อ.บึงโขงหลง หนุ่มวัย 26 รับจ้างฉายเดี่ยวขนกัญชา 210 กก

วันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า พล.ร.ต.จรัสเกียรติ ไชยพันธ์ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ( ผบ.นรข. ) มอบหมายให้ น.อ.ณัฐพัฒน์ ซื่อมงคล รอง ผบ.นรข. แถลงข่าวร่วมกับนายพิทักษ์ กุลฉวะ นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 4 (ป.ป.ส.4) ขอนแก่น กรณีจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย พร้อมกัญชาแห้งอัดแท่ง จำนวน 210 กก./แท่ง และรถยนต์เก๋งที่ใช้ในการกระทำความผิดอีก 1 คัน ณ กองบัญชาการฯ (บก.นรข.) จังหวัดนครพนม

นาวาโท วรภัทร แสงสุวรรณ ผู้ช่วยหัวหน้ายุทธการและการข่าว นรข. เขตนครพนมเปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้โดยชุดปฏิบัติการพิเศษของ นรข.นครพนม นำโดยเรือเอก ชาตรี สิทน ได้รับทราบข่าวจากสายลับว่าจะมีผู้ขนยาเสพติดประเภท 5 (กัญชา) โดยรถยนต์เก๋งสีดำ และรูปพรรณสัณฐานของผู้ต้องสงสัย จึงได้จัดชุดปฏิบัติการลงพื้นที่ วางกำลังสกัดกั้นจุดที่ได้รับแจ้งเบาะแส จำนวน 3 ชุด

สืบเนื่องจากวันที่ 17 พฤศจิกายน 63 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการลักลอบนัดส่งมอบยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชาอัดแท่ง) บริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท. บ้านดงบัง หมู่ 3 ต.ดงบัง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ จึงวางกำลังไว้จำนวน 3 ชุด กระทั่งเวลาประมาณ 05.00 น. พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่นอัลเมร่า สำดำ ทะเบียน 6 กก 3787 กทม. วิ่งมาจากสี่แยกบ้านดงบังเข้าสู่ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 ( ชยางกูร ) มุ่งหน้าไปทางอำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม และขับมาจอดอยู่หน้าปั๊มน้ำมัน ปตท. เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่ซุ่มอยู่บริเวณนั้น จึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น

พบชายรูปร่างผอมใส่เสื้อยืดคล้ายสีทหารเป็นคนขับ ทราบภายหลังว่าชื่อ นายกฤษณะ คำอุดม อายุ 26 ปี มีภูมิลำเนาตามบัตรประชาชนอยู่บ้านเลขที่ 26/1 หมู่ 7 ต.สะตอน อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ตรวจค้นฝาท้ายรถและในเก๋งด้านหลังคนขับ พบถุงหัวอาหารสัตว์มีอักษรของประเทศเพื่อนบ้าน ห่อหุ้มพลาสติกสีดำอีกชั้นหนึ่ง เปิดดูเป็นกัญชาแห้งอัดแท่งห่อด้วยพลาสติกใส ตรวจนับได้จำนวน 210 แท่ง/กก. จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไปสอบสวนขยายผล

นายกฤษณะ ผู้ต้องหาอ้างว่าได้รับการว่าจ้างจากบุคคลที่รู้จักกันทางโซเชียล ให้มาขับรถในพื้นที่อำเภอบึงโขงหลง เพื่อพาคนแก่ไป กทม. โดยให้ค่าจ้างเป็นเงิน 8,000 บาท จ่ายก่อน 5,000 บาท ที่เหลือเมื่อถึงจุดหมายปลายทาง จึงนั่งรถโดยสารมาพบกับชายคนหนึ่งให้ขับรถยนต์คันกล่าวไปที่อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี โดยอ้างว่าไม่ทราบว่ามียาเสพติดอยู่ภายในรถ แต่ก็ไม่ได้เอะใจ ทำไมไม่คนแก่ตามที่ว่าจ้างมา จึงขับมาเรื่อยๆ ตามเส้นทางกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ล้อมจับดังกล่าว

ด้านการสืบสวนสอบสวนเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อตามคำให้การของผู้ต้องหา เพราะสายสืบแจ้งล่วงหน้าแล้วจะมีการส่งมอบยาเสพติดกันที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. ส่วนรถยนต์ที่ใช้ในการลำเลียง พบผู้ครอบครองอยู่ กทม. ยังค้างชำระค่างวดอยู่กับไฟแนนซ์ เมื่อสอบถามไปผู้ครอบครองปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นอย่างเดียว ซึ่งรถคันนี้มีการใช้งานอยู่ในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬมานานแล้ว คาดใช้สำหรับในการลำเลียงสิ่งผิดกฎหมายมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งจะสืบสวนสอบสวนการเชื่อมโยงกลุ่มผู้ร่วมขบวนการเป็นลำดับต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายกฤษณะ ผู้ต้องหา พื้นเพเดิมเกิดอยู่ที่จังหวัดปัตตานี แต่มามีครอบครัวอยู่ที่จังหวัดจันทบุรี โดยอ้างว่าเพิ่งทำเป็นครั้งแรก เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชาแห้งอัดแท่ง) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ส่วนรถยนต์คาดเป็นรถที่หลุดจำนำจากบ่อนการพนันแถบชายแดนไทย-กัมพูชา

ขณะที่ นายพิทักษ์ กุลฉวะ นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 4 (ป.ป.ส.4) ขอนแก่น เปิดเผยว่า สถานการณ์ยาเสพติด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือในห้วงที่ผ่านมา หลังจากที่มีการระบาดของ Covid-19 ในพื้นที่ของชายแดนด้านเหนือของพม่า จึงได้มีการควบคุมการเข้าออกของบุคคลทั่วไปอย่างเข้มงวด ทำให้กลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่แหล่งผลิต ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ เข้ามาในพื้นที่ประเทศไทยเป็นทางผ่านนั้น ได้เปลี่ยนเส้นทางมาใช้พื้นที่ตามลำแม่น้ำโขง เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศที่ง่ายต่อการลักลอบเข้าออกตามลำแม่น้ำโขง “โดยเฉพาะในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ตามแนวลำแม่น้ำโขง

ตั้งแต่จังหวัดอุบลราชธานี มีการตรวจยึดยาไอซ์ 20 กิโลกรัม เมื่อวานนี้ที่จังหวัดมุกดาหารมีการจับกุมยาบ้า 500,000 เม็ด และเมื่อคืนที่ผ่านมาที่จังหวัดมุกดาหารก็ได้มีการจับกุมกัญชา 140 กิโลกรัม และที่จังหวัดนครพนมซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัดนครพนมกับจังหวัดบึงกาฬ จะเห็นได้ว่าในห้วงก่อนหน้านี้ พื้นที่บึงกาฬ โดยผลงานของ นรข.นครพนมก็มีเหตุใหญ่ ๆ ทั้งการจับกุมเฮโรอีนยาบ้า และกัญชา จะเห็นว่ากลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงพยายามที่จะใช้เส้นทางในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากขึ้น ซึ่งหน่วยความมั่นคงในพื้นที่ก็ได้มีการเฝ้าระวังกันอย่างเข้มงวดและมีการผลการจับกุมอย่างต่อเนื่อง” ผู้แทน ป.ป.ส. ภาค 4 กล่าว

‘>