จากกรณีช้างป่าภูวัว ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ได้ลงจากภูมาหากินด้านล่างและก็เข้าทำร้ายชาวบ้านที่กรีดยาง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วก่อนหน้านั้น 1 วันก็ได้ทำร้ายพระธุดงค์จนมรณภาพอยู่บนภูวัว ซึ่งต่อมา นายทวีป คำแพงเมือง หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ได้ฝากสื่อมวลชนเตือนพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้ๆ ภูวัวและมีสวนยางติดเขตป่าภูวัวนั้นให้ระมัดระวังช้างป่าซึ่งในฤดูหนาวนี้ ช้างตัวผู้จะตกมัน จึงเกิดความดุร้าย หากจะออกกรีดยางกลางคืนต้องแจ้งเจ้าหน้าที่จะได้นำพาไป เพื่อความปลอดภัย
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 1 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ที่ช้างป่าลงมาหากินในบริเวณบ้านถ้ำพระหมู่ 9 ตำบลโสกกาม อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ ได้พบกับนางตั๊ก หมอนวังเทียม อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 56 หมู่ 9 บ้านถ้ำพระ โดยได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ปกติแล้วจะออกกรีดยางในช่วงประมาณ 3 ทุ่มของทุกวัน จนไปถึง 5 ทุ่มแล้วแต่ยางใครมีมากมีน้อย แต่ช่วงหลังที่ผ่านมา ที่เกิดเหตุร้ายช้างป่าทำร้ายชาวสวนยาง มีความหวาดกลัวและยังผวาเมื่อออกกรีดยางกลัวช้างจะมาทำร้าย และจะนำสุนัขไปเป็นเพื่อนด้วยไม่ได้ เพราะช้างป่าจะตามสุนัขและก็จะเลยเถิดมาใส่คนที่มัวแต่ก้มๆ กรีดยาง จึงได้มีการเปลี่ยนแปลงเวลากรีดยางจากกลางคืนเป็นช่วงเช้า คือเข้าพื้นที่ประมาณตี 5 และถึง 2 โมงเช้าก็เสร็จ บางคนก็หยอดน้ำกรดต่อ เพื่อให้น้ำยางได้แข็งตัวจับเป็นก้อนเร็วขึ้น
นางตั๊ก อยากจะฝากถึงเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ออกมาดูแลความเป็นอยู่ของช้างที่ออกมาหากิน และทำร้ายประชาชนอยู่เป็นประจำ ซึ่งพวกเราชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ ก็ไม่อยากให้มีเรื่องกระทบกระทั่งกันระหว่างช้างกับคน ทั้งสองฝ่ายคนและช้างก็อยากจะอยู่ร่วมกันได้อย่างปลอดภัยและมีความสุข ส่วนรั้วไฟฟ้านั้น ก็มีการชำรุดหลายแห่งเป็นช่วงๆ ทั้งอายุงานและช้างป่าเองก็ฉลาด เข้าไปทำลายจนสายไฟหรือรั้วไฟฟ้าชำรุดเสียหาย ทั้งเสาล้มและสายขาด จึงอยากจะให้เจ้าหน้าที่ได้มาซ่อมแซมบ้าง
ส่วนนายสุพัฒน์ กลอนสลับ อายุ 33 ปีชาวบ้านท่าพระ ออกกรีดยางกลางคืนแล้วถูกช้างป่าไล่กระทืบเข้าหน้าอก ระหว่างที่กรีดยางด้วยกันกับ นางไพรมณี ชัยรัตน์ อายุ 37 ปีภรรยา ซึ่งถูกนำส่งโรงพยาบาลบึงโขงหลงนั้น ขณะนี้อาการเริ่มดีขึ้นบ้างแล้ว แต่ก็ต้องใช้เวลานานเพราะช้างเหยียบที่หน้าอกทำให้บอบช้ำและปวดที่กระดูกสันหลัง.’>