บึงกาฬ ลูกชายเมายาบ้าขอเงินพ่อแม่ไม่ให้คลั่งจุดไฟเผาบ้านวอด
ลูกชายคนเดียวติดยาบ้าถูกจับพึ่งออกจากคุกมาก็ยังเสพ ขอเงินพ่อแม่วันละ 5 รอบไปซื้อยามาเสพ ถ้าไม่ให้ก็จะถูกขู่ฆ่า จำใจเอาให้เพื่อให้หนีออกจากบ้านจะได้พักผ่อน นานเข้าทนไม่ไหวต้องหนีออกจากบ้านไปเช่าบ้านอยู่ ก่อนคลั่งจะจุดไฟเผาบ้านตัวเองโทรศัพท์ไปขอเงินพ่อ แต่พ่อบอกให้ญาติเข้าเงินให้มันก่อน ตัวเองยังติดงานรับส่งผู้สารยังไม่เข้าบ้าน สร้างความไม่พอใจให้ลูกชายจึงจุดไฟเผาบ้านวอดทั้งหลังพร้อมรถจักรยานยนต์
เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 30 เม.ย.พ.ต.ต.วิษณุชัย คารมย์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองบึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬได้รับแจ้งเหตุมีคนคลั่งจุดไฟเผาบ้านตัวเอง ที่บ้านแสนสุข เลขที่ 34 หมู่ 11 ตรงข้ามศาลาประชาคม บ้านแสนสุข ตำบลบึงกาฬ อำเภอเมืองบึงกาฬ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แจ้งตำรวจพิสูจน์หลักฐานบึงกาฬ พร้อมกับประสานกับ นายราชันย์ วะนาพรหม นายกเทศบาลเมืองบึงกาฬ สั่งการให้ นายเชิดชัย เจริญดี รองปลัดเทศบาลเมืองบึงกาฬ จ่าเอกพินิจ สินนาง หัวหน้าฝ่ายป้องกันและบรรเทาฯ พร้อมทีมงาน 10 คนนำรถดับเพลิงจำนวน 4 คันออกไปดับไฟระงับเหตุ บ้านเกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้และเป็นบ้านของ นายแสง แดนเขาเม็ง อายุ 73 ปี ขณะเกิดเหตุไม่อยู่ที่บ้าน โดยออกไปวิ่งสามล้อสกายแลปรับจ้าง เจ้าหน้าที่ใช้เวลาดับไฟประมาณ 1 ชั่วโมงจึงดับไฟได้สนิทแต่บ้านก็วอดทั้งหลัง พร้อมรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 100 หนึ่งคัน ค่าเสียหายเบื้องต้นประมาณ 500,000 บาท
ส่วนมือเผาบ้านในครั้งนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน คือนายณัฐพล แดนเขาเม็ง อายุ 31 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน ขณะไฟไหมบ้านได้แอบเดินหลบหนีไป เมื่อเพลิงสงบได้เดินเข้ามามอบตัวกับ พ.ต.ต.วิษณุชัย คารมย์ สว.(สอบสวน) สอบสวนเบื้องต้นรับว่าได้ใช้ไฟแช็คจุดไปที่ตระกล้าไม้บนบ้าน อ้างว่ามีปัญหาภายในครอบครัว ไม่ได้ทะเลาะกับใคร แต่เท่าที่สืบทราบมาผู้ต้องหาได้ขอเงินแม่ อ้างจะไปซื้อน้ำมันใส่รถ แต่แม่ไม่มีให้จึงโทรไปบอกพ่อ และพ่อก็ตอบไปว่าให้เอากับญาติไปก่อน เพราะวิ่งรถสามล้อสกายแลปส่งผู้โดยสารอยู่ยังไม่เข้าบ้าน จึงเป็นเหตุให้ผู้ต้องหาคุ้มคลั่งจุดไฟเผาบ้านตัวเองวอดดังกล่าว จึงถูกแจ้งข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) อีกข้อหา ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน นายแสง แดนเขาเมิง ผู้เป็นพ่อเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังทั้งน้ำตาซึมว่า มีลูกชายคนเดียวก็รักมาก แต่พอมีครอบครัวไปกรีดยางนอนเฝ้าสวนยางกับภรรยา และภรรยาพาเสพยาบ้า จึงติดยาบ้ามาแต่ครั้งนั้น เคยติดคุก 4 เดือนออกมาก็ยังเสพอยู่ ขอเงินแม่ไม่ได้ พ่อก็ต้องแอบเอาเงินให้ลูกชายเพราะรักและสงสาร แต่พอนานๆ เข้าชักขอมากขึ้นเรื่อย จาก 100 บาท เป็น 200 -500 บาท ถ้าไม่ให้ก็ขู่จะฆ่าทิ้ง ตนขับสามล้อรับจ้างส่งผู้โดยสารบางวันก็ได้เงินแค่ 200 บาท โชคดีหน่อยก็อาจ 500-800 บาท ลูกขอ 500 บาทตนกับแม่จะกินอะไร วันๆ ขอเงิน 5 รอบ เช้า สาย บ่าย ค่ำ และตี 2 ตนต้องการพักผ่อน เพราะตี 3 ต้องออกรถไปรับผู้โดยสารที่ บขส. สุดท้ายทนลูกชายรบกวนไม่ไหวจึงออกไปหาเช่าบ้านอยู่ 2 คน ปล่อยลูกชายนอนอยู่ในบ้านคนเดียว “ผมหมดแล้วทุกสิ่งอย่าง บ้านที่สร้างมากับมือ อายุก็มาก จะหาเงินที่ไหนมาสร้างบ้านอยู่ซุกหัวนอน” นายแสงกล่าวทิ้งท้าย.(ขอบคุณภาพจากฝ่ายป้องกันและบรรเทาฯ ทม.บึงกาฬ)
ธรรมชาติ ทองบุตดี,นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี/ข่าวบึงกาฬ