เมื่อวันที่ 10 กันยายน ที่ ห้องประชุมภูทอก ศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ได้รับมอบหมายจากนายสนิท ขาวสอาด ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ให้เป็นประธานดำเนินการจัดประชุมเป็นการเร่งด่วน เพื่อบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว “ถ้ำนาคา” พื้นที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา หลังจากได้มีประกาศโดยอุทยานแห่งชาติภูลังกา ปิดการท่องเที่ยวถ้ำนาคาเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดบึงกาฬเป็นอย่างมาก
นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า เนื่องจากได้มีภาพปรากฏทางสี่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ ว่ามีนักท่องเที่ยวละเมิดกฎที่ทางอุทยานแห่งชาติกำหนดไว้ คือ ห้ามแตะต้องกลุ่มหินต่างๆ ภายในถ้ำ และห้ามขีดเขียน ขูดลบ ขีดฆ่า ทาหรือพ่นสีและแป้ง ซึ่งได้ทำการสลักข้อความอันไม่เหมาะสมบนก้อนหินในถ้ำนาคา ก่อให้เกิดความเสียหายแก่แหล่งท่องเที่ยว “ถ้ำนาคา” จึงจำเป็นต้องประกาศปิดการท่องเที่ยวเป็นการชั่วคราว เมื่อมีการประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวทำให้เกิดผลกระทบในหลายด้าน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ได้มีการวางแผนการเดินทางไว้ล่วงหน้า และผู้ประกอบการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ดังนั้น จึงต้องมีการจัดการประชุมเร่งด่วนเพื่อหาแนวทางในการดำเนินการ เพื่อให้สามารถเปิดแหล่งท่องเที่ยวถ้ำนาคาได้เร็วที่สุด โดยมติที่ประชุมให้ดำเนินการ ดังนี้
1.อุทยานแห่งชาติภูลังกา ได้กำหนดมาตรการหรือแนวทางในการดูแลแหล่งท่องเที่ยว “ถ้ำนาคา” อย่างชัดเจน เพื่อส่งมาตรการไปยังปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อเสนอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อขอความเห็นชอบ
3.สำหรับอุทยานแห่งชาติภูลังกาได้มีมาตรการเยียวยานักท่องเที่ยวที่ได้มีการจองเข้าเที่ยว”ถ้ำนาคา” ผ่านระบบการจอง ก่อนวันที่ 8 กันยายน 25636 และได้มีการจองที่พัก จองสายการบิน และจ่ายเงินสำหรับการเดินทางแล้ว สามารถติดต่อประสานงานกับทางอุทยานได้โดยตรงที่ เบอร์โทร 08-1725-2684 เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับมาตรการเยียวยานักท่องเที่ยว
จังหวัดบึงกาฬ จะเร่งดำเนินการประสานงานกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้อุทยานแห่งชาติภูลังกาได้เปิดให้ นักท่องเที่ยวได้เข้าชมถ้ำนาคา เร็วที่สุดเพื่อส่งเสริมการท่องเทียวต่อไป
ด้าน นายสำรวย ศรีทิน กรรมการการท่องเที่ยวอำเภอบึงโขงหลง ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในพื้นที่ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวหนังสือที่ได้มีการสลักบนก้อนหินในถ้ำนาคา ที่มีนักท่องเที่ยวได้มาถ่ายภาพแล้วนำไปเผยแพร่ในสื่อต่างๆ โดยเฉพาะสื่อโซเชียล ทำให้เกิดกระแสต่อว่าผู้ที่กระทำว่า ไม่มีความเหมาะสม เพราะเป็นข้อความคำหยาบ แต่จริงๆ แล้ว เมื่อขยายคำดังกล่าวขึ้น จะอ่านได้ว่า ดาบ ไม่ใช่คำหยาบแต่อย่างใด ทั้งนี้ พระอาจารย์วินิจสุเมโท เจ้าสำนักสงฆ์ ฐิติศาลาราม ซึ่งอยู่บริเวณทางขึ้นน้ำตกวิมานทิพย์ และ เคยปฎิบัติธรรมบนถ้ำนาคา เล่าให้ฟังว่า เมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ได้มีคนคนหนึ่งชื่อว่า นายดาบ เป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งมาอาศัยอยู่ด้านบนถ้ำภูลังกา และได้ช่วยพระอาจารย์ในการบูรณะเจดีย์หลวงปู่วัง ตัดไม้ แบกไม้ และได้สลักชื่อของตัวเองบนก้อนหินดังกล่าว หลังจากนั้นไม่นาน นายดาบได้ไปผูกคอตัวเองเสียชีวิต บนต้นไม้บริเวณถ้ำนาคานั้นเอง และเมื่อเวลาผ่านมา ก้อนหินที่นายดาบได้สลักชื่อก็ได้เกิดตะไคร่น้ำปกคลุมเอาไว้ ประกอบกับเมื่อมีการเปิดการท่องเที่ยวถ้ำนาคา และช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา ได้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากขึ้นไปยังถ้ำนาคา มีนักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่ต้องการโชคลาภ ได้ทำการขัดก้อนหินที่นายดาบได้สลักชื่อ เพื่อหาตัวเลขเอาไปเสี่ยงโชค ทำให้ชื่อนายดาบชัดเจนขึ้น นักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ไปเจอ และถ่ายภาพมาลงสื่อโซเชียล จึงเกิดกระแสต่อต้าน และได้มีประกาศปิดการเข้าชมถ้ำนาคาเป็นการชั่วคราว แต่ถ้าเราสังเกตดีๆ ขยายภาพให้ใหญ่ขึ้นจะเห็นว่า ในร่องตัวอักษร จะมีตะไคร่น้ำฝังตัวอยู่ ซึ่งต้องใช้เวลานานมากถึงจะเกิดขึ้นได้ ถ้าเป็นฝีมือนักท่องเที่ยวไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะต้องใช้เวลาในการสลักและใช้เครื่องมือด้วย ไม่สามารถใช้ก้อนหิน หรือกิ่งไม้ทำได้แน่นอน
ขอขอบคุณข่าวมติชน https://www.matichon.co.th/region/news_2342821‘>