ผู้ว่าฯนครพนมเร่งสอบเอาผิดผับดัง ต้นเหตุแพร่โควิด ผู้ป่วยทะลุ 100 มีเด็ก 18 เที่ยว

ผู้ว่านครพนม ยันไม่ได้ขู่ เอาจริง เร่งสั่งสอบผับชื่อดังต้นเหตุแพร่เชื้อโควิด คลัสเตอร์สถานบันเทิง ยอดโควิดระบาดเพิ่มต่อเนื่อง ล่าสุดทะลุ 102 ราย ตายแล้ว 1 ราย ส่วนใหญ่เป็นนักเที่ยวผับ เผยอาจเข้าข่ายละเลย ตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ หนำซ้ำพบไทม์ไลน์ เด็ก 18 ปี เข้าเที่ยว ย้ำหากพบเข้าข่ายความผิด ดำเนินการขั้นเด็ดขาดสั่งปิดถาวร ส่วนผู้ใหญ่บ้านรถแห่ โทษหนักสุดตัดเงินเดือน สั่งเข้ม 12 อำเภอปฏิบัติตามาตรการ

เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด ล่าสุดวันนี้ พบผู้ป่วยติดโควิด เพิ่มอีก 2 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม จำนวน 102 ราย มีเสียชีวิตแล้ว 1 ราย รักษาหานกลับบ้านแล้ว 15 ราย ส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้อมาจากคลัสเตอร์สถานบันเทิง ที่มีการเที่ยวผับ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และมาจากพื้นที่เสี่ยงต่างจังหวัด โดยทางจังหวัดนครพนม และคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ ยังคง มีมาตรการเข้ม ในการตรวจสอบคัดกรอง ค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก ทั้งพื้นที่ 12 อำเภอ รวมถึง ปิดสถานบันเทิงเสี่ยง หรือสถานบริการกลุ่มเสี่ยงชั่วคราว รวมถึงคัดกรอง บุคคลที่มาจากพื้นที่เสี่ยงต้องกักตัว

ด้าน นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.นครพนม เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดในพื้นที่ จ.นครพนม ถึงแม้จะมีจำนวนผู้ป่วยเริ่มน้อยลง แต่ยังคงต้องเพิ่มความเข้มข้น ต่อเนื่องในการตรวจสอบคัดกรองป้องกัน ร่วมกับทุกภาคส่วน ประชาชน ทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรการเคร่งครัด เพื่อลดการแพร่ระบาด สิ่งสำคัญตนยืนยันไม่ได้ละเลย ในการ ทบทวนเกี่ยวกับสาเหตุ ที่มาของการระบาด เนื่องจากส่วนใหญ่ จากการตรวจสอบ ไทม์ไลน์ ผู้ป่วย พบว่า 90 เปอร์เซ็นต์ มาจากคลัสเตอร์สถานบันเทิง ปละมีไทม์ไลน์เชื่อมโยง กับผับชื่อดังแห่งหนึ่งในตัวเมืองนครพนม เกือบทุกราย ซึ่งจะต้องมีการสอบสวนเชิงลึก ถึงสาเหตุที่มารหากพบว่ามีการปล่อยปะละเลย ขาดการเอาใจใส่ไม่มีมาตรการดูแลป้องกัน จะต้องดำเนินการตามกฎหมายภายหลังการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วเสร็จ

0y’

นอกจากนี้ยังมีไทม์ไลน์สำคัญ ยังพบเด็กเยาวชน อายุ 18 ปี ที่ป่วยติดเชื้อ มีไมท์ไลน์ เข้าไปเที่ยว ถือว่าผิดกฎหมาย ปล่อยปะละเลยให้เด็กอายุต่ำกว่ากฎหมายกำหนดเข้าเที่ยว ตนยืนยันว่าไม่ได้ขู่เอาจริง หากมีการสรุปหลักฐานการสอบสวนชัดเจน จะต้องดำเนินการทางกฎหมายเด็ดขาด ถึงขั้นปิดถาวร เพราะตนไม่มีส่วนได้เสียกับใคร และขอให้ประชาชนมั่นใจ ว่าดำเนินการตามกฎหมายทุกรายไม่มีละเว้นหากพบฝ่าฝืนกฎหมาย นอกจากนี้ ในส่วน ของ ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ ต.นางัว อ.บ้านแพง จ.นครพนม ที่มีการปล่อยให้ลูกบ้านจัดงานสงกรานต์รถแห่ เล่นน้ำ ดื่มสุรา รื่นเริง ไม่เพียงมอบหมายให้ตำรวจ ดำเนินคดีทุกรายที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของผู้ใหญ่บ้าน ได้มีการสอบสวนเอาผิดทางวินัย ด้วย แต่โทษสูงสุดไม่ถึงขั้นให้ออก แต่จะต้องมีการตัดเงินเดือน ตามระเบียบ อยู่ระหว่างการสอบสวนดำเนินการ อย่างไรก็ตามฝากประชาชน รวมถึง เจ้าหน้าที่ ช่วยกันดูแลควบคุม เพื่อความปลอดภัยของ ชาว จ.นครพนม

‘>