ที่มาข่าว อัมรินทีวี https://www.amarintv.com/news/detail/140532
จากกรณีความคืบหน้าที่มีรายงานจากตำรวจว่า 1 ใน 3 คนที่ไปกินเหล้าที่ร้านเจ๊แดงในคืนเกิดเหตุ ยอมรับสารภาพกับทางตำรวจแล้วว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารเจ๊แดง ซึ่งคนที่รับสารภาพในพฤติกรรมบางอย่าง เคยให้สัมภาษณ์กับทางอมรินทร์ ทีวี ว่าได้อยู่กับเจ๊แดงเป็นคนสุดท้าย เนื่องจากเป็นคนยืมรถเจ๊แดงไปแล้วนำรถกลับมาคืนในเวลา 22.20 น. นั้น
ล่าสุด วันที่ 8 ก.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่หมู่ 1 บ้านป่งไฮ ต.ป่งไฮ อ.เซกา จ.บึงกาฬ ตำรวจเปิดเผยผลการสอบสวนว่า แม้ว่าเบื้องต้นน้อยหน่าจะยอมรับว่าก่อเหตุ แต่คำให้การหลายจุดยังไม่ชัดเจน ทั้งพฤติกรรมการสังหารที่อ้างว่าปาดคอเจ๊แดงเพราะป้องกันตัวเอง เนื่องจากเจ๊แดงจะมาแย่งมีด แล้วยืนยันว่าก่อเหตุคนเดียว จนคำให้การของน้อยหน่าขัดแย้งกับผลการสืบสวนและเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ ที่ทางตำรวจสันนิษฐานเบื้องต้นว่าคนร้ายมีมากกว่า 1 คน ซึ่งคาดว่าคนสนิทมาหาเจ๊แดงที่บ้านพักช่วงกลางดึก
จากนั้นเปิดโอกาสให้คนร้ายเข้ามาจนเกิดการทำร้ายและต่อสู้กัน ในที่สุดเจ๊แดงถูกแทงและฆ่าปาดคอเสียชีวิต เบื้องต้นตำรวจระบุว่าจากการสืบสวนยังไม่เชื่อว่านางสาวน้อยหน่าคือคนร้ายตัวจริง หลังสืบสวนเสร็จได้ตรวจสอบร่างกายของนางสาวน้อยหน่าแล้ว ไม่พบร่องรอยการถูกขีดข่วนหรือต่อสู้ อีกทั้งผลตรวจรอยเท้าในที่เกิดเหตุก็ระบุเพียงว่าเป็นรองเท้าขนาดเล็กและอายุไม่มาก ไม่ชี้ชัดว่าเป็นรอยเท้าผู้หญิงหรือผู้ชาย
จากหลักฐานที่รวบรวมตอนนี้จึงยังไม่เชื่อมโยงกับที่นางสาวน้อยหน่ารับสารภาพ ตอนนี้ยังคงพุ่งปมสังหารสามประเด็น ฆ่าชิงทรัพย์, ฆ่าล้างหนี้ และชู้สาว โดยผู้ต้องสงสัย 25 คน รวมทั้งนายต่ายและดาบโจ้ ยังเป็นผู้ต้องสงสัยในคดี
ทีมข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของน้อยหน่า หลังจากมีรายงานว่าตำรวจปล่อยตัวออกมาตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากทางกฎหมายสามารถคุมตัวผู้ต้องสงสัย ได้แค่ 24 ชั่วโมง โดยบรรยากาศที่บ้านมีนางคำดี สืบสอน อายุ 68 ปี ยายของน้อยหน่า นั่งอยู่ที่หน้าบ้านเพื่อรอไปฉีดยาวิตามินเข้าร่างกาย เนื่องจากตั้งแต่หลานถูกตำรวจคุมตัวไปสอบปากคำ นางคำดีไม่ยอมกินอะไรเลย จนวันนี้ทีมข่าวต้องซื้อนมมาให้นางคำดี
