แว่นฟ้า’ แจ้งความเอาผิด คนร้องกกต.กล่าวหาจ่ายเงิน อสม. ก่อนชนะเลือกตั้งนายก อบจ.บึงกาฬ
เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางแว่นฟ้า ทองศรี ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)บึงกาฬ หมายเลข 3 ที่ชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ที่ผ่านมาเดินทางไปยัง สภ.เมืองบึงกาฬ เพื่อเข้าพบ พ.ต.อ.วิชยนนท์ นิติกุล ผู้กำกับการสถ.เมืองบึงกาฬ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา
โดยนางแว่นฟ้า กล่าวว่า ได้แจ้งความร้องทุกข์ ในดำเนินคดีกับนายวิรัตน์ จันทะวงค์ ในข้อหาแจ้งความอันเป็นเท็จ และหมิ่นประมาท ในกรณีที่นายวิรัตน์ ไปแจ้งต่อ ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง(กกต.) บึงกาฬ ว่า ตนให้ตัวแทนเอาเงินไปให้กับนายวิรัตน์ เพื่อไปแจกจ่ายให้กับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ซึ่งเป็นความเท็จ และเป็นการหมิ่นประมาท ทำให้ได้รับความเสียหาย ถูกดููหมิ่น เดกลียดชัง จึงมาแจ้งความเพื่อให้พนักงานสอบสวน ดำเนินคดีกับนายวิรัตน์ จนกว่าคดีจะถึงที่สุด และเรื่องนี้จะไม่มีการยอมความใดๆ เพราะทำให้ตนได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง
สืบเนื่องจาก ข่าวมีผู้ร้อง กกต.
ยังวุ่นไม่เลิกสำหรับการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(ส.อบจ.)ที่มีเรื่องร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) อ.เซกา จ.บึงกาฬ เปิดเผยว่า ได้มายื่นหลักฐานและคำร้องให้ตรวจสอบการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) เพื่อกล่าวหาพฤติกรรมการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งนายก อบจ.และสมาชิก อบจ. ซึ่งอ้างว่าเป็นทีมงานของผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.บึงกาฬ นางแว่นฟ้า ทองศรี ผู้สมัครนายก อบจ.เบอร์ 3 ซึ่งได้รับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.บึงกาฬ โดยมีหลักฐานเป็นธนบัตรบรรจุซองละ 200 บาท รวมทั้งสิ้น 56,800 บาท พร้อมกับระบุจำนวนสมาชิก อสม.ของแต่ละหมู่บ้านในตำบลต้องตรงกับจำนวนสมาชิก อสม. โดยตนได้นำหลักฐานแจ้งต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดบึงกาฬไปแล้วเมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเห็นว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งที่ชัดเจน อาจจะทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม จึงขอให้ กกต.ได้ตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
ที่ จ.บึงกาฬ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อสม.ประจำหมู่บ้าน เข้าร้องเรียน กกต.จังหวัดบึงกาฬ มีการทุจริตการเลือกตั้งนายก อบจ.และ ส.อบจ. โดยกล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ได้รับการประสานทางโทรศัพท์จากผู้สมัคร ส.อบจ. อ.เซกาให้ไปพบ เพื่อฟังการปราศรัย และจะให้รับซองเงินค่าแกนนำ แต่ไม่ว่างเนื่องจากต้องออกไปหยอดน้ำกรดยางพารา จึงตอบว่าไปไม่ได้ ส.อบจ.บอกว่า จะนำซองฝากลุงมาให้ เห็นว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับการทุจริตการเลือกตั้ง จึงอัดคลิปเสียงไว้เป็นหลักฐาน ต่อมาผู้สมัครดังกล่าว โทรศัพท์มาหาอีกครั้ง พร้อมบอกว่าในซองมีเงิน 500 บาท เป็นเงินค่าแกนนำ และขอให้หารายชื่อคนไปให้ จากนั้นมีนายมานำซองเงินมาให้ตนที่บ้านพร้อมมอบซอง โดยแจ้งว่ามีเงินในซอง 500 บาทสำหรับหัวคะแนน ได้รับไว้แต่ไม่เปิดดู เพราะเป็นกระบวนการการทุจริตการเลือกตั้งพร้อมอัดคลิปเสียงไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นนำคลิปเสียงและซองเงินมาปรึกษาผู้ใหญ่ที่รู้จัก ก่อนนำมาร้องเรียน กกต.
วันเดียวกัน ที่สำนักงาน กกต. นายอนุสรณ์ แกหลิ่ง ผู้สมัคร ส.อบจ.บึงกาฬ เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อ กกต.เพื่อให้ตรวจสอบกรณี นายปรีชา กุมภิโร ผู้สมัคร ส.อบจ.บึงกาฬ และนายสุวรรณา กุมภิโร อดีตนายก อบต.ป่งไฮ น้องชายของนายปรีชา ในฐานะผู้มีสิทธิเลือกตั้ง กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นหรือไม่ ทั้งนี้ นายอนุสรณ์กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมี 3 ลักษณะคือ 1.การที่นายปรีชา และนายสุวรรณาไปงานศพร่วมกัน และพบว่านายสุวรรณามีการมอบเงินช่วยเหลือในฐานะเป็นอดีตนายก อบต.แต่จะมีนายปรีชาร่วมอยู่ในภาพดังกล่าวด้วย 2.การที่นายปรีชาและนายสุวรรณาไปงานกิจกรรมกีฬาของโรงเรียนร่วมกัน โดยที่นายสุวรรณามีการมอบเงินให้ ผอ.โรงเรียนเพื่อสมทบเป็นเงินรางวัล มีนายปรีชาร่วมอยู่ในภาพเช่นเดียวกัน และ 3.มีการมอบเสื้อให้ประธานสตรีตำบลน้ำจั้น รวม 13 หมู่บ้าน โดยเป็นการมอบเสื้อเบอร์ 3 ตรงกับหมายเลขที่นายปรีชาสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ด้วย โดยนายสุวรรณาเป็นคนมอบ แต่นายปรีชาและนายสุวรรณายืนอยู่คู่กัน โดยเรื่องที่เกิดขึ้นมีการนำรูปถ่ายทั้ง 3 ลักษณะโพสต์ลงในเพจป่งไฮโพสต์ และมีการส่งต่อในไลน์กลุ่มสตรีน้ำจั้น
นายอนุสรณ์กล่าวต่อว่า จึงอยากให้ตรวจสอบว่าการกระทำลักษณะดังกล่าวทั้งการมอบเงินโดยมีนายปรีชาปรากฏอยู่ในภาพ และการมอบเสื้อที่มีสัญลักษณ์เบอร์สามซึ่งตรงกับเบอร์ของนายปรีชาในระหว่างหาเสียงนั้นสามารถทำได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเรื่องที่ร้องเรียนมีหลักฐานชัดเจน จึงมายื่นเรื่องต่อสำนักงาน กกต.เพื่อให้ทำการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว’>