วันที่12 ธ.ค.63 เวลา11.00น ได้มีชาวบ้านหลายร้อยคนยื่นหนังสือต่อ นาย สุทิน วิจารย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตรใหม่ ที่วัดอาฮงศิลาวาส เนื่องจากเดือดร้อนพื้นที่ทำกิน ถูกทางส่วนท้องถิ่นห้ามเข้าพื้นที่ทำกินมากว่า3ปีทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ชาวบ้านได้ใช้ผืนที่ดินทำกินมาตั้งแต่ปี 2507 แต่เมื่อในปี 2561 ถูกทาง อบต.ให้หยุดการใช้พื้นที่บอกว่าเป็นที่สาธารณะทั้งๆที่ชาวบ้านได้ทำกินกันมากว่า 50กว่าปีแล้ว ถ้ามีใครเข้าใช้พื้นที่ ก็จะถูกดำเนินคดี ชาวบ้านไม่ได้รับความเป็นธรรมที่ถูกถูกหน่วยงานท้องถิ่นออกใบ (นสล.)ทับที่ชาวบ้านทั้งๆที่พวกตนมีใบ ภบท.5 และหนังสือที่ให้ทำกินมากว่า 50กว่าปี แต่จู่ๆทางท้องถิ่น อบต.ได้ออกใบทับที่ชาวบ้านหลายพันไร่ เป็นที่(นสล.) พอชาวบ้านจะไปทำไร่นาแต่กลับถูกนายก อบต.ในพื้นที่แจ้งจับ บอกว่าบุกรุกที่สาธารณะชาวบ้านไม่ได้ใช้พื้นที่ทำมาหากินกว่า3ปีแล้ว ชาวบ้านไร้ที่ทำกินทั้งๆที่เคยทำกินบนผืนดินแห่งนี้มานาน พวกตนจึงมายื่นหนังสือกับ ท่าน สส. สุทิน วิจารย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตรใหม่ เพื่อผ่านไปยังประชุม สภาผู้แทนราษฏร เนื่องจากที่ผ่านมาชาวบ้านได้ยื่นหนังสือไปที่ต่างหน่วยงานต่างๆหลายที่ แต่กลับไม่มีใครเข้ามาแก้ไขปัญหาไร่วี่แวว ชาวบ้านอยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬเข้ามาแก้ไขปัญหาชี้แจงช่วยเหลือชาวบ้านบ้าง ให้มันชัดเจน เนื่องจากเดือดร้อนไม่มีที่ทำกิน รายได้ไม่มี มีแต่ที่ดินแต่ถูกภาคส่วนท้องถิ่น อบต.ไม่ให้เข้าใช้พื้นที่ทำกินทั้งๆที่ยังไม่ชัดเจนอะไรต่างๆ ชาวบ้านเพียงต้องการเข้าไปใช้ประโยชน์เพื่อทำกินพอให้มีรายได้บ้าง
นายหนูแกม ชาวทองหลาง ตัวแทนกลุ่มฯ กล่าวว่า ชุมชนได้ใช้ประโยชน์จากที่ดินสาธารณประโยชน์หนองนาแซงมาตั้งแต่ปี 2507 จนถึงปัจจุบัน โดยใช้เป็นที่เพาะปลูกข้าว ไม้ยืนต้น และเลี้ยงสัตว์ ส่วนใหญ่ไม่มีที่ดินทำกินของตนเอง ต้องอาศัยที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภทพลเมืองใช้ร่วมกัน จนปี 2536 อ.เซกา จ.หนองคายในขณะนั้น ได้ทำหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (นสล.) พื้นที่สาธารณะ ใช้ประโยชน์ร่วมกันที่หนองนาแซง จำนวน 1,558 ไร่ ถือเป็นประกาศที่ทับพื้นที่ทำกินเดิม และยังมีการออก ภบท.5 ให้ชาวบ้านเสียค่าบำรุงท้องที่อีกด้วย
นายหนูแกม กล่าวอีกว่า ปี 2549 ชาวบ้านได้ร้องเรียนไปยังสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อให้ตรวจสอบกรณีดังกล่าว ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินมีความเห็นว่าควรให้ทางอ.เซกาอนุโลมให้ชาวบ้านทำกินในพื้นที่เดิมไปพลางๆ ก่อน จนกว่าจะมีการตรวจสอบแนวเขตของที่สาธารณประโยชน์ให้ชัดเจน และให้จ.หนองคายในขณะนั้นเร่งรัดตรวจสอบโดยเร็ว แต่ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2560 มีประกาศอบต.ท่าสะอาด ห้ามบุกรุกเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่สาธารณดังกล่าว อีกทั้งในวันที่ 13 มิ.ย. 2561 อบต.ท่าสะอาด ยังได้ประกาศแจ้งให้รื้อถอนทำลายทรัพย์สินจากที่สาธารณประโยชน์หนองนาแซง และให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 20 วันด้วย ทางกลุ่มจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันกับชาวบ้านเพื่อหาทางออกในปัญหาดังกล่าว
พื้นที่หนองนาแซง ถือเป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์ที่ชาวบ้านซึ่งไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเองที่อาศัยอยู่โดยรอบพื้นที่สามารถนำเกษตรกรรม ปลูกข้าว เลี้ยงสัตว์ เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว จนถึงปี 2536 อำเภอเซกา ซึ่งยังเป็นเขตพื้นที่จ.หนองคาย ทำหนังสือนสล. เพื่อประกาศให้พื้นที่หนองนาแซง เป็นพื้นที่เลี้ยงสัตว์ และชาวบ้านต้องเสียภาษีบำรุงท้องที่ ทั้งนี้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบได้ยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานของรัฐสภา คือ ผู้ตรวจการรัฐสภา เมื่อปี 2549 แต่ยังไม่มีประเด็นที่เป็นข้อยุติ ทำให้ทางอำเภอบึงกาฬออกประกาศให้บุคคลออกจากพื้นที่ และห้ามบุกรุกอีก รวมถึงให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจนถึงทุกวันนี้
อ่านข่าวเมื่อปี14 มีนาคม 2016 http://www.bungkan.net/?p=9027
คณะกอ.รมน.จังหวัดบึงกาฬ-เจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร-ฝ่ายปกครองออกตรวจสอบพื้นที่สาธารณะประโยชน์ (หนองนาแซง)
ผู้นำชุมชน-ชาวบ้านบุกที่ว่าการอ.เซกา ฮือไล่นายทุน บุกรุกหนองน้ำสาธารณะ กว่า6,000ไร่
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2561 ร้อง สนช.ถูก อบต.สั่งย้ายออกจากที่ทำกินสาธารณประโยชน์ ทั้งที่อยู่มาตั้งแต่ปี 2507
‘>