บึงกาฬปลูกฟ้าทะลายโจร 100,000 ต้นใช้ทำยาต้านภัยโควิด-19

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 14 ส.ค.ที่บริเวณแปลงพืชสมุนไพร วัดป่าดานวิเวก บ้านแสงอรุณ หมู่ 7 ต.ศรีชมภู อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) ลงพื้นที่ Kick Off ปลูกพืชสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ต้านภัยโควิด-19 จ.บึงกาฬ จำนวน 100,000 ต้น เพื่อนำผลผลิตไปทำยา ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทางการแพทย์ โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 โดยมีนายสนิท ขาวสอาด ผู้ว่าราชการจ.บึงกาฬ, นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ รองผู้ว่าราชการจ.บึงกาฬ, หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำหมู่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ และร่วมปลูกต้นฟ้าทะลายโจรในครั้งนี้

นายทรงศักดิ์ ทองศรี มท.2 กล่าวว่า จ.บึงกาฬ เป็นหนึ่งในจังหวัดที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ตนดูแลในการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน ซึ่งในวันนี้ ทางการแพทย์ได้มีงานวิจัยว่า ฟ้าทะลายโจรมีประสิทธิภาพในการลดการพัฒนาของโรคไม่ให้เดินหน้ารุนแรงขึ้นจนเกิดปอดอักเสบได้ จึงคิดว่า บึงกาฬเป็นจังหวัดที่มีลักษณะทางภูมิศาสตร์เหมาะสม มีฝนฟ้าดี ดินก็ดี เราก็สามารถเชิญชวนพี่น้องประชาชนมาปลูกฟ้าทะลายโจรได้อย่างจริงจัง แล้วนำผลผลิตจำนวนหนึ่งไปผลิตเป็นยา ตามที่ทางการแพทย์ได้ศึกษาวิจัยไว้ในเบื้องต้น จึงมีการ Kick Off ที่บึงกาฬ ซึ่งเป็นจังหวัดซึ่งตนผูกพันและคุ้นเคย

นายทรงศักดิ์ กล่าวว่า โครงการนี้เหมือนเป็นโครงการจิตอาสา ที่มาช่วยกันทำให้เกิดเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะก่อเกิดเป็นมรรคเป็นผล โดยตนนั้นได้สละทรัพย์ส่วนตัวซื้อพันธุ์ฟ้าทะลายโจรมาปลูกให้กับที่นี่ จำนวนประมาณ 100,000 ต้น และฟ้าทะลายโจรก็เป็นพืชสมุนไพรซึ่งมีอายุประมาณซัก 120 วัน ก็สามารถจะเก็บเกี่ยวนำมาทำเป็นยาได้ โดยโครงการดังกล่าวนี้เอง นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายท่านรองฯ ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานในการขับเคลื่อนเรื่องการปลูกฟ้าทะลายโจร ซึ่งก็เป็นความห่วงใยจากรัฐบาลที่มีต่อพี่น้องประชาชน เราก็ช่วยกันได้ แบ่งเบาภาระมาทำที่จังหวัดบึงกาฬเป็นจังหวัดนำร่องหนึ่งที่ตนดูแล นอกจากนี้ ยังได้กล่าวเชิญชวนประชาชนทุกจังหวัด ใครที่พอมีเวลาว่าง เชิญชวนปลูกฟ้าทะลายโจรเป็นพืชที่ปลูกไม่ยาก ขึ้นง่าย ก็สามารถไปขอพันธุ์ได้ที่กรมวิชาการเกษตร, หรือเกษตรจังหวัดทุกจังหวัด.

‘>