บึงกาฬ ลุ้นกู้เรือกำปั่นไอน้ำโบรานใกล้สำเร็จส่วนท้ายโผล่ 3 เมตร
จากกรณีพบเรือกำปั่นบรรทุกสินค้าจำพวกไวน์จากจังหวัดนครพนมเพื่อลำเลียงทวนน้ำขึ้นไปขายยังนครเวียงจันทน์สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว แต่ระหว่างทางเกิดเรือรั่วแล้วจมลงสู่ก้นแม่น้ำโขงที่บ้านท่าไคร้ หมู่ที่ 5 ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ทำให้ชาวฝรั่งสองสามีภรรยายอมตายพร้อมกันเป็นผีเฝ้าสมบัติอยู่ในเรือ ขณะที่คนอื่นๆ ทั้งกัปตันและลูกเรือต่างสละเรือลอยคอเข้าฝั่งอย่างปลอดภัย เหตุเกิดในเวลากลางคืนเดือนสิงหาคม พ.ศ.2490 ในราวเดือนเมษายน พ.ศ.2491 ได้มีความพยายามกู้เรือกำปันลำนี้ในครั้งที่ 1 และอีก 2 ปีถัดมาคือในปี พ.ศ.2493 ก็มีความพยายามกู้เรือกำปั่นลำนี้อีกเป็นครั้งที่ 2 โดยรองอำมาตย์ตรี ขุนอินทนิลารักษ์ ( เปลี่ยน นิละสมิต )เป็นผู้รับจ้างกู้ใช้สลิงลวดเหล็กขนาด 6 หุน วินซ์มัดติดกับต้นไม้ขนาดใหญ่แต่เรือมาติดตลิ่งทำให้สลิงขาดติดคาอยู่ที่เพลาเรือ ทำให้การกู้เรือทั้ง 2 ครั้งล้มเหลวไม่สำเร็จ
ต่อมานายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ.บึงกาฬ ร่วมกับประชาชนบ้านท่าไคร้ หมู่ที่ 5 ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ มีความประสงค์ที่จะกู้เรือกำปั่นโบราณลำนี้ขึ้นมาเก็บไว้เป็นสมบัติของชาวบึงกาฬให้ประชาชนได้ศึกษา จึงมีความพยายามกู้เรือลำนี้ขึ้นมาอีกเป็นครั้งที่ 3 โดยได้รับการสนับสนุนจากสถานีเรือ นรข.เขตหนองคาย สำนักงานโยธาและผังเมืองบึงกาฬ และ อบจ.บึงกาฬ โดยได้ว่าจ้าง บริษัทอู่เล้งเซอร์วิส เป็นจำนวนเงิน 700,000 บาท ซึ่งเป็นเงินของวัดโพธาราม หรือวัดหลวงพ่อพระใหญ่บ้านท่าไคร้ที่ประชาชนมาร่วมทำบุญและช่วยกันบริจาค ตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 19 เม.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานจากริมโขง บ้านท่าไคร้ ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ว่าความพยายามกู้เรือกำปั่นโบราณที่ทำด้วยเหล็กลำนี้ใกล้พบกับความสำเร็จแล้ว เมื่อทีมรับจ้างกู้เรือจากจังหวัดอ่างทอง ได้นำถังเหล็กขนาด 200 ลิตรบรรจุน้ำเต็มถังเข้าไปหนุนใต้ท้องเรือแล้วอัดลมเข้าไปไล่น้ำออก ถัง 200 ลิตรก็จะกลายเป็นทุ่นลอยน้ำขึ้นมาทันที โดยใช้ถังจำนวน 200 ใบค่อยพยุงท้ายเรือขึ้นจากน้ำโขง พร้อมกับใช้เครื่องสูบน้ำสูบทรายออกจากท้องเรือให้เหลือน้อยที่สุด ทำให้เรือกำปั่นที่จมน้ำโขงอยู่เกือบ 70 ปีก็ค่อยๆ โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำได้กว่า 3 เมตร สร้างความตื่นเต้นพร้อมกับเสียงเฮปรบมือแสดงความดีใจจากประชาชนกว่า 1000 คนที่ไปแออัดยืนลุ้นตากแดดรอชมเรือและให้กำลังใจทีมกู้อยู่ริมฝั่งโขง ขณะที่รถแบ็กโฮ 2 คันและรถเครน 1 คันพยายามดึงเรือให้ขึ้นมาอีก แต่สลิงเหล็กก็ขาดเสียก่อน หลังจากนั้นก็มีความพยายามต่อสลิงและดึงเรืออีกหลายครั้งก็ยังไม่สำเร็จ แต่ก็ยังไม่ละความพยายาม
ด้านนายวีระ แก้วเทพ ผู้ใหญ่บ้านท่าไคร้ หมู่ 5 ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ กล่าวว่าถึงแม้วันนี้จะกู้เรือกำปั่นขึ้นมาทั้งลำยังไม่ได้ แต่พรุ่งนี้ทีมกู้เรือจะต้องกู้ขึ้นมาได้อย่างแน่นอน เนื่องจากเตรียมแผนงานรองรับไว้แล้ว ส่วนทรัพย์สินที่พบในเรือก็มีถังโลหะบรรจุน้ำมันขนาด 10 ลิตร 3 ถังอยู่ในสภาพดี กระดูกกะโหลกศีรษะและเชิงกราน มนุษย์ ดูแล้วใหญ่มากน่าจะเป็นกระดูกของฝรั่งสองสามีภรรยาที่ปิดประตูห้องโดยสารยอมตายเฝ้าสมบัติในเรือ
ขอขอบคุณสำนักข่าวประชาสัมพันธ์จังหวัดบึงกาฬ
ชมภาพคลิกที่รูปได้เลย ขอขอบคุณรูปจาก นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี และแปดแสน
นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี///บึงกาฬ 0933199399
บรรยายภาพ///เรือกำปั่นที่สร้างด้วยเหล็กจมน้ำโขงมานานกว่า 69 ปีถูกกู้ขึ้นมาจากน้ำโขงบ้านท่าไคร้ อ.เมือง จ.บึงกาฬ ดึงโผล่จากน้ำได้แค่ 3 เมตรสลิงเหล็กก็ขาด เบื้องต้นพบเพียงถังน้ำมันและกระดูกมนุษย์ เชื่อว่าเป็นฝรั่งที่ยอมตายในเรือกำปั่น‘>