เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 17 ส.ค. ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอโซ่พิสัย อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ที่ใช้เป็นโรงพยาบาลสนาม ดูแลรับผิดชอบผู้ป่วยสีเขียวขาลงในพื้นที่อำเภอโซ่พิสัย นายธาตรี บุญมาก รอง ผวจ.บึงกาฬ ลงพื้นที่มอบสิ่งของและตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานควบคุมโรคโควิด-19 โดยมี นายกฤษฎา โพธิ์ชัย นายอำเภอโซ่พิสัย พร้อมด้วย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลโซ่พิสัย ท้องถิ่นจังหวัด ท้องถิ่นอำเภอ เหล่ากาชาดอำเภอโซ่พิสัย ผู้นำท้องถิ่นท้องที่ ร่วมถึงเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลโซ่พิสัย สาธารณสุขอำเภอโซ่พิสัย ให้การต้อนรับ พร้อมกับพูดคุยให้กำลังใจกับผู้ป่วยที่กำลังรักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ ผ่านเครื่องขยายเสียง
ขณะที่นพ.ภมร ดรุณ นพ.สสจ.บึงกาฬ กล่าวว่า สำหรับการฉีดวัคซีนในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ บึงกาฬต้องฉีดวัคซีนให้ได้กว่า 70% หรือคิดเป็นประชากรต้องได้มากกว่า 290,000 คน เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ณ ปัจจุบันพึ่งฉีดได้ประมาณ 70,000 กว่าคน ส่วนกลุ่มที่ 60 ปีขึ้นไปและ 7 กลุ่มโรครวมถึงหญิงตั้งครรภ์ กำลังเร่งรณรงค์ให้ฉีดวัคซีนมากเป็นพิเศษเพื่อป้องกันการเสียชีวิต
“สำหรับวัคซีนไฟเซอร์ นั้นขอเรียนว่าจังหวัดบึงกาฬได้รับการจัดสรรมา 2 รอบ รอบแรกได้มาจำนวน 2,160 โดส รอบที่สองได้มา 720 โดส ซึ่งฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ไปแล้วทั้งหมดเกือบ 2,000 คน ซึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ตอนนี้ยังมีวัคซีนไฟเซอร์เหลืออยู่อีกกว่า 500 โดส ซึ่งต้องรอแนวทางจากส่วนกลางว่าจะนำไปฉีดให้กับกลุ่มไหนต่อไป ซึ่งอาจจะเป็นกลุ่มเด็กหรือด่านหน้าอื่นๆที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ด้วย รับรองว่ายังไม่มี VIP เข้ามาฉีดไฟเซอร์ แต่ก็มีสอบถามมาบ้าง ซึ่งก็ตอบไปแล้วว่าต้องรอในรอบของประชาชนทั่วไป ซึ่งส่วนกลางคงจะส่งวัคซีนมาบูทให้ในภายหลัง แต่ก็มีบุคลากรทางการแพทย์ของเอกชนที่ได้ส่งรายชื่อไปแต่รอบแรกก็มีอยู่เพราะเขาอยู่ในเกณฑ์ ซึ่งแรกวัคซีนได้มาไม่มากจึงขอให้เขาไปฉีดในรอบหลัง ขอฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่ในโรงพยาบาลของรัฐก่อน ซึ่งเขาก็เข้าใจไม่ได้มาฉีดตามวันที่นัด ซึ่งขอยืนยันว่าบุคลากรทางการแพทย์ของรัฐได้ฉีดวัคซีนครบทุกคน แต่ก็มีบางส่วนที่มีข้อห้ามบ้าง เช่น กำลังตั้งครรภ์ หรือไม่มีโรคประจำตัว หรือบางคนเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ต้องกักตัวครบ 14 วันถึงจะได้ฉีดวัคซีน ซึ่งทุกคนจะได้ฉีดจนครบตามต้องการ บางส่วนก็ปฏิเสธไฟเซอร์ ไปรับแอสตร้าเซเนกาแทนจำนวนหนึ่ง” นพ.ภมร กล่าว
นพ.สสจ.บึงกาฬ ระบุว่า ช่วงนี้ถึงแม้สถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จะมีแนวโน้มคลี่คลายลง ผู้ป่วยที่เข้ามาก็มีจำนวนน้อยลง แต่ก็อยากรณรงค์เชิญชวนให้พี่น้องประชาชนได้รับวัคซีนให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และคนที่มีโรคประจำตัวให้ฉีดวัคซีนให้ได้มากๆ เพราะสองกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อแล้วป่วยหนักและเสียชีวิต ซึ่งต่อไปจะมีการแจ้งล่วงหน้าว่าจะมีการฉีดวัคซีนที่ใดบ้าง โดยผ่านทาง สื่อ สวท.บึงกาฬ และเพจ หรือเว็บของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ เน้นย้ำขอเป็นคนในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ และอาศัยอยู่ในพื้นที่เท่านั้น
ที่มาข่าว มติชนออนไลน์ https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2890528‘>