บึงกาฬ สลดฤทธิ์ยาบ้าเมียยิงผัวดับหนีไปทั้งคืนก่อนจะยิงตัวตายตาม
ผัวและเมียต่างเสพยาบ้า เกิดการทะเลาะกันบ่อยเหตุจากแบ่งยาไม่ลงตัว คว้าปืนลูกซองยิงผัวดับ ก่อนขี่ จยย.หลบหนีทั้งชาวบ้านทั้งญาติและตำรวจตามหาทั้งคืนไม่เจอตัว แต่ใกล้เที่ยงอีกวันพบกลายเป็นศพในบ้านกลางสวนยาง ทิ้งลูกแฝดชายหญิงพึ่งเกิดมา 4 เดือนกำพร้า
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 8 ต.ค.ร.ต.อ.สมพาน แก่นสา รอง สว.(สอบสวน) สภ.โซ่พิสัย อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ได้รับแจ้งเหตุพบหญิงสาวยิงตัวตายในบ้านพักกลางสวนยางพารา บ้านคำไผ่ ต.ศรีชมฏ อ.โซ่พิสัย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.ท.ภควัด บงแก้ว รอง.ผกก. (สอบสวน) แพทย์เวร รพ.โซ่พิสัย และหน่วยกู้ภัย พบชาวบ้านกำลังจับกลุ่มวิพากวิจารณ์กันจำนวนมาก ด้านในห้องนอนพบศพ นางสาวสุพัฒน์ตรา ครบุรี อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 263 หมู่ 3 บ้านคำไผ่ ต.ศรีชมกู อ.โช่พิสัย เสียชีวิตอยู่ในห้องนอน สภาพศพนอนหงายสวมกางเกงขายาวหัวยืดและเสื้อสีชมพูสวมทับเสื้อคอกลมสีฟ้า ทั้งชุดเปียกชุ่มด้วยน้ำและเลือด มีรอยถูกยิงเข้าหน้าท้อง ปลายเท้ามีอาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ตกอยู่ ปลอกกระสุนติดคาอยู่ในลำกล้อง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนด้านนอกบ้านพบรถ จยย.ผู้ตายจอดอยู่
จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อ15.30 น.วันที่ 7 ต.ค.ผ่านมา ผู้ตายและสามีคือ นายพาราดา ยศรักษา อายุ 33 ปี ได้กลับจากไปหยอดน้ำกรดยางก้อนถ้วยที่สวนยางพารา ได้แวะกันก๋วยเตี๋ยวก่อนเข้าบ้าน และได้เกิดมีปากเสียทะเลาะกันอย่างรุนแรง สามีจึงเดินหนีออกจากบ้านไปลับมีดอยู่หลังบ้านเตรียมออกไปกรีดยางตอนเย็น ขณะที่นั่งลับมีดอยู่และเปิดฟังเพลงไปด้วย โดยนั่งหันหลังไม่ได้ระวังตัว จึงถูกภรรยา คือนางสาวสุพัฒน์ตรา (ผู้ตาย) ได้ใช้อาวุธปืนลูกซองยิงเข้าด้านหลังจนตกจากที่นั่งลับมีดดับคาที่ ต่อหน้าแม่คือนางยุพิน ครบุรี อายุ 61 ปี ที่กำลังให้อาหารไก่พันธุ์ไข่อยู่ในโรงเลี้ยงใกล้กัน ถึงกับตกใจร้องตะโกนออกมาดังๆ ว่า “อีแม๊ก (ชื่อเล่น น.ส.สุพัฒน์ตรา) ทำไมทำแบบนี้”
หลังจากยิงสามีตายได้เดินหนีไปขี่รถ จยย.จอดอยู่ข้างบ้านด้วยสติแตกขับหลบหนีไป ตามหาทั้งคืนก็ไม่พบตัว และตกตอนสายมามีคนไปพบรถ จยย.จอดในสวนยาง ซึ่งเมื่อคืนญาติตามมาที่ก็ไม่พบตัว จึงแจ้งญาติไปดู พบกลายเป็นศพดังกล่าว เจ้าหน้าที่เชื่อว่าหลังจากยิงสามีตายทำให้สติแตกแล้วหลบหนีไปทั้งคืน จึงหวนกลับมาบ้านพักกลางสวนยาง ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาทั้งคืน และตัดสินใจใช้ปืนลูกซองกระบอกเดียวกันที่ยิงสามีตายปลิดชีพตัวเองตายตามด้วยความสำนึกผิด ปล่อยให้ลูกฝาแฝดชาย-หญิง ที่พึ่งเกิดมาได้เพียง 4 เดือนพร้อมกับพี่ๆ ที่เกิดจากสามีเก่าอีก 3 คนรวมเป็น 5 คนให้แม่และญาติเลี้ยงดูต่อไป