นางคำดี สืบสอน เปิดเผยว่า วันนี้รู้สึกดีใจที่ตำรวจปล่อยตัวหลานกลับมาบ้านตั้งแต่เมื่อคืน ซึ่งถึงตอนนี้ตนเองขอยืนยันคำเดิมว่าหลานไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเจ๊แดง และถึงตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าทำไมหลานถึงไปรับสารภาพกับตำรวจ จนทำให้วุ่นวาย ซึ่งเมื่อคืนตั้งแต่หลานกลับมาที่บ้าน หลานไม่ยอมพูดอะไรออกมาเลยว่าตำรวจสอบปากคำอะไรไปบ้างและบอกแต่ว่าเหนื่อย อยากนอนพัก ไม่อยากเจอใคร หากเป็นไปได้ ก็อยากจะให้หลานย้ายไปอยู่ที่อื่นกับญาติ
ทีมข่าวย้อนภาพวงจรปิดจากไฟล์ภาพ ที่ทีมข่าวได้มาตั้งแต่วันแรก เพื่อดูว่าตั้งแต่เที่ยงคืนถึงตี 3 มีรถต้องสงสัยอะไรบ้างวิ่งผ่านหน้ากล้องวงจรปิดในคืนเกิดเหตุ โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 00.04 น. มีรถกระบะวิ่งผ่านหน้ากล้องไป 1 คัน
ทีมข่าวยังไปได้ภาพวงจรปิดจากโรงเรียนใกล้กับ สภ.ป่งไฮ ที่จะเห็นภาพสอดคล้องกับภาพ สำคัญคือภาพรถกระบะที่คล้ายกับรถกระบะของดาบโจ้ ขับผ่านหน้าโรงเรียนไปยัง สภ.ป่งไฮ วันเวลาในกล้องวงจรปิดตัวนี้ไม่ตรงกับเวลาปัจจุบัน เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางตำรวจได้มาเอาไฟล์วงจรปิดที่จุดนี้ไป แล้วมีการรีเซ็ตวันเวลาในกล้องวงจรปิด คือพยายามลบภาพออก
เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ สภ.ป่งไฮ ทางตำรวจได้เชิญลูกของเจ๊แดง ทั้ง 2 คน เข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม เรื่องประเด็นมีดทำครัวที่บ้านเจ๊แดง หายไปในวันเกิดเหตุหรือไม่ ซึ่ง น.ส.ธัญญรัตน์ และนายธนวัฒน์ พอบาน ลูกของเจ๊แดง ยอมรับว่าหลังจากตำรวจปล่อยตัวน้อยหน่า ทางครอบครัวตอนนี้มืดแปดด้าน ไม่รู้ว่าใครเป็นคนร้ายตัวจริงที่ฆ่าแม่
โดยวันนี้ที่ตำรวจเรียกมาสอบปากคำเรื่องมีด ก็บอกกับตำรวจไปแค่ว่ามีดที่เคยเห็นอยู่ครบ แต่ไม่รู้ว่าช่วงที่ตนเองไม่อยู่บ้าน แม่จะซื้อมีดมาเพิ่มอีกหรือไม่ แต่ยืนยันได้แค่ว่า ปกติแม่ไม่เคยพกมีดติดตัว ส่วนตัวยอมรับว่ายังสงสัยในตัวน้อยหน่าอยู่ ว่ามีส่วนรู้เห็นกับการตายของแม่ แต่ไม่เชื่อว่าน้อยหน่าเป็นคนลงมือฆ่า ซึ่งคนที่สงสัยที่สุดในตอนนี้ก็คือคนที่เดินผ่านกล้องตอนตี 2 กับคนสนิทของแม่
