กรณี นางสุมาลี โพธิสว่าง อายุ 66 ปี แม่ค้าไส้กรอก ชาวบึงกาฬที่ไปกู้ยืมเงินมาเป็นทุนค้าขาย จำนวนเงิน 5,000 บาท ถูกแก๊งเงินกู้เข้ามาชกหน้าแตกเย็บไป 4 เข็ม จนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล จากนั้นไปแจ้งความที่ สภ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้ว
บึงกาฬ จับแล้วแก๊งเงินกู้โหดชกหน้ายายวัย 66 ลูกหนี้หน้าแตกหงายหลังสลบ
คืบหน้าเกี่ยวกับคดีแก๊งทวงหนี้โหดขับเก๋ง 2 คนไปทวงหนี้ยายวัย 66 ปีถึงหน้าบ้าน ในเขตเทศบ้านเมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ เจ้าหนี้ขอดูบัญชีหนี้ที่เหลือ ซึ่งหน้าจะไม่เกิน 2,000 บาท แต่คนเก็บเงินอ้างยายลูกนี้พูดไม่ดีใส่ก่อน จึงโมโหชกหน้าไป 1 ทีได้รับบาดเจ็บดังกล่าว หลังก่อแหตุได้ขับรถพากันหลบหนีไปหนองคายพักอาศัยบ้านนายทุน พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ทั้งบึงกาฬและหนองคาย ร่วมกันติดตามจับกุมแก๊งเงินกู้มาได้ทั้ง 4 คนนายทุนอีก 1 รวมเป็น 5 คน
จากกรณีแก๊งทวงเงินกู้นอกระบบ ใช้กำปั้นชกหน้านางสุมาลี โพธิสว่าง อายุ 66 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 1 ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ จนล้มตึงหงายท้องท้ายทอยฟาดพื้นปืนสลบ นายบุญมี ไชยนาม อายุ 70 ปี สามีอยู่ในเหตุการณ์จึงหามภรรยาส่ง รพ.บึงกาฬ หมอเย็บหน้าผากไป 4 เข็ม ท้ายทอยแตกปริ หลังนอนพักรักษาตัว 1 คืน ได้เดินทางเข้าแจ้งกับ ร.ต.อ.รัฐพล เดชนรสิงห์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองบึงกาฬ ให้ดำเนินคดีกับแก๊งเงินกู้โหด หลังก่อเหตุได้ขับรถเก๋ง 2 คันมียี่ห้อมิตซูบิชิ สีดำ ทะเบียน ขษ 3275 นครราชสีมา และเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีขาว จำเลขทะเบียน หมวดอักษรและจังหวัดไม่ได้ มีชายเดินลงมาจากรถ 4 คนมีการสอบถามและต่อว่ากันทั้ง 2 ฝ่ายก่อน 1 ใน 4 แก๊งเงินกู้จะปรี่เข้าไปชกหน้ายายลูกหนี้วัย 66 ปี หลังก่อเหตุขับรถหนีไป ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
วันนี้ เวลา 15.00 น.วันที่ 18 ม.ค.พล.ต.ต.สมศักดิ์ คงไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ พ.อ.ยรรยง แสงฮาด รอง ผอ.กอ รมน.บึงกาฬ ,พ.ต.อ.สุกฤษณ์ ข้อร่วมคิด ผกก.สืบสวน ภ.จว.บึงกาฬ ,พ.ต.อ.วิชยานนท์ นิติกุล ผกก.สภ.เมืองบึงกาฬ แถลงข่าวการจับกุม 1.นายสมาพล หรือ เก่ง ไชยศิริ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91/3 ม.2 ต.ดงขวาง อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี ตามหมายจับของศาลจังหวัดบึงกาฬที่ 11/2564 ลง16 มกราคม 2564 ได้ที่บริเวณสวนสาธารณะหนองถิ่น ต.มีชัย อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย พร้อมพวกคือ 2.นายนัฐพล หรือต้อง มุนิล อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 267/1 ม.17 ต.หนองกรด อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ 3.นายศิวกร บุญสลี อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2489 ม.1 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 4.นายอิศรศ ดงทอง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 7 ต.หนองขาม อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ และ5.นายสมพงษ์ จันแจ้ง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 211 ม.7 ต.กวนวัน อ.เมือง จ.หนองคาย พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือจำนวน 5 เครื่อง รถเก๋งยี่ห้อซูซูกิ สีดำ ทะเบียน ขษ 3275 นครราชสีมาคันขับมาก่อเหตุ
พล.ต.ต.สมศักดิ์ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬกล่าวว่า คดีนี้ผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจ เพราะเป็นปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ทำมาหากิน พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ รอง ผบก.ภ.4 ลงพื้นที่ควบคุมสั่งการ พ.ต.อ.อารัก มาสาธานัง รอง ผบก.บึงกาฬ วางแนวทางการสืบสวนจับกุมพร้อมชุดสืบสวนภาค 4 และชุดสืบสวนหนองคายแลบึงกาฬ ออกติดตามจนทราบว่าแก๊งเงินกู้รายนี้อยู่ในพื้นที่จังหวัดหนองคาย จึงขอศาลออกหมายจับทั้ง 4 คนที่ร่วมกันก่อเหตุทำร้ายร่างกายลูกหนี้ได้รับบาดเจ็บตามที่เป็นข่าว ซึ่งตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ จะได้มีมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาอีก เพราะคดีก่อนที่เพิ่งเกิดขึ้นมาไม่นานก็สามารถจับกุมนายทุนตัวการที่ลงมือทำร้ายลูกหนี้จนบาดเจ็บเช่นกัน โดยจะให้ชุดสืบสวนไล่ทำประวัติถ่ายรูปนายทุนเงินกู้ที่เข้ามาหากินในพื้นที่บึงกาฬไว้ หากมีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นอีกก็จะได้รู้ทันทีว่าใครเป็นคนทำ
ส่วนคดีนี้ ได้ตั้งข้อหากับแก๊งเงินกู้ดังกล่าวว่า ร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ 2.ร่วมกันทวงหนี้โดยการข่มขู่ ใช้ความรุนแรงหรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกายของลูกหนี้ 3.ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ 4.เสพยาบ้าฯ นำตัวส่งดำเนินคดี โดยมีนายศิวกร หรือเฟรม บุญสลี รับว่าตนเองได้ร่วมกับพวกไปเก็บเงินจริงและเป็นคนลงมือทำร้ายร่างกายผู้เสียหายจริง อ้างว่านางสุมาลี โพธิสว่าง อายุ 66 ปีลูกหนี้ด่าและพูดไม่ดีให้ตนก่อนจึงเกิดความโมโหระงับอารมณ์ไว้ไม่อยู่จึงชกหน้าไป 1 ทีไม่คิดว่าจะอาการหนักเพียงนี้.
ขอขอบคุณข่าวมติชน https://www.matichon.co.th/region/news_2535052
‘>