LINE : ติดต่อผู้ดูแล
เดินทางจากพื้นที่เสี่ยงสูง กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี ต้องรายงานตัว และกักตัวทุกราย เพื่อป้องกันการนำเชื้อมาติดบุคคลใกล้ชิด
“พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดบึงกาฬ ที่เคารพทุกท่านครับ ด้วยในขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเขตพื้นที่ กรุงเทพมหานคร และจังหวัดปริมณฑล มีการแพร่ระบาดจำนวนมาก จึงขอแจ้งไปยังพี่น้องประชาชน ใครที่เดินทางกลับจากกรุงเทพมหานคร และจังหวัดปริมณฑล ทุกคนต้องรายงานตัว กับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือ อสม. ทุกราย และต้องกักตัว ยังสถานที่ ที่ทางราชการจัดให้ คือ LQ หรือ คือกักตัวที่บ้าน คือ HQ 14 วัน และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ของ จังหวัดบึงกาฬ พบเห็นผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง คือ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี เข้ามาในพื้นที่ ขอให้แจ้งกำนัน ผู้ใหญ่ หรือ อสม.เข้าไปตรวจสอบ โดยด่วน ซึ่งจากรายงานผู้ติดเชื้อในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ เมื่อเข้าพื้นที่ไม่มีการรายงานตัว ทำให้นำเชื้อไปติดบุคคลใกล้ชิด เกิดการแพร่ระบาด เน้นย้ำอีกครั้ง ถ้าเดินทางมาจาก กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี ต้องรายงานตัว และกักตัวทุกราย โดยเฉพาะถ้าเป็นการกักตัวที่บ้าน จะต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด คือ การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือให้สะอาดด้วยแอลกอฮอล์ หมั่นตรวจวัดอุณหภูมิ เป็นประจำ เพื่อเราชาวบึงกาฬ ปลอดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขอบคุณครับ”
ด้วยความห่วงใยจาก นายสนิท ขาวสอาด ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ
ข้อมูลจาก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบึงกาฬ, 22 พ.ค. 2564
มาตรการเข้าจ.บึงกาฬ ล่าสุด เดินทางจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 4 จังหวัด และพื้นที่ควบคุมสูงสุด 17 จังหวัด ต้องกักตัว 14 วัน เว้นแต่ได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้ว 2 โดส
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ เปิดเผยถึงมาตรการในการเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ ณ ขณะนี้ (ข้อมูลล่าสุด ณ 17 พฤษภาคม 2564) ว่า จากการแบ่งพื้นที่เป็น 3 ระดับ ของ ศบค. ได้แก่ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 4 จังหวัด, พื้นที่ควบคุมสูงสุด 17 จังหวัด, และพื้นที่ควบคุม 56 จังหวัดนั้น จังหวัดบึงกาฬ จึงมีการกำหนดมาตรการในพื้นที่ทั้ง 3 ระดับ เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายในจังหวัดบึงกาฬ ดังนี้
1.ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 4 จังหวัด (ได้แก่ กทม. ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ) ต้องมีหลักฐานในการเดินทางเข้าพื้นที่บึงกาฬ คือ 1.เอกสารรับรองการเดินทางออกนอกจังหวัด 2.เอกสารรับรองผลการตรวจโควิด-19 ภายใน 72 ชั่วโมง 3.หากท่านมีสมาร์ทโฟนให้ลงทะเบียนก่อนเข้าจังหวัด ที่ QR Code หรือที่ลิงค์ https://bkpho.moph.go.th/ssjweb/bkcovid/index.php… และ 4.เอกสารรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 โดสโดยให้แจ้งรายงานตัวต่อผู้ใหญ่บ้าน อสม. หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อรับการซักประวัติ และประเมินความเสี่ยง แต่ทุกคนต้องกักตัว 14 วัน หากยังไม่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดส2.ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด 17 จังหวัด (ได้แก่ กาญจนบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ตาก นครปฐม นครศรีธรรมราช นราธิวาส ประจวบคีรีขันธ์ พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี ยะลา ระนอง ระยอง ราชบุรี สมุทสาคร สงขลา สุราษฎร์ธานี) ต้องแจ้งรายงานตัวต่อผู้ใหญ่บ้าน อสม. หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อรับการซักประวัติ และประเมินความเสี่ยง แต่ทุกคนต้องกักตัวที่บ้าน 14 วัน หากยังไม่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดส3.ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุม 55 จังหวัด (ไม่นับรวมบึงกาฬ) (ได้แก่ กระบี่ กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร ขอนแก่น จันทบุรี ชัยภูมิ ชัยนาท ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตราด นครนายก นครพนม นครราชสีมา นครสวรรค์ น่าน หนองคาย บุรีรัมย์ ปราจีนบุรี ปัตตานี พังงา พัทลุง พะเยา พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ ภูเก็ต มหาสารคาม มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยโสธร ร้อยเอ็ด ลพบุรี ลำปาง ลำพูน เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สตูล สระแก้ว สระบุรี สมุทรสงคราม สิงห์บุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี สุรินทร์ หนองบัวลำภู อ่างทอง อุดรธานี อุตรดิตถ์ อุทัยธานี อุบลราชธานี อำนาจเจริญ) ต้องแจ้งรายงานตัวต่อผู้ใหญ่บ้าน อสม. หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อรับการซักประวัติ และประเมินความเสี่ยง จากนั้นเฝ้าระวังตัวเอง (ไม่ต้องกักตัว) และปฏิบัติตามมาตรการ DMHTT อย่างเคร่งครัด
หากมีข้อสงสัย สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ 042 492 046 ต่อ 114 (ในเวลาราชการ) หรือ 061 205 3743 (นอกเวลาราชการ)ข้อมูลจาก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ
เรียบเรียง: สวท.บึงกาฬ กรมประชาสัมพันธ์, เผยแพร่ 19 พฤษภาคม 2564‘>
