก็ไม่ขัดข้อง อย่างล่าสุดผู้แทนจาก จ.พัทลุง ก็ติดต่อมาพูดคุยด้วย เป็นเรื่องที่ดีที่จังหวัดต่างๆ จะพูดคุยกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ” นายนิพนธ์กล่าว

นายจาง เหย็น ประธานคณะกรรมการบริหารจัดการโครงการรับเบอร์ วัลเล่ย์ บริษัท รับเบอร์ วัลเล่ย์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ปีนี้นำเครื่องกรีดยางอัตโนมัติรุ่นล่าสุดมาจัดแสดงที่งานยางพาราบึงกาฬ ใช้เวลาเพียง 12 นาทีในการติดตั้ง เเละมีตัวระบบป้องกันการขโมย ใช้ระบบรีโมตตั้งเวลากรีดยาง เลือกเวลากรีดยางได้พร้อมกัน ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวสวนยางมาก

นายจางกล่าวว่า ส่วนโครงการผลิตหมอนยางพาราของชุมชนสหกรณ์กองทุนสวนยาง จ.บึงกาฬ ที่เชิญบริษัทจำหน่ายหมอนยางพาราจาก จ.เชียงใหม่ เเละ จ.ภูเก็ต มาร่วมลงนามความร่วมมือ ซึ่งรับเบอร์วัลเล่ย์ก็ร่วมลงนามด้วย ทำให้ความร่วมมือพัฒนาผลิตภัณฑ์จากยางพาราเป็นรูปธรรมมากขึ้น

“เป็นจุดเด่นของชาวสวนยางบึงกาฬ ผมรู้สึกชื่นชมมาก เราจะช่วยดูเเลเรื่องการตลาดหมอนยางพาราของบึงกาฬไปขายที่ประเทศจีน เเละจะช่วยหานายทุนในประเทศจีนที่สนใจเป็นตัวเเทนจำหน่ายไปขาย ซึ่งในประเทศจีนตลาดหมอนเเละที่นอนยางพารากำลังบูมมาก คนจีนนิยมใช้ เป็นจังหวะที่ดีที่ต้องรีบทำ” นายจางกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เวทีปราชญ์ชาวบ้าน มีการเสวนาหัวข้อ “ไก่งวงเลี้ยงง่ายขายดี” โดยนายเชษฐา กัญญะพงศ์ ประธานชมรมผู้เลี้ยงไก่งวงภาคอีสาน กล่าวว่า การเลี้ยงไก่งวงในสวนยางพาราเป็นทางเลือกหนึ่ง เนื่องจากไก่งวงจะให้ปุ๋ยคุณภาพดีสำหรับต้นยางและพืชผลอื่นๆ นอกจากนี้ ไก่งวงยังช่วยกำจัดวัชพืช ขณะที่เนื้อไก่วงก็เป็นที่นิยมมากขึ้น คนอีสานเชื่อเรื่องการกินลาบไก่งวงว่าจะเป็นมงคล ประเทศลาวก็นิยมทำลาบไก่งวง ในอนาคตคาดว่าจะมีการบริโภคมากขึ้น การเลี้ยงไก่งวงจะใช้ต้นทุนประมาณตัวละ 500 บาท ตัวเมียหากขายได้จะตกราคาตัวละ 700 บาท ขณะที่ตัวผู้ราคาตัวละกว่า 1,000 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องอบรมอาชีพเด่นเพื่อชาวบึงกาฬ โดย “มติชนอคาเดมี” มีผู้เข้าร่วมอบรมจำนวนมาก โดยนายชาตรี ทองที ชาว จ.บึงกาฬ หนึ่งในผู้เข้ารับการอบรมอาชีพ กล่าวว่า มาอบรมเป็นครั้งที่ 2 ปีที่แล้วเคยอบรมเรื่องผัดไทยไปแล้ว สามารถนำไปทำขายได้ ตนเองมีอาชีพทำสวนยาง แต่กำลังมองหาอาชีพเสริม กำลังวางแผนว่าจะนำความรู้ไปปรับขายบนถนนคนเดินของชาวบึงกาฬที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วย ปีหน้าอยากให้มีการจัดอบรมอาชีพเช่นนี้อีก เพราะเกิดประโยชน์เป็นอย่างมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก ได้แก่ การประกวดวงดนตรีลูกทุ่ง “บึงกาฬคอนเทสต์” ซึ่ง 8 อำเภอใน จ.บึงกาฬ ส่งทีมร่วมแข่งขัน โดยคณะกรรมการการประกวดเพิ่มทีมเข้ารอบชิงชนะเลิศมาอีกหนึ่งทีม เป็น 5 ทีม ได้แก่ โรงเรียนบึงกาฬ อ.เมือง, โรงเรียนโซ่พิสัยพิทยาคม อ.โซ่พิสัย, โรงเรียนพรเจริญวิทยา อ.พรเจริญ, โรงเรียนบุ่งคล้านคร อ.บุ่งคล้า และโรงเรียนศรีวิไลวิทยา อ.ศรีวิไล โดยรอบชิงชนะเลิศจะมีวันที่ 27 มกราคม

ส่วนการแสดงคอนเสิร์ตของนักร้องลูกทุ่งสาวชื่อดัง “หญิงลี ศรีจุมพล” เจ้าของเพลงดัง “ขอใจเธอแลกเบอร์โทร” แม้บรรยากาศจะหนาวเย็นแต่ก็มีประชาชนมาร่วมชมอย่างเนืองแน่น

ที่มา http://www.matichon.co.th/news/15033’>

ข่าวสังคม-การเมือง ล่าสุด

อัพเดทล่าสุด