วันนี้ (24 พ.ย.64) ที่วัดสิงหราชนิคม บ้านทรายทอง ม.5 ต.นาสิงห์ อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอศรีวิไล ร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาสิงห์(รพ.สต.นาสิงห์) และ อสม.บ้านทรายทอง ออกหน่วยให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับชาวบ้านบ้านทรายทอง และบ้านนาสิงห์ ที่แจ้งความประสงค์ต้องการฉีดวัคซีน ผ่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ หลังหมู่บ้านใกล้เคียงติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก ซึ่งชาวบ้านตื่นตัวเข้ารับวัคซีนอย่างต่อเนื่อง ด้านสาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ แจ้งว่า จังหวัดบึงกาฬพบผู้ติดเชื้อจากอำเภอบึงโขงหลง คลัสเตอร์งานแต่ง ตำบลดงบัง 5 ราย อำเภอศรีวิไล คลัสเตอร์เกี่ยวข้าว บ้านนาทราย ตำบลนาสิงห์ 2 ราย และอำเภอเมืองบึงกาฬ ตำบลบึงกาฬ 1 ราย รวม 8 ราย ทั้งหมดเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงสูงส่งกักกันตัวใน CQ (Community Quarantine) ของชุมชนนั้นๆ ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งหมดเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่ใกล้ชิดผู้ป่วยก่อนหน้านี้
นายแพทย์ภมร ดรุณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ เปิดเผยวันนี้พบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ยืนยัน 8 ราย ยอดผู้ป่วยรักษาหายวันนี้ 3 ราย กำลังรักษา 80 ราย จำนวนผู้ติดเชื้อในจังหวัดบึงกาฬ สะสม 2,21 7 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 17 ราย ผู้ป่วยทั้งหมดมาจากระบบเฝ้าระวังโรคในโรงพยาบาล การตรวจเชิงรุกเฝ้าระวังในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่อยู่ระหว่างกักกัน ผู้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ซึ่งผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นนี้สัมพันธ์กับ กรณีการป่วยในครอบครัวหรือในหมู่บ้าน ที่ยังอยู่ในระยะการเฝ้าระวังของโรค โดยคลัสเตอร์หลักๆ ในจังหวัดบึงกาฬที่อยู่ในช่วงเฝ้าระวัง เกิดขึ้นใน 6 อำเภอ คือ 1.อ.เมืองบึงกาฬ คลัสเตอร์วอลเลย์บอล มีผู้ติดเชื้อ 31 ราย /2.อ.พรเจริญ คลัสเตอร์โรงพยาบาลและโรงเรียน มีผู้ติดเชื้อ 12 ราย /3.อ.โซ่พิสัย บ้านโนนสมบูรณ์ คลัสเตอร์นี้มีผู้ติดเชื้อ 25 ราย/ 4.อ.เซกา คลัสเตอร์ตลาดสด มีผู้ติดเชื้อ 10 ราย/5.อ.บึงโขงหลง คลัสเตอร์งานแต่ง มีผู้ติดเชื้อ 23 ราย และ 6.อ.ศรีวิไล คลัสเตอร์เกี่ยวข้าว มีผู้ติดเชื้อ 24 ราย
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬยังกล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณณ์การฉีดวัคซีนของ จ.บึงกาฬ ณ ปัจจุบันจะดูในส่วนของ 1.ข้อมูลฐานประชากรตามทะเบียนราษฎร์ของ จ.บึงกาฬ ที่มีประมาณ 420,000 กว่าคน ฉีดวัคซีนไปแล้ว 186,000 กว่าคน คิดเป็นประมาณ 44 % แต่ในความเป็นจริงแล้วประชาชนใน จ.บึงกาฬ ที่ไปทำงานต่างจังหวัดนั้นมีเป็นจำนวนมากถึง 100,000 กว่าราย ทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมถึง จ.อื่นๆ ด้วย ดังนั้นจากการสำรวจประชากรที่อาศัยอยู่จริงในพื้นที่ จ.บึงกาฬ (จากการสำรวจของกระทรวงมหาดไทย) ขณะนี้ 317,000 กว่าคน ซึ่งน้อยกว่าข้อมูลในทะเบียนราษฎร์ประมาณ 100,000 กว่าคน หากเราคิดความครอบคลุมของประชากรที่อาศัยอยู่จริง เราจะฉีดวัคซีนได้ถึงกว่า 58 % ซึ่งก็ใกล้เคียงกับเป้าหมาย 70 % มากขึ้น ดังนั้นเหลือประชากรอีกประมาณ 80,000 กว่าคน ซึ่งใน 80,000 กว่าคนนี้ ทางสาธารณสุขจังหวัดร่วมมือกับฝ่ายปกครองและทุกภาคส่วนในการรณรงค์ให้พี่น้องประชาชนมารับวัคซีน