อย่างไรก็ตามหาก คนที่ฆ่าแม่เป็นคนสนิทกับแม่หรือเป็นคนในหมู่บ้าน ก็ขอให้ออกมามอบตัวกับตำรวจ ทางครอบครัวพร้อมที่จะคุยและให้อภัยเสมอ หากบอกเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมถึงฆ่าแม่ ยืนยันหากวันนี้ทางตำรวจยังจับคนร้ายไม่ได้ ทางครอบครัวคงจะต้องเผาศพแม่ ตามกำหนดในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากต่างคนต่างต้องทำมาหากิน และคงปล่อยให้ทางตำรวจตามหาคนร้ายตัวจริงมาดำเนินคดีให้ได้
ขณะเดียวกันวันนี้ ทางชุดสืบสวนของตำรวจภูธรภาค 4 ได้มีการเข้าไปเก็บเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดใน สภ.ป่งไฮ หลังจากคำให้การของดาบโจ้ ท้าให้สื่อมวลชนไปดูกล้องในคืนเกิดเหตุ ซึ่งวันนี้จากการตรวจสอบของทีมข่าว กล้องวงจรปิดในโรงพักมีทั้งหมด 7 ตัว คือ 1.ด้านหน้าโรงพัก 2.ด้านหน้าทางเข้าห้องสอบสวน 3.ด้านหน้าห้องคุมขัง 4.ด้านในห้องสอบสวน 5.บันไดทางขึ้นลงบริเวณชั้นสองด้านซ้าย 6.บันไดทางขึ้นลงบริเวณชั้นสองด้านขวาติดกับห้องวิทยุที่ดาบโจ้ทำงาน และ 7.ด้านในห้องคุมขัง
โดยล่าสุดทีมข่าวไปได้กล้องวงจรปิด ในคืนเกิดเหตุที่จะเห็นภาพในขณะรถตำรวจกำลังออกไปในที่เกิดเหตุ หน้าจอวงจรปิดบันไดด้านซ้ายของโรงพัก หายไปเป็นจอดำในคืนวันเกิดเหตุช่วงเวลา 04.49 น. ซึ่งเปรียบเทียบกับหน้าจอกล้องวงจรปิดที่ทีมข่าวถ่ายเก็บเอาไว้ในช่วงเช้า ทุกจอบนโรงพักขึ้นแสดงภาพทุกจอ
นายดำ (นามสมมติ) อดีตสามีที่มีลูกด้วยกันกับเจ๊แดง บอกว่า ตนเองมาร่วมงานศพของอดีตภรรยา ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค. ซึ่งที่จริงแล้ว ตนเองได้เลิกรากับอดีตภรรยาไปประมาณ 4 ปี และไม่เคยติดต่อกับอดีตภรรยา สำหรับคำให้การของเพื่อนบ้านที่บอกว่าตนเองเคยเตือน อดีตภรรยาให้ตีตัวออกห่างจากคนมีสีในพื้นที่ ขอยืนยันว่าตนเองไม่เคยพูด แล้วก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าอดีตภรรยาจะไปมีความสัมพันธ์กับคนมีสี ถามว่าตนเองรู้จักกับคนมีสีที่มาพัวพันกับอดีตภรรยาหรือไม่ เรื่องนี้ขอไม่ตอบ เพราะส่วนตัวไม่ค่อยได้อยู่ในพื้นที่
ซึ่งที่ผ่านมาทางครอบครัวรวมถึงลูก ก็ไม่เคยบอกว่าอดีตภรรยามีความสัมพันธ์หรือสนิทสนมกับใครในพื้นที่ และขอยืนยันว่าส่วนตัวไม่เคยรู้จักกับน้อยหน่ามาก่อน แต่เชื่อว่าคนร้ายที่ลงมือฆ่าอดีตภรรยามีมากกว่า 1 คน ยอมรับว่าตั้งแต่อดีตภรรยาเสียชีวิต อดีตภรรยา ไม่เคยมาเข้าฝันคนในครอบครัว จนทำให้ทางครอบครัว คาดว่าอดีตภรรยาจะถูกคนร้ายทำพิธีปิดปาก ซึ่งวันพรุ่งนี้ก่อนจะนำศพเข้าเตาเผา ทางญาติได้มีการปรึกษากันว่าจะนำใบบอนมาถูปากอดีตภรรยาก่อนจะนำศพเข้าไปเผา ยืนยันหากตำรวจยังจับคนร้ายไม่ได้ หลังเสร็จเรื่องงานศพของอดีตภรรยา ตนเองจะพาลูกกับหลานออกไปอยู่นอกพื้นที่ เนื่องจากกลัวว่าคนร้ายจะย้อนกลับมาเอาชีวิตลูกกับหลาน
