เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 9 ก.ย.นายพันธ์ยศ กีรติพงศ์ศักดา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูลังกา นำหลักฐานภาพถ่ายบริเวณจุดที่มีการขีดเขียนข้อความบนก้อนหิน เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.พงศ์เดชน์ คำกอง สว.(สอบสวน) สภ.บึงโขงหลง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ เพื่อให้ติดตามตัวคนมือบอนขีดเชียนก้อนหินในถ้ำนาคาผู้กระทำผิดมาลงโทษ โดยนายพันธ์ยศ กล่าวว่าวันนี้ ได้นำหลักฐานมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนหลัง มีนักท่องเที่ยวบางกลุ่มบางคน เข้าไปขีดเขียนทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ภายในบริเวณถ้ำนาคา ทำให้เกิดความเสียหายและกระทบต่อการท่องเที่ยว ซึ่งคนที่ทำคาดว่าจะไปขุดขีดหาเลขหาหวย หรืออาจจะด้วยความคึกคะนองสลักตัวอักษรไว้ ขาดความยั้งคิดว่าเป็นทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งจากนี้ไปทางเจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการการเข้าถึง การแตะต้องหินรูปร่างต่างๆ ภายในถ้ำนาคา และระยะต่อไปก็จะดำเนินการออกแบบสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกตลอดจนระบบสาธารณูปโภค เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว มีระบบป้องกัน มีประตูเปิดปิดไม่ให้มีการลักลอบเข้าไปในยามวิกาลได้ ส่วนระยะเวลาการปิดถ้ำนั้นนานเท่าไรไม่สามารถบอกได้ ขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชา ทางอุทยานเราจะเร่งดำเนินการตามมาตรการที่ได้วางไว้อย่างเร่งด่วนที่สุด การปิดถ้ำนาคานั้นปิดเฉพาะบริเวณถ้ำนาคา ซึ่งเป็นจุดเกิดปัญหาที่นักท่องเที่ยวมือบอนไปขีดเขียนก้อนหินทางลงในถ้ำนาคาหรือถ้ำพญานาคเท่านั้น ส่วนในจุดอื่นภายในเขตอุทยานยังเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเขาท่องเที่ยวได้ มีดังนี้ 1.หัวนาคา หัวที่ 2 2.หินหัวรถบัส 3.เจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์ (ขึ้นได้ 2 ทางคือ 1.จากที่ทำการอุทยาน 2.จากหน่วยพิทักษ์อุทยานพระธาตุเจดีย์ค่ะ)4.น้ำตกตาดโพธิ์ ทุกชั้น (บริเวณที่ทำการอุทยานฯ) 5.น้ำตกตาดขาม ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ทั้งอุทยานมีประมาณ 60 คน ซึ่งต้องดูแลทางเข้าแหล่งท่องเที่ยว 5 แห่ง และดูแลภูเขาทั้งลูก จึงไม่เพียงพอที่จะดูแลนักท่องเที่ยวหลายท่าน ซึ่งต้องขออภัยนักท่องเที่ยวทุกท่าน ณ ที่นี้ด้วย
ทั้งนี้ตามที่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส.สั่งปิด “ถ้ำนาคา” ไม่มีกำหนด หลังพบมือบอนขูดหิน หลังมีนักท่องเที่ยวละเมิดกฎระเบียบของอุทยานแห่งชาติ ทั้งการสัมผัส ปักธูป โรยแป้งส่องเลข รวมทั้งการขูด-ขัด ขูดหิน นอกจากนี้ยังมีการทิ้งขยะกองไว้ บริเวณถ้ำนาคา หรือถ้ำพญานาค ที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูลังกา อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ซึ่งมีลักษณะทางธรณีวิทยาของหินและผนังถ้ำดูคล้ายเกล็ดพญานาค หรืองูขนาดใหญ่ที่นอนขดตัว ทำให้ถ้ำนาคา กลายเป็นจุดขอโชคลาภแห่งใหม่ และมีประชาชนเดินทางไปเที่ยวเป็นจำนวนมาก นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า “ขอปิดให้บริการ ท่องเที่ยว “ถ้ำนาคา”จนกว่าจะมีมาตรการป้องกันที่ได้ผล และขออภัยพี่น้องชาวไทย ที่ก่อนหน้านี้เราขาดมาตรการรองรับจนทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพยาธรณีที่สำคัญของประเทศ และขอฝากถึงคนมือบอนที่ทำให้เกิดความเสียหายในครั้งนี้ว่า ถ้าท่านมาเที่ยวดีๆ ไม่ได้ ก็โปรดอย่ามาเลยดีกว่า”
ซึ่งต่อมา นายพันธ์ยศ กีรติพงศ์ศักดา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูลังกา ได้ออกประกาศ เรื่องปิดการท่องเที่ยวถ้ำนาคามีข้อความว่า ด้วยปรากฏว่าที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่ขึ้นชมถ้ำนาคา ได้ละเมิดกฎที่ทางอุทยานแห่งชาติกำหนดไว้ คือ ห้ามแตะต้องกลุ่มหิน ต่าง ๆ ภายในถ้ำ และห้ามขีดเขียน ขูดลบ ขีดฆ่า ทา หรือพ่นสีและแป้ง อันเป็นการกระทำผิดตาม มาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 อุทยานแห่งชาติภูลังกา พิจารณาแล้ว เพื่อเป็นการป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ในทำนองเดียวกันนี้เกิดขึ้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 20 และมาตรา 62 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 ประกอบระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าด้วยการปฏิบัติการของพนักงานเจ้าหน้าที่ในเขตอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2549 ข้อ4(11)จึงให้ปิดการท่องเที่ยว “ถ้ำนาคา” ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2563 เป็นต้นไป จนกว่าทางอุทยานแห่งชาติจะดำเนินการ กำหนดมาตรการปกป้องมิให้มีการทำลายทรัพยากรชาติอันเกิดจากกลุ่มคน ดังกล่าว ข้างต้นได้ ทั้งนี้ การฝ่าฝืนคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่หรือการไม่ปฏิบัติตามประกาศนี้จะเป็นความผิดและได้รับโทษตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 อนึ่ง การปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา และการสัญจร ผ่านเส้นทางตามปกติในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา ของบุคคลโดยทั่วไป ให้กระทำได้ตามปกติ หากมีกรณีที่หน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่อื่นใด มีความจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติภารกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในพื้นที่อุทยานแห่งขาติภูสังกา ให้แจ้งหัวหน้าอุทยานแห่ชาติภูลังกา เพื่อทราบและพิจารณาโดยตรงทางโทรศัพท์หมายเลข 081-7252684 จึงประกาศมาเพื่อทราบและขอความร่วมมือในการปฏิบัติโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ 8 กันยายน พ.ศ.2563
หลังจากมีประกาศปิดการท่องเที่ยวถ้ำนาคาไปแล้ว ทำให้พ่อค้าแม่ขายที่มาเปิดบริการทั้งจุดจอดรถและขายอาหารและเครื่องดื่มให้แก่นักท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนัก เช่น นางอำภา พูนทรัพย์ อายุ 31 ปี แม่ค้า ที่อยู่ในหมู่บ้านตาดวิมานทิพย์ กล่าวว่า หลังมีประกาศปิดก็ได้รับความเดือนร้อนบ้าง จากที่เคยมีรายได้หาเงินได้ได้ต่อวัน 800-1000 บาท วันนี้รายได้ลดลง ร้านค้าที่จอดรถก็เงียบสนิทไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเลย มาบ้างก็ประปรายห่างๆ .
นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี//บึงกาฬ ที่มาข่าว https://www.onbnews.today/post/36589
‘>