ในส่วนของส่วนราชการต่างๆ และสถานประกอบการต่างๆ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งข้าราชการ พนักงานราชการ เจ้าหน้าที่ ผู้ประกอบการร้านค้า พนักงาน ต่างให้ความร่วมมือในการฉีดวัคซีนแล้วกว่า 90 % ส่วนที่เหลืออยู่อาจจะเป็นกลุ่มที่ยังรอวัคซีนทางเลือกหรือมีโรคประจำตัวบางโรคที่ยังฉีดวัคซีนไม่ได้ ในส่วนของประชาชนซึ่งอยู่ตามหมู่บ้านต่างๆ จะมีผู้นำชุมชน นายอำเภอทุกอำเภอ สาธารณสุขอำเภอทุกอำเภอ มีบัญชีรายชื่อประชาชนที่อาศัยอยู่จริงทั้งหมดและคนที่ฉีดวัคซีนไปแล้ว เหลือคนที่ยังไม่ฉีดกี่คน ก็สามารถระบุชื่อได้
ตอนนี้ก็มีการรณรงค์กันทุกวิถีทาง ทั้งนายอำเภอ สาธารณสุขอำเภอ ผอ.รพ.สต. เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ไปเคาะประตูบ้านเชิญชวนให้มาฉีดวัคซีนกันอย่างต่อเนื่อง และมีการประชาสัมพันธ์สูตรการฉีดวัคซีนใหม่ๆที่กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศออกมาเพิ่มเติม ซึ่งก่อนหน้านี้จะเป็นสูตรไขว้ซิโนแวคเข็มแรก ตามด้วยแอสตร้าเซเนก้าเข็มที่ 2 ตอนนี้ก็เพิ่มสูตรการฉีดวัคซีนเป็นสูตรไขว้ แอสตร้าเซเนก้าเข็มแรก ตามด้วยไฟเซอร์เข็มที่ 2 ซึ่งสูตรนี้ก็ได้รับความสนใจจากประชาชนใน จ.บึงกาฬมากพอสมควร ในหลายๆ อำเภอก็มีแผนการฉีดวัคซีนลงถึงหมู่บ้านตำบล ในหลายพื้นที่ก็มีการแจกรางวัล เช่น ใครมาฉีดวัคซีนก็จะได้รับของชำร่วย ก็ถือว่าเป็นการรณรงค์การเช้าถึงวัคซีนให้ได้มากที่สุด ขณะนี้การฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าเข็มที่ 1 นั้น เมื่อเปิดขวดแล้วจะต้องฉีดได้ประมาณ 10 คน นโยบายตอนนี้คือ หากผู้นำชุมชนสามารถรวบรวมประชาชนในพื้นที่ได้ 10 คนขึ้นไป ทางเจ้าหน้าที่ของ รพ.สต.จะเดินทางมาฉีดให้ถึงหมู่บ้าน ซึ่งสามารถนัดวันฉีดได้เลย แต่ถ้าหากน้อยกว่า 10 คน เช่น 2-3 คน ทางผู้นำชุมชนทางท้องถิ่นก็จะจัดหารถพาประชาชนมาฉีดที่ รพ.สต.ที่ใกล้ที่สุด
ล่าสุดตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทางสาธารณสุข จ.บึงกาฬ ได้เปิดจุดบริการฉีดวัคซีน แบบ Walk-in ที่ห้องเทสโก้โลตัส สาขาบึงกาฬ โดยเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09:00 -17:00 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ วันเสาร์ อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนมากพอสมควร เฉลี่ยประมาณ 50 คนต่อวัน ซึ่งมีวัคซีนให้ประชาชนได้เลือกฉีดได้แทบทุกยี่ห้อ ตามความประสงค์ของตนเอง ส่วนวัคซีนของกลุ่มนักเรียน หรือเด็กอายุ 12-17 ปี ขณะนี้ฉีดไปได้แล้วประมาณกว่า 70% แล้ว ยังเหลืออีกประมาณ 12,000 กว่าโดส ซึ่งจะเร่งฉีดให้ทั้งในกลุ่มเด็กนักเรียน และกลุ่มเด็กที่ไม่ได้เรียนหนังสือมั้งหมดใน จ.บึงกาฬให้ทุกคนได้รับวัคซีนกันอย่างทั่วถึง ซึ่งวัคซีนที่ใช้จะเป็นวัคซีนไฟเซอร์ทั้งเข็มแรกและเข็มที่ 2 ในกลุ่มนี้ถือว่ามารับวัคซีนกันเยอะมากพอสมควร คาดว่าจะทำให้เปอร์เซ็นต์การได้รับวัคซีนของ จ.บึงกาฬ น่าจะเพิ่มมากขึ้นอีกประมาณ 3-4 % ภายในสิ้นเดือนนี้
นายแพทย์ภมร ดรุณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ ทิ้งท้ายถึงประชาชน จ.บึงกาฬ ว่าในช่วงนี้เกิดการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนหรือคลัสเตอร์ในหลายๆอำเภอ อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นมา จนถึงเดือนพฤศจิกายนกระจายไปในทุกอำเภอแล้ว ดังนั้นขอความร่วมมือประชาชนไม่ประมาท ดูแลตัวเองด้วยการปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดต่อไป ด้วยการเว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา และในการไปทำกิจกรรมร่วมกันเช่น การไปเกี่ยวข้าว และอาจจะต้องมีการรับประทานอาหารร่วมกัน ขอให้เว้นการรับประทานอาหารร่วมกันก่อนในช่วงนี้ จะลดการเกิดคลัสเตอร์ได้ และเน้นย้ำในเรื่องของการได้รับวัคซีนด้วย เพราะส่วนมากของผู้ที่เสียชีวิตมักเป็นผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน การได้รับวัคซีนจะทำให้เกิดอาการรุนแรงน้อย และลดอัตราการเสียชีวิตได้
‘>