แปลก! กล้องโรงพักดับวันเจ๊แดงถูกรุมฆ่า จุดมืดทำคดีพลิก ห่วงซ้ำรอยคดีศพแขวนคอ

จากกรณีความคืบหน้าที่มีรายงานจากตำรวจว่า 1 ใน 3 คนที่ไปกินเหล้าที่ร้านเจ๊แดงในคืนเกิดเหตุ ยอมรับสารภาพกับทางตำรวจแล้วว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารเจ๊แดง เบื้องหลังกลับลำปฏิเสธ ต่อมาตำรวจปล่อยตัวสาวทอมคนสนิท เบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกขีดข่วนหรือต่อสู้ พุ่งปมสังหารสามประเด็น ฆ่าชิงทรัพย์ ฆ่าล้างหนี้ และชู้สาว โดยผู้ต้องสงสัย 27 คน

ล่าสุด วันที่ 9 ก.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่หมู่ 1 บ้านป่งไฮ ต.ป่งไฮ อ.เซกา จ.บึงกาฬ บรรยากาศเตรียมงานฌาปนกิจเจ๊แดง มีญาติและคนในหมู่บ้านมาร่วมงานพิธีกันในช่วงเช้าจำนวนมาก และยังไม่เห็นเงาของน้อยหน่า และตัวของน้อยหน่าที่จะออกมาร่วมงานพิธีเหมือนวันก่อนหน้านี้

พระสงฆ์จำนวน 6 รูป ถือสายสิญจน์นำขบวนและมีลูกสาวและลูกชายเจ๊แดงถือรูปเจ๊แดงนำขบวนศพ มีสีหน้าเศร้าและมีน้ำตาคลอ ระหว่างทางที่จะนำร่างของแม่ไปเผาศพ ส่วนตัวพ่อของเจ๊แดงก็อยู่ในอาการโศกเศร้าเช่นเดียวกัน จากนั้นมีคนเถ้าคนแก่ในหมู่บ้านโยนข้าวตอกแตกโปรยตามทาง เป็นความเชื่อของคนอีสานว่าเป็นการนำทางดวงวิญญาณของเจ๊แดงให้ไปร่วมพิธีเผาศพตามศาสนา เพื่อวิญญาณจะได้สู่สุคติ

นอกจากนี้ มีนายเปี้ยก อดีตสามีเจ๊แดง และเลิกรากันมา 4 ปีแล้ว รวมถึงน้องชายเจ๊แดงที่ออกมาจากค่ายบำบัดยาเสพติดที่มาข่วยงานเผาศพ ร่วมเดินในขบวนเคลื่อนร่างส่งเจ๊แดงเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งเมื่อศพของเจ๊แดงถึงที่วัด ก็มีการวนรอบเมรุ 3 รอบ ก่อนจะนำโลงศพของเจ๊แดง กระแทกที่บันไดเมรุ 3 ครั้ง ตามความเชื่อนำศพขึ้นสู่เตาเผา

ซึ่งระหว่างพิธีทางครอบครัวได้มีการถ่ายภาพกันที่ด้านหน้าเมรุ พร้อมทั้งพนักงานเทศบาลที่มีน้องกาแฟและน้องสาว มาร่วมถ่ายภาพไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย แต่ไม่เห็นแม้แต่เงาของดาบโจ้และน้อยหน่ามาร่วมพิธี มีเพียงยายของน้อยหน่ามาร่วมพิธีเท่านั้น โดยมี พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ ยี่สารพัฒน์ ผกก.สืบสวน 2บก.ภ.4 เป็นตัวแทน ตำรวจภูธรภาค 4 ในงานเผาศพของเจ๊แดง

นายปัญญา บุญปากดี หรือ เขียว อายุ 38 ปี น้องชายของเจ๊แดง ที่เพิ่งกลับมาช่วยงานศพพี่สาว บอกกับว่า ตอนแรกตนเองถูกจับข้อหาเสพยาเสพติด จากนั้นถูกส่งตัวไปบำบัดที่ ตชด. พอทราบว่าพี่สาวถูกฆ่าเสียชีวิต จึงขอเจ้าหน้าที่ออกมาช่วยงานศพ วันนี้เป็นวันเผาพี่สาวแล้ว ก็อยากทำหน้าที่น้องชายให้ดีที่สุด หลังเสร็จงานศพก็จะเดินทางกลับไปบำบัดยาเสพติดต่อในวันพรุ่งนี้

