ผู้ว่าราชการ จ.บึงกาฬ ออกคำสั่งปิดสถานที่ประกอบการต่างๆในบึงกาฬ

จากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในประเทศไทย ที่ยังคงมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง ซึ่งจังหวัดบึงกาฬถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่เฝ้าระวัง ประกอบกับขณะนี้เข้าสู่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 ประชาชนอาจมีการรวมกลุ่มเพื่อจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดความแออัด และอาจก่อให้เกิดการติดต่อและการแพร่ระบาดของโรคได้โดยง่าย ดังนั้น เพื่อเป็นการกำหนดมาตรการในการป้องกันเฝ้าระวังโรคโควิค 19 ในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ นายสนิท ขาวสอาด ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบึงกาฬ จึงออกคำสั่งการให้ปิดสถานที่และมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค covid-19 ดังนี้

1 ให้ปิดสถาน เสี่ยงต่อการเกิดโรค ได้แก่ สนามชนไก่ และสนามซ้อมชนไก่

2 ให้สถานที่ดังต่อไปนี้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค covid-19 อย่างเคร่งครัด ได้แก่ สถานบริการหรือสถานประกอบการใดที่เปิดให้บริการในลักษณะคล้ายสถานบริการ ร้านคาราโอเกะ ร้านค้าทั่วไป ร้านอาหาร สถานที่จำหน่ายอาหาร หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หรือเครื่องดื่มอย่างอื่น รวมถึงร้านอาหารในโรงแรม หรือในสถานที่พักอย่างอื่น ต้องจัดให้มีมาตรการป้องกันโรคดังนี้

1 ให้ทำความสะอาด โดยการเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสของสถานที่ที่เกี่ยวข้องก่อนการจัดกิจกรรม และให้กำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน

2 ให้เจ้าหน้าที่ ผู้ประกอบการ ผู้ร่วมงาน ผู้ร่วมกิจกรรม ลูกจ้าง ผู้ใช้บริการ สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าและจัดให้มีมาตรการคัดกรองวัดไข้

3 จัดให้มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่ แอลกอฮอล์เจล หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค

4 จัดให้มีมาตรการเว้นระยะนั่ง หรือยืนห่างกันอย่างน้อย 1 เมตรเพื่อป้องกันการติดต่อสัมผัสหรือแพร่เชื้อโรคทางละอองฝอยน้ำลาย

5 ให้ควบคุมจำนวนผู้ร่วมกิจกรรมมิให้แออัด หรือลดเวลาในการทำกิจกรรมให้สั้นลงเท่าที่จำเป็น โดยถือหลักการหลีกเลี่ยงการติดต่อสัมผัสระหว่างกัน เช่น มิให้พนักงานนั่งกับผู้ใช้บริการ มิให้มีผู้บริการร้องเพลงร่วมกับผู้ใช้บริการ และมิให้มีการเต้นหรือยินยอมให้มีการเต้นยกเว้นการเต้นของนักร้องหรือนักแสดงที่เต้นหรือแสดงบนเวที

6 ให้มีการลงทะเบียนก่อนเข้าออกสถานที่ และให้ใช้แพลตฟอร์มไทยชนะ

ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อพุทธศักราช 2558 และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพุทธศักราช 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และจะมีคำสั่งปิดสถานที่ตามกฎหมาย ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง