อุทยานฯตั้งกก.สอบ นักท่องเที่ยวล้นถ้ำนาคา ถอดไกด์ ย้ายด่วน จนท.เอี่ยวรับเงิน

กรมอุทยาน ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง นักท่องเที่ยวทะลักถ้ำนาคา เผยผลตรวจสอบมีไกด์เรียกรับเงินนทท. 300-1,500 บาท พบจนท.อุทยนฯ มีส่วนเอี่ยวด้วย สั่งการด่วน ถอดไกด์นำเที่ยว ย้ายจนท.อุทยานฯ พร้อมตั้งกรรมการ หากจนท.ผิด จะลงโทษตามระเบียบทันที วอนนทท.จองเที่ยวอุทยานฯ ผ่าน QuaQ
เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ นายดำรัส โพธิ์ประสิทธิ์ ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวถึงกรณีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปชมถ้ำนาคา ภายในอุทยานแห่งชาติภูลังกา อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งได้ตกค้างอยู่บนเขาจำนวนมากนั้น ว่า ภายหลังที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้สั่งการให้ทางผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์(สบอ.) ที่ 10 (อุดรธานี) ซึ่งรับผิดชอบในเขตอุทยานฯภูลังกา รายงานข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร โดยทางผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ สบอ.ที่ 10 ได้รายงานเข้ามาเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พบว่า มีการดำเนินการไม่ถูกต้องในหลายประเด็น มีไกด์นำเที่ยว อาสาท้องถิ่นบางส่วน มีการเรียกรับเงินกับนักท่องเที่ยวรายละ 300-1,500 บาท โดยมีการเปิดจองผ่านเพจเฟซบุ๊กของไกด์เหล่านี้ ไม่ได้จองผ่านระบบ QuaQ ของกรมอุทยานฯ ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเกิน 500 คน นอกจากนี้พบว่า ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวบางส่วนมีความเชื่อในเรื่องของเสาร์ 5 จึงแห่ขึ้นไปกราบไหว้บริเวณถ้ำนาคามากเกินปกติ

นายดำรัส กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงยังพบว่าเจ้าหน้าที่อุทยานฯ มีส่วนเกี่ยวข้องในการปล่อยนักท่องเที่ยวที่จองผ่านไกด์ขึ้นไปยังถ้ำนาคาด้วย ในเบื้องต้นทางกรมอุทยานฯ ได้สั่งถอดไกด์นำเที่ยวแล้ว รวมทั้งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการดูแลการจำกัดนักท่องเที่ยวบริเวณหน้าด่านทั้งหมดแล้ว และให้เจ้าหน้าที่ชุดใหม่เข้ามาดูแลแทน อีกทั้งยังพบว่า มีการปล่อยให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปถ้ำนาคาเกินเวลา 14.00 น. ซึ่งการเดินขึ้น-ลงถ้ำนาคา ใช้เวลาประมาณ 5 ชม. จึงไม่ควรปล่อยให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเกินเวลาดังกล่าว ทั้งนี้ทางสบอ.ที่ 10 มีการแต่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว หากเจ้าหน้าที่คนไหนกระทำผิดก็จะต้องมีการลงโทษตามระเบียบของกรมอุทยานฯ

นายดำรัส กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (8 ก.พ.) ทางสบอ.ที่ 10 จะมีการร่วมประชุมกับทางจังหวัด ส่วนปกครองส่วนท้องถิ่น และบุคคลที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมเพื่อหามาตรการไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก อย่างไรก็ตามกรมอุทยานฯ ขอเน้นย้ำในการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ ว่าแต่ละพื้นที่มีการศึกษาวิจัยในการรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวในปริมาณที่ไม่ให้กระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ หากปล่อยนักท่องเที่ยวเกินจำนวนที่เราระบุไว้ ขณะเดียวกันทางจังหวัด องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ไกด์อาสาท้องถิ่น ก็ต้องเข้าใจในจุดนี้เช่นเดียวกัน แม้จะอยากกระตุ้นเศรษฐกิจให้เงินหมุนเวียน แต่ปัจจัยสำคัญกว่านั้นคือการดูแลทรัพยากรธรรมชาติของเราไว้ ไม่ให้เสื่อมโทรม วันหนึ่งหากเกิดความเสียหายมันจะยากเกินกว่าจะเยียวยาได้ สุดท้ายก็ต้องมีการปิดอุทยานฯ เพื่อให้ธรรมชาติฟื้นฟู อย่างที่ถ้ำนาคา เราจำกัดนักท่องเที่ยวไม่เกินวันละ 500 คน เนื่องจากทางเดินขึ้น-ลง ในบางจุดไม่สามารถเดินสวนทางกันได้ และไม่สามารถขยายเส้นทาง เพราะจะไปกระทบต่อธรณีวิทยา ขอย้ำว่ากรมอุทยานฯ เราไม่เน้นจำนวนนักท่องเที่ยว แต่ต้องการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก อย่างไรก็ตามขอให้นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ จองผ่าน QuaQ ของกรมอุทยานฯ เพื่อที่จะสามารถจำกัดนักท่องเที่ยวได้ ไม่ให้เกิดความแออัดในพื้นที่ด้วย’>