แมลงดา หรือแมงดานา ชาวบ้านที่บึงกาฬว่างจากกรีดยาง หันมาจับสวิงออกไปช้อนตามหนองน้ำ ได้แมงดาที่ออกมาจับคู่ผสมพันธุ์วางไข่ ประกอบกับอากาศหนาวจึงจับง่าย รายได้งามวันละ 800-1,000 บาท ชดเชยกับที่ยางพารากรีดไม่ได้…
เมื่อวันที่ 14 ก.พ.59 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.บึงกาฬ ชายแดนริมโขง ว่า หลังจากอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย มีทั้งฝนตกติดต่อกันหลายวันและมีอากาศหนาวเย็นตามมา ทำให้ชาวสวนยางพารากรีดยางไม่ได้ ประกอบกับราคาตกต่ำ ถึงแม้รัฐจะเปิดจุดรับซื้อในราคาที่สูง แต่ก็ขายได้เพียงน้อยนิด และขายได้เฉพาะผู้ที่เป็นสมาชิก กยท.เท่านั้น เจ้าของสวนยางจึงหยุดพักหน้ายางไว้ก่อน
ขณะเดียวกัน คนรับจ้างกรีดยางที่ว่างงาน ได้รวมกลุ่มกันหันมาจับสวิงออกไปช้อนแมลงดานา หรือที่เรียกกันว่าแมงดานา ตามริมขอบหนองน้ำทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่มาขาย โดยเฉพาะริมบึงโขงหลง ที่เป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ จะมีแมลงดานามากกว่าที่อื่น ชาวบ้านจึงใช้โอกาสที่พักหน้ายางให้เป็นประโยชน์ ออกจากบ้านไปช้อนแมลงดานาตามหนองน้ำ
ผู้สื่อข่าวตามไปดูวิธีการหาจับแมลงดานาของ ป้าไก่หรือนางสมัย นาชัย อายุ 53 ปีชาวบ้านดอนกลาง หมู่ 1 ต.บึงโขงหลง อ.บึงโขงหลง และป้ากงหรือ นางเสมอ ตะดวงดี อายุ 56 ปี คนบ้านเดียวกัน ต่างถือสวิงและข้องอุปกรณ์จับแมลงดาเดินลงไปริมหนองน้ำบึงโขงหลง ที่มีความลึกประมาณครึ่งแข้งและมีกอหญ้าขึ้นโผล่พื้นน้ำ ซึ่งแมลงดานาจะใช้เป็นรังรักจับคู่ผสมพันธุ์แล้ววางไข่ใส่ต้นหญ้าหรือต้นไม้เล็กๆโผล่ขึ้นเหนือน้ำ หรือไม่ก็วางไข่ไว้บนหลังแมลงดาตัวผู้ไปเลย โดยที่ป้าทั้ง 2 ใช้สวิงปักลงน้ำแต่ละครั้งก็จะติดแมลงดาขึ้นมา มากที่สุดก็6 ตัว สร้างความตื่นเต้นดีใจให้กับทั้ง 2 ป่าอย่างมาก
ป้าไก่ เล่าว่า แมงดาตัวผู้ขายในราคาตัวละ 10 บาท ส่วนตัวเมีย ขายตัวละ 8 บาทหรือ 3 ตัว 20 บาท ตัวผู้จะตัวเล็กกว่าตัวเมีย แต่มีกลิ่นจะฉุนมากกว่า คนนิยมกิน จึงมีราคาแพงกว่าตัวเมีย นิยมนำไปทำน้ำพริกแมลงดาบ้างหรือไปประกอบอาหารอย่างอื่น เช่นทำป่นปลา ป่นกบใส่แมลงดาจะทำให้รสชาติอร่อยขึ้น วันหนึ่งๆ จับแมลงดาได้ไม่น้อยกว่า 80 ตัว ขายได้เงินประมาณ 800-1,000 บาท โดยจะมีแม่ค้าพ่อขายมารับซื้อถึงบ้าน หรือนำไปขายตามตลาดจะได้เงินดี แต่ก็เป็นช่วงสั้นๆ เท่านั้นไม่ได้มีตลอด’>