ทหารพรานยึดรถกระบะ 4 ประตู ขณะลำเลียงลงแพข้ามน้ำโขงส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน

แก๊งลักลอบส่งขายรถยนต์ให้ประเทศเพื่อนบ้าน ขับรถกระบะที่โจรกรรมมาได้ ลงเรือที่ทำเป็นแพหวังข้ามแม่น้ำโขงส่งขายตามใบสั่งแก๊งค้ารถเถื่อนในประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่ทหารพรานดักซุ่มเข้าจับกุม ปล่อยโตโยต้าสี่ประตูรถคันสุดท้ายลงน้ำโขง ก่อนจะแล่นเรือแพบรรทุกรถข้ามโขงไปได้ 2 คัน

เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 7 มิ.ย.65 พ.อ.อุทัย นิลเนตร ผู้บังคับการกรม หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21 ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบนำรถยนต์ส่งไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน ในพื้นที่ตำบลหนองเดิ่น อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ จึงสั่งการให้ ร.ท.วิทยากร ศักดิ์ดาเดช ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 2107 พร้อมกำลังพลทหารพรานที่ 2107 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรีออกลาดตระเวนตามริมแม่น้ำโขงในพื้นที่ที่ได้รับแจ้ง

กระทั่งเวลาประมาณ 04.00 น. เจ้าหน้าที่ใช้กล่องส่องกลางคืนพบเรือหางยาวบรรทุกรถยนต์ข้ามไปยังฝั่ง สปป.ลาว จำนวน 1 ลำ ท้องที่บ้านหนองเดิ่นท่า ต.หนองเดิ่น จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ศุลกากร ตำรวจ สภ.บุ่งคล้า หน่วยเรือ นรข.บึงกาฬ ตชด.244 และฝ่ายปกครองในอำเภอบุ่งคล้า เข้ากระชับพื้นที่เห็นกลุ่มชายฉกรรจ์  8-9 คน กำลังช่วยกันนำรถกระบะโตโยต้า 4 ประตู รุ่นรีโว่ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน ลงเรือหางยาว จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น แต่กลุ่มคนดังกล่าวได้กระโดดขึ้นเรือแล่นข้ามไปฝั่ง สปป.ลาว ทำให้รถยนต์คันดังกล่าวจมลงไปในแม่น้ำโขง โดยตรวจสอบบริเวณรอบๆ พบขวดน้ำดื่มยี่ห้อหนึ่งของ สปป.ลาวจำนวนมากกองอยู่บนพื้นดิน และร่องรอยการจุดธูป 16 ดอกปักไว้ใกล้จุดเกิดเหตุคล้ายขอขมาลาโทษเจ้าที่เจ้าทาง หลังจากนั้นคาดว่านำรถยนต์ 2 คันลงเรือแพแล่นข้ามไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน
ล่าสุดเจ้าหน้าที่กำลังใช้ความพยายามนำรถของกลางขึ้นมาจากแม่น้ำโขง โดยใช้รถไถนา 1 คันใช้เชือกมัดดึงถอยหลังหมายขึ้นฝั่ง แต่ด้วยความลาดชัน และรถที่จมน้ำมีน้ำขังในท้ายกระบะทำให้รถมีน้ำหนักมาก และฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นอุปสรรคจนไม่สามารถน้ำรถของกลางขึ้นมาได้ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังประสานขอความช่วยเหลือจากภาคเอกชน นำรถแบ็คโฮมาดึงขึ้นในวันพรุ่งนี้ และส่งมอบให้ศุลกากรตรวจยึด เพื่อตรวจสอบโดยละเอียด และแจ้งให้เจ้าของทราบเพื่อมารับรถคืนต่อไป