บึงกาฬ แม่หวั่นเรื่องเงียบ ลูกถูก ส.ต.ต.กระทืบจนต้องหามส่ง รพ. ยันเอาเรื่องถึงที่สุด

แม่หวั่นเรื่องเงียบ ลูกถูก ส.ต.ต.กระทืบจนต้องหามส่ง รพ. ยันเอาเรื่องถึงที่สุด

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 22 กุมภาพันธ์ จากกรณีกลุ่มวัยรุ่นชายออกจากร้านอาหารแห่งหนึ่ง ที่อยู่ในพื้นที่อำเภอโซ่พิสัย จ.บึงกาฬ มาพูดคุยก่อนจะมีเรื่องการชกต่อยทำร้ายคู่กรณี ที่บริเวณข้างร้าน ซึ่ง 1 ในผู้ก่อเหตุเป็นถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โซ่พิสัย โดยมีเพื่อนๆ ที่ไปด้วยกันกว่า 5-7 คน ยืนดูโดยไม่มีการห้ามปรามแต่อย่างใด จนทำให้นายนนธวัช พรหมสนธิ หรือโจอี้ อายุ 26 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกหามส่งโรงพยาบาลโซ่พิสัย และถูกส่งตัวไปสแกนอาการบาดเจ็บสมองที่โรงพยาบาลบึงกาฬ และถูกนำกลับมารักษาตัวที่โรงพยาบาลโซ่พิสัยตามเดิม

โดยพี่ชายของผู้เสียหาย และแม่ของนายนนธวัช ได้นำเรื่องราวดังกล่าวโพสต์ลงโซเชียลเฟซบุ๊กว่า เป็นถึงตำรวจไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ เตะต่อยน้องผม แบบไม่มีทางสู้ เตะหัวไม่ยั้ง คิดจะเอาให้ตายเลยใช่ไหม ความเป็นคนมีอยู่หรือป่าว คนแบบนี้หรือคือตำรวจ ผมจะไม่ยอมตำรวจเลวแบบคุณแน่ คนยืนดูก็ตำรวจ ไม่มีห้ามปราม ที่อบรมตำรวจ ไม่ซึมซับเลยหรือไง

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถามเรื่องราวกับนางกาญจนา พรหมสนธิ แม่ของนายนนธวัช ว่าเรื่องราวได้เกิดขึ้นเมื่อคืน 21 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 23.49 น. ว่าลูกชายไปเที่ยวร้านอาหารและถูกตำรวจทำร้ายได้รับบาดเจ็บ จนต้องหามส่งโรงพยาบาล ตอนเช้า เวลา 08.00 น. ไปรอแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ จนเวลา 11 โมงเช้า ถึงได้แจ้งความดำเนินคดีกับ สิบตำรวจตรี นายหนึ่งที่เป็นตำรวจอยู่ สภ.โซ่พิสัย ที่รับแจ้งความ ว่าเป็นคนทำร้ายลูกชายจนต้องเข้าโรงพยาบาล ฐานทำร้ายร่างกาย ตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด

พร้อมกับเปิดคลิปที่ได้จากร้านอาหาร ให้ผู้สื่อข่าวดู ว่าเป็นการกระทำที่เกินไป ทำร้ายคนไม่มีทางสู้ ไม่สมกับเป็นตำรวจที่ร่ำเรียนมา ไม่รู้จักห้ามจิตใจตัวเอง ถ้าลูกตนผิดทำไมไม่พามาโรงพัก แต่กลับไปทำร้ายแบบนั้น ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าลูกชายของตนเมา สู้อะไรไม่ได้ คนเมาตีให้ตายก็ตาย ดูในคลิปแล้วเสียใจมาก หากถูกจุดสำคัญตายไปก็เอาคืนไม่ได้ ตั้งแต่เกิดเรื่องมาคู่กรณีก็ไม่ติดต่อมา ก็คงจะต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

นายชานุวัฒน์ พลทองมาก หรือนุ เพื่อนโจอี้ที่ไปนั่งดื่มด้วยกัน เล่าว่า ไม่รู้ว่าเขามีเรื่องกันตอนไหน แต่เห็นออกไปคุยกัน ว่ามองหน้ากันซึ่งตนก็ไม่รู้ว่ามีเรื่องกัน พอออกไปตำรวจคู่กรณี ขอดวลตัวต่อตัว 1/1 ถ้าไม่ยอมจะรุม โจอี้เลยยอมดวลตัวต่อตัว ซึ่งโจอี้ก็เมา ส่วนคู่กรณีไม่ค่อยเมา หลังจากนั้นก็เป็นเหตุการณ์ ซึ่งก็ได้เข้าไปห้ามอยู่แต่เขาก็ไม่ฟัง หลังโจอี้ล้มลงยังตามไปเตะเข้าที่ใบหน้า ศีรษะอีกหลายครั้ง ซึ่งล้มไปแล้วก็ไม่น่ามาซ้ำอีก

ด้าน พ.ต.อ.ไพรวัลย์ ท้าวพรม ผกก.สภ.โซ่พิสัย ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นได้สั่งให้ สิบตำรวจตรีนายดังกล่าวเขียนรายงานชี้แจงแล้ว และให้พนักงานสอบสวนนำพยานที่อยู่ในเหตุการณ์มาสอบปากคำ ซึ่งอยู่ระหว่างเรียกพยานมาสอบสวน ทั้งฝั่งคู่กรณี ผู้เสียหาย และการ์ดที่อยู่ในร้านอาหาร ส่วนคนเจ็บก็ต้องรอผลวินิจฉัยจากแพทย์ ของโรงพยาบาลอีกครั้ง และรอผู้เสียหายออกจากโรงพยาบาลมาให้ปากคำอีกรอบ ซึ่งหากกระบวนการเสร็จสิ้นแล้ว ก็จะได้เรียกทั้ง 2 ฝ่ายมาพูดคุยกัน ให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย หากผิดก็ว่าไปตามผิด ในส่วนของเจ้าหน้าที่หากผิดก็ดำเนินการตามระเบียบ เริ่มตั้งแต่ตั้งกรรมการสอบวินัย สั่งลงโทษตามความผิด