LINE : ติดต่อผู้ดูแล

ยินต้อนรับเว็บไซต์ข่าวสารเพจข่าวท้องถิ่นบึงกาฬ

วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2024
ข่าวเด่นบึงกาฬ

“เจ๊แดง หนองสองห้อง” ไม่ทนวอนตำรวจเร่งจับกุม “ปรัชญา” ผู้ต้องหาหลบหนีศาลบึงกาฬ คดีฉ้อโกงทรัพย์

“เจ๊แดง หนองสองห้อง” ไม่ทนวอนตำรวจเร่งจับกุม “ปรัชญา” ผู้ต้องหาหลบหนีศาลบึงกาฬ คดีฉ้อโกงทรัพย์ ตำรวจภาค 4 ควานหาตัว 7 ปี ไร้เงา ก่อนหมดอายุความ ปี 2567 นี้

นางสาวนิตร์รดี พงศ์จีรณพัต หรือ “เจ๊แดง” อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78 หมู่ที่ 11 บ้านหนองสองห้อง ตำบลค่ายบกหวาน อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย ร้องเรียนกับสื่อมวลชน เหตุถูกกลุ่มขบวนการหลอกขายฝากที่ดินฉ้อโกง ด้วยการนำเอกสารสิทธิ์ที่ดิน จำนวน 50 ไร่ ที่ จังหวัดบึงกาฬ มาขายฝาก เมื่อปี พ.ศ.2555 โดยทำสัญญาขายฝากเป็นระยะเวลา 1 ปี มูลค่า 2,500,000 บาท เมื่อครบระยะเวลาที่กำหนด ผู้ต้องหาไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนที่ดินผืนดังกล่าวไม่สามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ได้เช่นเดียวกัน

นางสาวนิตร์รดี พงศ์จีรณพัต หรือ “เจ๊แดง” เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อวันที่ 26-27 ธันวาคม 2555 ได้มีนายสมประสงค์ เที่ยงธรรม หรือ นายสมประสงค์ มหาสัจจะธรรม อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 204 หมู่ที่ 2 บ้านสะง้อ ตำบลหอคำ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ (อดีตลูกหนี้) ได้พานายปรัชญา เที่ยงธรรม อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 155 หมู่ที่ 2 บ้านโพนสว่าง ตำบลโพนสว่าง อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย นำหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดิน (น.ส.3 ก.) เลขที่ 1214 เล่มที่ 13 ก หน้าที่ 14 ต.โคกก่อง อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ เนื้อที่ 50 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกยางพาราเดินทางมาหาตนที่บ้านพัก เพื่อทำการขายฝากที่ดินหรือนำมาเป็นหลักทรัพย์ประกอบการกู้ยืมเงินในราคา 2,500,000 บาท
จากนั้น ตนและนายปรัชญา ได้เดินทางจากจังหวัดหนองคาย เพื่อไปดูที่ดินแปลงดังกล่าวด้วยกัน ในขณะที่เดินดูที่ดินอยู่นั้น ได้มีชายอีก 1 คน คล้ายกับผู้ดูแลสวนยางพาราเดินมาหานายปรัชญาด้วยท่าทีที่เหมือนนายจ้างกับลูกจ้างหรือคนดูแลสวนยาง และพาตนชี้แนวเขตสวนยางพาราทั้ง 50 ไร่ ทำให้ตนหลงเชื่อว่าที่ดินผืนดังกล่าวเป็นของนายปรัชญา จริง และได้ทำสัญญาขายฝากที่ดินกันในห้วงเวลา 17.00 – 19.00 น. ของวันที่ 27 ธันวาคม 2555 ในราคา 2,500,000 บาท โดยมีนายสมประสงค์ เป็นคนเซ็นค้ำประกันสัญญา

ด้วยเหตุนี้ ตนจึงได้เข้าไปแจ้งความร้องทุกข์ ณ สภ.เมืองบึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ในคดีฉ้อโกงทรัพย์ กับนายสมประสงค์และนายปรัชญา แต่อัยการจังหวัดบึงกาฬสั่งไม่ฟ้องนายสมประสงค์ สั่งฟ้องแต่นายปรัชญา เพียงผู้เดียว พร้อมขอหมายศาลจังหวัดบึงกาฬ จับกุมตัวนายปรัชญามาดำเนินคดี กระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดมุกดาหาร สามารถจับกุมตัวนายปรัชญาได้ ขณะที่นายปรัชญากำลังจะเดินทางข้ามไปยังประเทศลาว จึงได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบึงกาฬ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ตนแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบึงกาฬ ได้นำตัวนายปรัชญา ส่งพนักงานอัยการจังหวัดบึงกาฬเพื่อสั่งฟ้อง และนายปรัชญา ได้ขอประกันตัวในชั้นศาล วงเงิน 100,000 บาท จากนั้นนายปรัชญา ได้หลบหนีศาล ไม่มาศาลตามกำหนดนัดในชั้นสืบคดี ศาลจึงอนุมัติออกหมายจับนายปรัชญาอีกครั้ง ตามหมายจับที่ 79/2557 คดีหมายเลขดำที่ อ.1906/2557 ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2557 โดยมีอายุความ 10 ปี หรือไม่เกินวันที่ 29 เดือนกรกฎาคม 2567 นี้

ทั้งนี้ ตนได้ทำหนังสือสอบถามติดตามความคืบหน้าของคดีไปยัง สภ.เมืองบึงกาฬ, ตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ, กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 4 (จ.ขอนแก่น), สำนักงานอัยการจังหวัดบึงกาฬและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทราบว่า ยังไม่สามารถติดตามจับกุมตัวนายปรัชญา ได้ ตนจึงร้องเรียนกับสื่อมวลชนเพื่อเป็นกระบอกเสียงให้ประชาชนทั่วไปได้ทราบถึงพฤติการณ์ของกลุ่มบุคคลดังกล่าว ซึ่งเป็นภัยต่อสังคม และวอนไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ตน.

‘>

ข่าวเด่นบึงกาฬ ล่าสุด

อัพเดทล่าสุด