วันที่ 2 กุมภาพันธ์ เมื่อเวลา 10.00 น. นายวิพัฒน์ สุวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการการยางแห่งประเทศไทยจังหวัดบึงกาฬ พร้อมคณะผู้แทนจากเกษตรจังหวัด สำนักงานจังหวัด ทหารรักษาความสงบเรียบร้อยประจำจังหวัด หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้นำชุมชนเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้อยจุดรับซื้อยางพาราตามโครงการช่วยเหลือของรัฐบาลรับซื้อกิโลกรัมละ 45 บาท(DRC 100%)คนละไม่เกิน 15 ไร่/ละ 10 กิโลกรัมหรือไม่เกินคนละ 150 กิโลกรัมเป็นวันแรก ที่ลานรับซื้อยางชุมชนสหกรณ์บ้านห้วยสะอาด หมู่ที่ 4 ต.ถ้ำเจริญ อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ซึ่งเป็นจุดนำร่องของจังหวัดที่มีความพร้อมในการรับซื้อยางของวันแรก โดยมีเกษตรกรชาวสวนยางทยอยนำยางมาขายเข้าสู่ระบบ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นยางก้อนถ้วย
นายวิพัฒน์ สุวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการการยางแห่งประเทศไทยจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า วันนี้ได้เปิดจุดรับซื้อยางพาราเพื่อเป็นการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งการรับซื้อยางของจังหวัดบึงกาฬในวันนี้เป็น 1 ใน 11 จุดของทั้ง 8 อำเภอ ซึ่งวันต่อไปจะทยอยรับซื้อยางให้ครบทั้ง 11 จุดอย่างแน่นอน ซึ่งในวันนี้ก็ได้รับความสนใจจากพี่น้องชาวสวนยางพาราในพื้นที่ ต.ถ้ำเจริญ อ.โซ่พิสัย นำยางก้อนถ้วยออกมาขายกันอย่างคึกคัก โดยรัฐบาลจะรับซื้อยางแผ่นดิบชั้น 3 กิโลกรัมละ 45 บาท น้ำยางสดกิโลกรัมละ 42 บาทและยางถ้วยกิโลกรัมละ 41 บาท ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่นิยมนำยางก้อนถ้วยออกมาขาย โดย กยท.บึงกาฬ ได้กำหนดให้เกษตรกรต้องนำยางมาวางทิ้งไว้ก่อนเวลา 18.00 น. ของเมื่อวานและเปิดถุงระบายน้ำออก เพื่อให้ยางก้อนถ้วยได้พักตัวลดปริมาณน้ำหนักลงให้ค่า DRC สูงขึ้นตามระเบียบที่กำหนด โดย กยท. ได้กำหนดการซื้อยางก้อนถ้วย(คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ DRC)ยางก้อนถ้วยหลังจากที่กรีดได้ 7-8 มีดจะมีค่า DRC จะอยู่ที่ 50-55 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเกษตรกรจะขายยางให้ได้ 100 % ตามนโยบายของรัฐบาล เกษตรกรต้องน้ำยางก้อนถ้วยมาขาย 273 – 300 กิโลกรัมต่อ 1 สิทธิ์ถึงจะได้ค่าน้ำยาง 100% ตามนโยบายของรัฐบาลในส่วนของราคาที่รับซื้อ กยท.ได้กำหนดราคายางก้อนถ้วยไว้ที่กิโลกรัมละ 22.25 บาท
ด้านนายวิเชียร ตาลทรัพย์ อายุ 62 ปี เกษตรกรชาวสวนยางพารา ในพื้นที่บ้านห้วยสะอาด หมู่ที่ 4 ต.ถ้ำเจริญ อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ได้ฝากเรียกร้องไปหารัฐบาลว่า ชาวสวนยางบึงกาฬอยากให้รัฐบาลเข้ามาซื้อยางก้อนถ้วยให้มากกว่านี้ ซึ่งจำนวน 150 กิโลต่อครอบครัวมันน้อยเกินไปและอยากให้รัฐบาลลงมารับซื้อยางแบบนี้ทุกนัดหรือทุก 15 วันและไม่ยากให้จำกัดว่าคนนั้นคนนี้ต้องขายเท่านั้นเท่านี้ แต่ที่ทำอยู่ในขณะนี้ก็รู้สึกดีใจที่รัฐบาลได้เข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง ราคาที่รับซื้อในวันนี้ 22.25 บาทก็ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ เสียอย่างเดียวคือรับซื้อยางช่วยเกษตรกรน้อยเกินไป
ส่วนนายอุดม มะลิต้น อายุ 52 ปี เกษตรกรชาวสวนยางบ้านห้วยสะอาด บอกถึงข้อแตกต่างในการรับซื้อยางจากรัฐบาลและเอกชนนั้นมองว่า การขายยางให้กับรัฐบาลมันยุ่งยากขึ้นตอนมีหลากหลายขายยางไปแล้วเงินก็ยังไม่ได้กว่าจะขายได้ก็ต้องใช้เวลานานกว่า 15 วันถึงจะนำมาขายได้หลังจากขายไปแล้วก็ต้องรออนุมัติจาก กยท.จังหวัด กว่าเงินจะเข้าธนาคารใช้เวลาอีก 3-4 วัน ซึ่งแตกต่างจากการขายยางให้กับลานยางเอกชนที่ขายยางเสร็จแล้วรับเงินทันทีมันง่ายกว่ากัน ซึ่งบางคนบางครอบครัวก็ต้องการเงินเร็วเพราะมีภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องดูแล ต้องให้เงินลูกไปโรงเรียน ค่ากับข้าวกับน้ำที่ต้องซื้อกินทุกวัน ใช้หนี้ที่กู้ยืมมาบ้าง บางคนก็มีค่างวดรถ จิปาถะ แต่ก็ต้องขอขอบคุณรัฐบาลที่มองเห็นความเดือดร้อนประชาชน
‘>