ส่วนตัวไม่ทราบเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพี่สาวกับดาบโจ้ เพิ่งมาทราบหลังพี่สาวเสียชีวิตแล้ว ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างเจ๊แดงและสาวคนสนิทก็ไม่ได้รู้ลึกมาก แต่ยังไม่เชื่อว่าน้อยหน่าจะลงมือก่อเหตุ เพราะน้อยหน่าเข้าออกบ้านพี่สาว และรู้จักกับคนในครอบครัว ไม่น่าใช่คนลงมือ แต่อาจรู้เห็นเหตุการณ์มากกว่า ส่วนของนายต่ายและนายเบ้าที่ก่อนหน้านี้ตำรวจคุมตัวสอบเข้ม เป็นลูกค้าของพี่สาวทั่วไป ไม่ได้สนิทสนม

มีรายงานจากตำรวจว่าน้อยหน่าไม่ได้อยู่ในพื้นที่แล้ว ทีมข่าวจึงได้มีโอกาสเดินไปถามกับคนสนิทของน้อยหน่า ที่ก่อนหน้านี้เคยโพสต์เฟซบุ๊กแท็กหากัน ปัจจุบันได้ลบแท็กออกแล้ว ว่าได้เจอน้อยหน่าบ้างหรือไม่ น้อยหน่าอยู่ที่ไหน คนสนิทของน้อยหน่าบอกเพียงว่าไม่รู้ไม่เห็น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แล้วก็พยายามเดินหนี ไม่ขอตอบ

เมื่อ พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ ยี่สารพัฒน์ ผกก.สืบสวน 2บก.ภ.4 เห็นว่าหญิงคนดังกล่าวเป็นคนสนิทกับน้อยหน่า จึงได้เดินเข้าไปสอบถาม เพื่อเชิญตัวมาสอบปากคำ แต่คนสนิทของน้อยหน่าไม่ยอมคุยกับตำรวจ และเดินหนีเช่นเดียวกัน

ทีมข่าวย้อนกลับไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดในโรงพัก ที่ทางดาบโจ้อ้างว่าคืนวันเกิดเหตุอยู่ในห้องวิทยุ บนชั้น 2 ของโรงพักทั้งคืน จากการตรวจสอบบริเวณชั้น 2 ที่ดาบโจ้ทำงานอยู่ในห้องวิทยุ ไม่มีกล้องวงจรปิด และจะมีวงจรปิดแค่บริเวณบันได ทั้ง 2 ฝั่งเท่านั้น

โดยบันไดดังกล่าว เป็นบันไดที่เดินออกได้ทั้ง 2 ฝั่ง โดยไม่ต้องผ่านหน้าโรงพัก ซึ่งวันนี้ทีมข่าวได้ลองทดสอบหากเดินออกมาจากห้องวิทยุ แล้วเลี้ยวซ้ายลงบันไดด้านขวาของโรงพัก มีกล้องวงจรปิดอยู่ 2 ตัวที่อยู่ติดกัน ถ้าหากเดินลงมาบริเวณชั้นล่าง จะมีกล้องอีกหนึ่งตัวที่อยู่หน้าห้องสอบสวน ส่องมาเห็นหากมีคนเดินลงมาเข้าห้องน้ำหรือเดินออกข้างโรงพัก

จากนั้นทีมข่าวได้ทดสอบว่าถ้าหากออกจากห้องวิทยุ แล้วเดินเลี้ยวขวาลงไปยังบันไดทางด้านซ้ายของโรงพัก ก็จะผ่านห้องประชุมชั้น 2 ก็มีกล้องวงจรปิดอยู่ที่บันได 1 ตัว ซึ่งบันไดดังกล่าวนี้คืนเกิดเหตุพบว่าเป็นจอดำ

มีรายงานว่า ตำรวจได้ไปนำเยาวชน 2 คนที่อยู่บริเวณหลังบ้านเจ๊แดงมาสอบปากคำเพิ่มเติมหลังพบเบาะแส เยาวชน 2 คนนั่งดื่มน้ำกระท่อมอยู่บริเวณหลังบ้านเจ๊แดง ในคืนเกิดเหตุ ซึ่งวันนี้ทีมข่าวได้ย้อนกลับไปที่หลังบ้านของเจ๊แดงที่มีเบาะแส แต่ไม่เจอกับเยาวชนดังกล่าว