ขณะเดียวกัน ครอบครัวพึ่งไสยศาสตร์ นางการละคร บุญปากดี เดินทางไปหาหมอดูจิตสัมผัสของหมู่บ้านที่เจ๊แดงนับถือ แต่หมอดูคนดังกล่าวไม่ยอมดูดวงให้และให้เหตุผลเพียงว่าหากดูไปแล้วคนร้ายเป็นคนในพื้นที่ หมอดูจะอยู่ในพื้นที่ลำบาก โดยหมอดูคนดังกล่าว บอกกับทีมข่าวว่า จริงแล้วก็อยากจะช่วยแม่เจ๊แดง แต่ติดปัญหาที่เป็นคนในพื้นที่ยอมรับว่าก่อนที่เจ๊แดงจะเสียชีวิต เวลาเจ๊แดงมีปัญหาเรื่องอะไร ก็มักจะมาให้ตนเองดูดวงอยู่เป็นประจำ ซึ่งเมื่อคืนนี้ตนเองสัมผัสได้ว่าเจ๊แดงมาหาที่บ้าน เนื่องจากได้กลิ่นธูปแต่ไม่กล้าบอกคนที่บ้าน
ก่อนที่จะเปิดไพ่ หมอนุ้ยได้ให้แม่เจ๊แดง สับไพ่ 9 ครั้ง พร้อมกับเลือกไพ่ ตามคำถามที่แม่เจ๊แดงอยากจะรู้ ครั้งละ 6 ใบ โดยคำถามแรก ที่แม่เจ๊แดงจับไพ่ถามหมอนุ้ย ก็คือเรื่องของน้อยหน่า ซึ่งไพ่ที่หมอนุ้ยเปิดได้เป็นภาพไพ่ที่บอกว่าตำรวจจับคนร้ายได้แล้ว แต่คนร้ายกลับคำให้การกับตำรวจ
จากนั้นก็เริ่มคำถามที่ 2 คือแม่เจ๊แดงจับไพ่ถามหมอนุ้ยว่าใครเป็นคนร้ายตัวจริง ซึ่งหมอนุ้ยก็ได้เปิดไพ่ เป็นเลข 9 และแหม่มโพธิ์ดำ ขึ้นมาแล้วก็บอกกับเจ๊แดงว่า คนร้ายที่แท้จริงเป็นผู้ชาย ส่วนผู้หญิงที่กลับคำ มีส่วนรู้เห็นในการฆ่าเจ๊แดง เนื่องจากวันเกิดเหตุมีคนอยู่ในร้าน 3 คนรวมเจ๊แดง ที่เปิดมาจากไพ่คิงโพแดงกับโจ๊กเกอร์ ซึ่งไพ่ลักษณะนี้ บอกว่าผู้ชายเป็นคนฆ่าและผู้ชายคนดังกล่าวมีอายุประมาณ 50 กว่าปี
คำถามที่ 3 คือตำรวจจะจับคนร้ายได้หรือไม่ ซึ่งการเปิดไพ่ในครั้งนี้ หมอนุ้ยยืนยันกับแม่เจ๊แดงว่าจับคนร้ายได้แน่นอน เพราะคนร้ายเป็นคนใกล้ตัว ซึ่งคนร้ายคนนี้มีใจให้กับเจ๊แดง แต่ก่อนเกิดเหตุคนร้ายผิดใจกับเจ๊แดง เรื่องเงินก้อนใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้อง และความรักของเจ๊แดง เป็นความรักซ้อน ตอนนี้ตำรวจรู้ตัวคนร้ายแล้ว จากนั้นแม่ของเจ๊แดง ก็ได้ถามคำถามที่ 4 คือ คนร้ายคือใคร ซึ่งแม่ของเจ๊แดงได้ทราบแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผย
