LINE : ติดต่อผู้ดูแล

ยินต้อนรับเว็บไซต์ข่าวสารเพจข่าวท้องถิ่นบึงกาฬ

วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2024
ข่าวเด่นบึงกาฬ

จ.บึงกาฬ แถลงพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่อง โดยคลัสเตอร์ร้านอาหาร มีผู้ติดเชื้อแล้ว 66 ราย กระจายไปใน 7 อำเภอ

นายแพทย์สาธารณสุข จ.บึงกาฬ แถลงพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่อง โดยคลัสเตอร์ร้านอาหาร มีผู้ติดเชื้อแล้ว 66 ราย กระจายไปใน 7 อำเภอ พร้อมย้ำให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน ลดอาการป่วยรุนแรง

นายแพทย์ภมร ดรุณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ แถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ของจังหวัดบึงกาฬ ว่า ปัจจุบันยอดรวมทั้งหมดอยู่ที่ 2,454 ราย กำลังรักษาทั้งหมด 175 ราย เสียชีวิตสะสม 18 ราย ในช่วงที่สัปดาห์ที่ผ่านมาจำนวนผู้ป่วยรายวันมีแนวโน้มค่อนข้างสูงขึ้นเนื่องจากเกิดคลัสเตอร์ที่สำคัญขึ้น คือ คลัสเตอร์ร้านอาหาร ในพื้นที่ อ.เมืองบึงกาฬ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2564 ทาง รพ.บึงกาฬ ได้รับแจ้งผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับร้านอาหาร ซึ่งมีผู้รับบริการเป็นลูกค้าค่อนข้างมากในแต่ละวัน ได้รับการตรวจวินิจฉัยว่าเป็นโรคโควิด-19 ผู้ป่วยรายนี้ได้ตรวจ ATK วันที่ 30 พ.ย. 64 เป็นผลบวก ผู้ป่วยเป็นชาย อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นนักศึกษา ม.ราชภัฏเลย แต่เรียนออนไลน์ โดยผู้ป่วยให้ประวัติว่า เริ่มป่วยในวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านั้นในวันที่ 28 พ.ย. ได้เดินทางไปที่ร้านคับคั่ง โดยได้ร่วมรับประทานอาหาร กินดื่ม สังสรรค์กับเพื่อน ซึ่งมีประวัติไปคับคั่งตั้งแต่ 23 พ.ย.64 ที่ผ่านมา แล้วก็ทำให้มีผู้สัมผัสในร้านคับคั่งอยู่หลายรายทั้งเพื่อนที่ไปร่วมกินดื่มด้วยกัน และพนักงานภายในร้าน

ส่วนอีกรายหนึ่ง เป็นหญิงอายุ 18 ปี มีอาการไข้ตั้งแต่ 26 พ.ย. ที่ผ่านมา ด้วยอาการไอ เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อ มีน้ำมูก จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่ได้รส เข้ารับการตรวจที่ รพ.บึงกาฬก็ปรากฏว่า ติดเชื้อโควิด-19 โดยตัวผู้ป่วยเป็นนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคชั้น ปวส. ของวิทยาลัยเทคนิคบึงกาฬปี 1 โดยนอกเวลาก็จะมาทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟที่ร้านคับคั่ง ไทม์ไลน์ที่สำคัญก็คือ จะไปทำงานที่ร้านคับคั่งทุกวัน ซึ่งก็คาดว่า น่าจะติดจากผู้ป่วยชาย อายุ 19 ปีข้างต้น โดยพนักงานร้าน และลูกค้าก็น่าจะมีการนั่งกินดื่มด้วยกัน ก็ทำให้ติดเชื้อและกระจายเป็นวงกว้าง ซึ่งจากไทม์ไลน์ที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า ทั้งพนักงานเสิร์ฟ พนักงานร้านอาหาร และผู้ป่วยรายแรกซึ่งน่าจะมีการสัมผัสกันตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา ก็ทำให้มีการสัมผัสกับลูกค้าคนอื่น หรือพนักงานร้านคนอื่นจำนวนมาก จึงทำให้ในการตรวจเจอเชื้อตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. ทีมสอบสวนควบคุมโรคก็ต้องไปสืบสวนสอบสวนโรคว่า มีใครสัมผัสบ้าง เบื้องต้นก็คือ มีพนักงานในร้านประมาณ 50 คน ก็ต้องมีการตรวจ ATK แล้ว จากนั้นทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬได้มีการประกาศว่า ใครที่เดินทางไปที่ร้านคับคั่ง ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. จนถึงวันที่ 1 ธ.ค. เป็นต้นมา หากมีอาการ หรือสงสัย สามารถมาตรวจได้ที่สถานบริการใกล้บ้าน ก็ปรากฏว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ก็มีผลการตรวจเป็นบวกอยู่จำนวนหลายราย วันที่ 1 ธ.ค. พบ 2 ราย, วันที่ 2 ธ.ค. พบ 3 ราย, วันที่ 3 ธ.ค. พบ 2 ราย, วันที่ 4 ธ.ค. พบ 27 ราย, วันที่ 5 ธ.ค. พบ 12 ราย, วันที่ 6 ธ.ค. พบ 12 ราย, วันที่ 7 ธ.ค. พบอีก 8 ราย รวมทั้งหมด 66 ราย ณ ปัจจุบัน ซึ่งตัวเลขที่ค่อนข้างสูงดังกล่าวก็แสดงให้เห็นว่า การติดเชื้อที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นที่ร้านอาหารที่มีคนจำนวนมากไว้ใช้บริการ ทำให้เกิดการแพร่กระจายไปตามลูกค้าที่อยู่พื้นที่ต่างๆ เป็นวงกว้าง

ทีมสืบสวนสอบสวนควบคุมโรคได้รายงานว่าพบผู้ติดเชื้อแล้วทั้งหมด 66 ราย มีภูมิลำเนาซึ่งกระจายไปที่ อ.เมือง 50 ราย, อ.ศรีวิไล 4 ราย, อ.พรเจริญ 5 ราย, อ.โซ่พิสัย 4 ราย, อ.ปากคาด 1 ราย, อ.บุ่งคล้า 1 ราย และ อ.เซกา อีก 1 ราย ก็แสดงให้เห็นว่ากระจายไปเกือบทุกอำเภอของจังหวัดบึงกาฬ เนื่องจากร้านอาหารคับคั่งเป็นที่นิยมที่คนเดินทางเข้ามาเที่ยวเป็นจำนวนมาก

โดยขณะนี้ มาตรการที่ได้ดำเนินการไปแล้วก็คือ ทางจังหวัดได้สั่งปิดร้านคับคั่งตั้งแต่วันที่ 1 – 11 ธ.ค. เป็นเบื้องต้น ในส่วนของพนักงานที่เสี่ยงสูงก็ได้กักตัวที่บ้าน ส่วนผู้ป่วยก็ได้เข้าสู่กระบวนการรักษา และทุกอำเภอที่มีผู้ป่วยยืนยัน ทางทีมสอบสวนของอำเภอก็จะได้ไปสอบสวนและเก็บตัวอย่างจากกลุ่มเสี่ยงสูงที่ภูมิลำเนาของผู้ป่วย แล้วสั่งกักตัวผู้เสี่ยงสูงที่บ้าน ซึ่งก็พบหลายอำเภอ และที่สำคัญก็คือ ผู้ป่วยจำนวนมากก็ได้เป็นพนักงานของหลายสถานประกอบการ ซึ่งทางทีมสอบสวนของอำเภอที่เกี่ยวข้องก็ได้ลงไปสอบสวนควบคุมโรคที่สถานบริการแห่งนั้น ยกตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยที่ไปเที่ยวคับคั่งทั้ง 66 รายนั้น ได้ทำงานอยู่หลายๆ ที่ ได้แก่ ร้านซิกเนเจอร์, ร้านฉลองบาร์, ร้านเซฟโซน, ร้านโรงเหล้า, ร้านทรู, ร้านฟอร์ดบึงกาฬ, ร้านโตโยต้าบึงกาฬ, บริษัทแฟลชบึงกาฬ, บริษัทเจแอนด์ทีที่บึงกาฬ และครัวลุงน้อย ซึ่งสถานประกอบการนั้นก็จะมีพนักงานที่ไปเที่ยวคับคั่ง และติดเชื้อโควิด-19 ทำให้สถานประกอบการต่างๆ เหล่านี้ ได้สั่งปิดไปชั่วคราวเพื่อทำความสะอาด ซักประวัติ กักตัวเพื่อร่วมงานที่เป็นกลุ่มเสี่ยงไว้อย่างน้อย 7 วัน และมีการใช้พนักงานชุดใหม่มาทำงานแทน ซึ่งก็ต้องติดตามตรวจอีกครั้งว่า จะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นหรือไม่

