เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำเข้าอำเภอเซกา จ.บึงกาฬ เมื่อคืนวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้บ้านเรือนราษฎรถูกลมพายุพัด พังหลังคาปลิวไปกับสายลมจำนวน 10 หลังคาเรือน คือทีบ้านโคกพิทักษ์ หมู่ที่ 15 หมู่ที่ 16 บ้านศรีพนาเหนือ หมู่ที่ 17 บ้านทรัพย์ทอง และหมู่ที่ 7 บ้านศรีพนา ต.เซกา อ.เซกา เสียหายหนักเป็นบ้านทรงไทยคู่แฝดที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ ถูกลมพายุพัดจนเสาโค่นล้มพับลงกับพื้น เนื่องจากเสาตั้งอยู่บนพื้นไม่ได้ฝังลงดิน โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นของ นางสาคร พิมพา ซึ่งเจ้าของบ้านไปอยู่กับสามีฝรั่งที่ประเทศสวีเดน
ส่วนบ้านอีกหลังที่หลังคาเปิดถูกยกโครงหลังคาปลิวหายทั้งหลัง เป็นบ้านของนายสมควร สาระแสน นอกนั้นถูกลมพัดเสียหายเล็กน้อย และลมพายุยังพัดเอาต้นไม้ข้างถนนสายเซกา-อากาศอำนวยล้มทับเสา และสายไฟฟ้าหักสายไฟฟ้าขาดทับถนนทำให้รถสัญจรไปมาไม่ได้สะดวก เจ้าหน้าที่ต้องนำรถแบคโฮมายกต้นไม้ขนาดใหญ่รถจึงสามารถผ่านไปมาได้
ชาวบ้านผู้ประสบเหตุ กล่าวว่า ลมพายุใช้เวลาพัดเพียง 5 นาทีเท่านั้น แต่พัดรุนแรงมากและก็มีฝนตกลงมาเล็กน้อย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พายุฤดูร้อนเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 7 แล้ว แต่ละครั้งก็สร้างความเสียหายไม่น้อยและชาวบ้านได้รับผลกระทบทั้ง 8 อำเภอ และในครั้งนี้นายพิสิษฐ์ แร่ทอง นอภ.เซกา สั่งการให้ นายจ่าเอกพัฒนา แสงกล้า ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันร่วมกับเทศบาลศรีพนาและทหาร กกล.รส.บึงกาฬ เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อจัดหาอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัย อย่างเร่งด่วน ส่วนความเสียหายของเสาและสายไฟฟ้า นายอนุพงศ์ จันทร์ธานี ผจก.การไฟฟ้าฯ สาขาเซกา เร่งระดมช่างซ่อมแซมจนสามารถจ่ายไฟให้ประชาชนได้ใช้เป็นปกติแล้ว
ที่มาข่าว http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1462774332‘>