นายวัชระ โล่ห์คำ สารวัตรกำนัน เพื่อนบ้านของเจ๊แดง บอกว่า หลังเกิดเหตุทราบว่าตำรวจได้คุมตัวทั้งกลุ่มวัยรุ่นที่นั่งดื่มน้ำกระท่อมบริเวณบ้านพักที่อยู่ติดกับข้างหลังบ้านของเจ๊แดง ไปสอบปากคำแล้ว ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว เป็นหลานของตนเอง และยอมรับว่า คืนเกิดเหตุ หลานและเพื่อน ๆ นั่งจับกลุ่มกันจริง แต่นั่งอยู่ไม่ดึก และที่ผ่านมาหลานไม่เคยไปซื้อของที่ร้านเจ๊แดง เนื่องจากทางครอบครัวเปิดร้านขายของชำเช่นเดียวกัน ถามว่าก่อนหน้านี้เคยเห็นน้อยหน่าเดินผ่านหลังบ้านไปที่ร้านเจ๊แดงบ้างหรือไม่ ยืนยันว่าไม่เคยเห็น เพราะถ้าน้อยหน่าจะไปหาเจ๊แดง น้อยหน่าจะขับรถอ้อมไปที่หน้าร้านของเจ๊แดง

ส่วนตัวมองว่าเป็นคดีสะเทือนขวัญ เพราะเหตุการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้นในหมู่บ้าน เจ๊แดงเป็นคนมีน้ำใจกับคนในครอบครัว ไม่น่าจะเกิดเรื่องสลดนี้ขึ้น ทั้งนี้ สงสัยคนสนิทของเจ๊แดง แต่ไม่ขอพาดพิงหรือเอ่ยชื่อใคร และไม่เชื่อว่านางสาวน้อยหน่าเป็นคนลงมือฆ่าเพราะตัวน้อยหน่าไม่ได้มีจิตใจโหดร้ายหรือก้าวร้าว อยากให้ตำรวจตามจับคนร้ายคดีนี้ไว ๆ และอยากให้ตำรวจให้ข้อมูลทางสื่ออย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่มาสับขาหลอกกันแบบนี้ จนทำให้ชาวบ้านรับข้อมูลข่าวสารผิด ๆ ถูก ๆ ตอนนี้ชาวบ้านต่างหวาดระแวงว่าใครเป็นคนฆ่าและเกรงกลัวไม่ปลอดภัย ตนอยากให้เจ๊แดงได้รับความยุติธรรม

ซึ่งตามข้อมูล คนในหมู่บ้านเกรงว่าตำรวจจะจับแพะ เหมือนกับคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ สภ.ป่งไฮ ที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ร้องเรียนมาทางทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่าผู้เสียชีวิตเป็นชายชื่อ นายบุญธง บุญปากดี อายุ 49 ปี ถูกฆาตกรรมอำพราง สภาพศพถูกแขวนคอด้วยเชือกสีแดงกับราวสะพานข้ามคลองน้ำ เสื้อของผู้ตายถูกถอดออก แล้วอุดปากเอาไว้ พบบาดแผลร่างกายของผู้ตาย 4 แผล ที่กลางท้อง 3 แผล และใต้ราวนมด้านซ้าย 1 แผลนั้น จนทางญาติและครอบครัวของผู้ต้องหา ตลอดจนชาวบ้าน 50 คนเดินทางมาร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการคลี่คลายคดี

หลังพบพิรุธในหลายประเด็นทั้งที่ไม่มีหมายจับในขณะที่เข้ามาควบคุมตัว ตลอดจนทางญาติไม่ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาไปทำอะไรบ้าง ทางญาติพากันคิดว่าตำรวจจับแพะ เพราะตำรวจปิดกั้นไม่ให้ชาวบ้านและญาติเข้าไปดูการทำแผนฯ จนในที่สุดทางอมรินทร์ทีวี ได้ไปลงพื้นที่ทำให้ตำรวจพ้นจากข้อครหาจากญาติและชาวบ้าน