นางนุจรินทร์ นาชัย หรือ หมอนุ้ย อายุ 39 ปี เปิดเผยว่า สำหรับการเปิดไพ่วันนี้ ของแม่เจ๊แดงเท่าที่ดูการตายของเจ๊แดงเป็นเรื่องชู้สาว กับเรื่องเงิน ซึ่งคนที่รับสารภาพเมื่อวานนี้ไม่ใช่คนฆ่า แต่เป็นคนเหตุการณ์ทั้งหมด และคนฆ่าเป็นผู้ชาย ซึ่งไพ่ยังบอกอีกว่าคนที่ลงมือฆ่าเจ๊แดงมีแค่คนเดียว และการฆ่าเจ๊แดงเป็นการลงมือด้วยการปาดคอไม่ใช่การฟันคอ และปมเหตุในการฆ่าเป็นเรื่องเงินก้อนใหญ่ที่เจ๊แดงทะเลาะกับคนร้าย ซึ่งคนร้ายคนนี้มีความสัมพันธ์กับเจ๊แดงแบบเปิดเผยไม่ได้
โดยคนร้ายรายนี้เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อ แต่พูดไม่เยอะ ซึ่งจากไพ่คาดว่าตำรวจจะจับคนร้ายได้ไม่เกินวันที่ 10 ก.ค. 65 หรืออย่างช้าคือวันที่ 11-12 ก.ค. 65 ส่วนมีดคนร้ายนำไปทิ้งในน้ำ ส่วนของมีค่าของเจ๊แดงอยู่กับตัวคนร้ายและญาติจะได้ของทั้งหมดคืนในวันที่ตำรวจจับคนร้ายได้ คนร้ายยังอยู่ในพื้นที่ ตอนนี้ตำรวจจับตาดูคนร้ายอยู่ตลอดเวลา
นางการละคร บุญปากดี แม่ของเจ๊แดง บอกว่า วันนี้ที่ต้องมาดูดวงกับหมอนุ้ยเนื่องจากมืดแปดด้าน ไม่รู้จะเพิ่งใคร ไปดูหมอคนในหมู่บ้านก็ไม่ยอมดูให้ หลังจากดูดวงก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้าง เพราะอยากจะรู้ว่าใครเป็นคนฆ่าลูก ที่ต้องถามเรื่องน้อยหน่า บ่อย ๆ เพราะว่าอยากจะรู้ว่าทำไมน้อยหน่าถึงกลับคำกับตำรวจ ซึ่งวันนี้จะนำกระดาษดูดวงที่หมอนุ้ยเขียนให้ไปลอยน้ำ ตามความเชื่อให้ลูกสาวเปิดปากบอกว่าคนร้ายเป็นใคร เชื่อว่าตำรวจจะจับคนร้ายได้ตามวันเวลาที่หมอนุ้ยบอก ยืนยันหากวันนี้ตำรวจยังจับคนร้ายไม่ได้ ก็จะเผาศพลูกในวันพรุ่งนี้ตามกำหนดที่ครอบครัวคุยกันไว้
ต่อมาตำรวจเรียกสอบนายวีระ อายุ 62 ปี เพื่อนบ้านซึ่งเป็นพยานในคดี เป็นคนโทรแจ้งตำรวจให้มาที่เกิดเหตุ หลังพ่อเจ๊แดงพบศพผู้ตายแล้วตะโกนเรียกขอความช่วยเหลือ ในวันเกิดเหตุนายวีระยืนยันพบเจ๊แดงมีอาการเมาในงานบุญของหมู่บ้านก่อนที่เจ๊แดงจะแยกย้ายและขอตัวกลับบ้านไป ส่วนตัวให้การกับตำรวจว่าสงสัยคนสนิทของเจ๊แดง เพราะทราบว่าก่อนเกิดเหตุมีปัญหาเรื่องชู้สาว โดยตัวเขาคนนั้นถูกภรรยาจ้างหย่าจำนวน 500,000 บาท ขณะนั้นได้มาพัวพันความสัมพันธ์กับเจ๊แดงสักพักแล้ว
ซึ่งจากพฤติกรรมดังกล่าวทำให้สามีเจ๊แดงเตือนให้ตีตัวออกห่าง ซึ่งชาวบ้านในหมู่บ้านก็ไม่อยากยุ่งเรื่องนี้ และหวาดกลัวพฤติกรรมของคน ๆ นั้น แต่ตัวเองไม่กลัวและพร้อมที่จะให้ข้อมูลกับตำรวจและสื่อทุกเรื่อง