ดังนั้น ในช่วงนี้ ทางจ.บึงกาฬ ขอประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องประชาชนที่ได้ไปเที่ยวสถานบริการคับคั่ง ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. จนถึงวันที่ 1 ธ.ค. หากใครมีอาการทางเดินหายใจ เช่น ไข้ ไอ น้ำมูก จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่ได้รส หรือสงสัยว่าตัวเองจะติดเชื้อ ก็ขอให้รีบไปตรวจ ATK หรือ PCR ที่โรงพยาบาล หรือ รพ.สต.ใกล้บ้านได้ทันที โดยนายแพทย์สาธารณสุขจ.บึงกาฬ ย้ำว่า มีการติดเชื้อเป็นวงกว้างและแพร่ระบาดเป็นจำนวนมาก ท่านที่เดินทางไปสถานที่ดังกล่าวให้รีบไปตรวจโดยด่วน ซึ่งส่วนใหญ่ได้มาตรวจจนเกือบหมดแล้ว นอกจากนี้ในวันที่ 9 ธันวาคมที่จะถึงนี้ ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบึงกาฬก็จะทำการประชุมเพื่อที่จะได้ยกระดับมาตรการควบคุมร้านอาหารที่มีคนนั่งกิน และมีการแสดงดนตรี ก็คงอาจจะมีการยกระดับขึ้นต่อไป เพื่อควบคุมไม่ให้เกิดการระบาดเช่นกรณีของคับคั่งนี้อีก ซึ่งต้องรอมติจากคณะกรรมการอีกครั้งหนึ่ง คาดว่า จะมีการจำกัดการกินดื่ม การแสดงดนตรีให้มากขึ้น เพื่อในอนาคตต่อไปจะไม่มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างอย่างนี้อีก โดยขณะนี้จะเห็นได้ว่า จ.บึงกาฬมีแนวโน้มผู้ติดเชื้อต่อวันเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่จังหวัดอื่นๆ กำลังลดลง จึงคิดว่า ต้องยกระดับการ์ดของเราให้สูงขึ้นกว่านี้

สำหรับสถานการณ์การฉีดวัคซีนของจ.บึงกาฬ ณ ปัจจุบัน ความครอบคลุมประชาชนคนบึงกาฬได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 208,622 คน คิดเป็นความครอบคลุม 57.13 % คำนวณตามฐานประชากรตามสิทธิการรักษา โดยสัปดาห์นี้จ.บึงกาฬ จะรณรงค์ฉีดวัคซีนเข็ม 1 ให้ประชาชนทั่วไปทั้งหมด 20,000 โดส ถึง 12 ธันวาคม เพื่อให้ทะลุเป้า 60 % ของฐานประชากรตามสิทธิการรักษา และที่สำคัญในวันศุกร์ที่ 10 ธันวาคมนี้ ทางจ.บึงกาฬก็จะมีทำกิจกรรมรณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีนทุกอำเภอพร้อมกัน 1 วัน 1 หมื่นโดส จะเป็นเข็มใดก็ได้ โดยมีนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬเป็นประธาน ซึ่งจะเปิดงานอยู่ที่ ร.ร.หนองเข็ง ที่ต.โนนสว่าง อ.เมืองบึงกาฬ เวลาประมาณ 09.00 น. ซึ่งก็จะได้รับการสนับสนุนของรางวัล/ของชำร่วยในการแจกและลุ้นรางวัลให้กับพี่น้องประชาชนที่เดินทางมาฉีดวัคซีนจากนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนไปรับบริการได้ที่จุดบริการวัคซีน ร.ร.หนองเข็ง ต.โนนสว่าง และจะมีการจัดกิจกรรมทุกอำเภอ

โดยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ ยังได้กล่าวถึงเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนด้วยว่า เท่าที่ทางกระทรวงสาธารณสุขแถลง เรายังพบเพียง 1 ราย และลักษณะของเชื้อตัวนี้ แพร่ระบาดง่ายติดเชื้อง่ายก็จริง แต่อาการจะไม่ค่อยหนัก เมื่อเทียบกับเชื้อแอลฟา หรือเดลตา ในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การป้องกันยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ เช่นเดิม ได้แก่ การสวมใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือ และฉีดวัคซีน ก็จะสามารถป้องกันการติดเชื้อในสายพันธุ์โอมิครอนได้เช่นกัน

 

‘>

ข่าวเด่นบึงกาฬ ล่าสุด

อัพเดทล่าสุด