ด้านนางลำดวน พันนานนท์ อายุ 75 ปีมีศักดิ์เป็นป้าหรือพี่สาวพ่อ นางสาวสุพัฒน์ตรา ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า หลายสาวและหลานเขย ทะเลาะกันบ่อยมาก เหตุมาจากเสพยาบ้าทั้งคู่ “กูเสพน้อยมึงเสพมาก หรือกูได้มากมึงได้น้อย” เสมือนว่าแบ่งยากันเสพไม่ลงตัว ทั้งๆ ที่เป็นครอบครัวมีตังค์ใช้ไม่อดไม่อยาก สวนปาล์มก็เป็น 100 ไร่ สวนยาง 3 สวนเกือบ 200 ไล่ จ้างคนตัดปาล์มและกรีดยาง เลี้ยงไก่พันธุ์ไข่หลังบ้านเป็น 100-200 ตัว ไม่น่ามายุ่งกับยาเสพติดยาบ้า จนเสียคน เสพเมาแล้วเพี้ยน นางยุพิน ครบุรี อายุ 61 ปีแล้ว แม่แท้ๆ ไปช่วยกรีดยางด้วย ยังมาระแวงว่าจะมาเป็นชู้กับสามีตัวเอง จึงอยากขอร้องรัฐบาล ท่านนายกเศรษฐา ช่วยปราบยาบ้าให้ด้วย เพราะคนในหมู่บ้านไม่ว่าเด็กๆ หรือหัวหงอกหัวดำ ติดยาบ้ากันงอมแงม ไม่ทำมาหากินแอบลักขโมยเอาขี้ยางตามสวนไปขายซื้อยาบ้ามาเสพ ราคาเม็ดละ 20-30 บาทเท่านี้ ว่าแล้วก็ยกมือท่วมหัวขอให้ นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ช่วยด้วย
ทางด้านนางบุษบา ยศรักษา อายุ 54 ปีแม่ของ นายพาราดา ยศรักษา อายุ 33 ปี ผู้สูญเสียลูกชายที่ถูกลูกสะใภ้ยิงตายเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ได้ตั้งศพทำบุญได้ 1 คืนแล้วและเตรียมไปเผาในวันพรุ่งนี้วันที่ 9 ต.ค.เล่าว่า ลูกชายและนางสาวสุพัฒน์ตรา ได้คบหาอยู่กินกันมาได้ประมาณ 1 ปีเศษ ส่วนพฤติกรรมของลูกชายที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ตัวเองไม่ค่อยทราบเท่าไหร่นัก เนื่องจากไม่ได้อยู่ใกล้ชิด มาแวะซื้อของมาฝากก็มาพร้อมกันกับลูกสะใภ้ อีกอย่างลูกชายก็ไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง เพราะเป็นคนพูดน้อย แต่พอรู้ระแคะระคายบ้างหลังจากลูกชายคบหาอยู่กินกับฝ่ายหญิง ได้ทะเลาะมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง
ก่อนเกิดเรื่อง ประมาณ 1 เดือนก่อน ลูกชายได้พูดกับน้องชายเป็นลางบอกว่า “ถ้ากูไม่อยู่ ฝากดูแลลูกกูด้วยนะ” ซึ่งก็ไม่มีใครคิดว่า ลูกชายจะถูกนางสาวสุพัฒน์ตราลูกสะใภ้ยิงจากด้านหลังจนเสียชีวิต ซึ่งขณะนั้นทราบว่าลูกชายกำลังนั่งลับมีดกรีดยางอยู่ข้างบ้าน หลังเกิดเหตุตอนแรกตัวเองก็รู้สึกโกรธแค้นและเสียใจที่นางสาวสุพัฒน์ตรายิงลูกชายจนเสียชีวิต แต่พอวันนี้ช่วงเช้าได้ยินข่าวว่าลูกสะใภ้ ได้หนีไปยิงตัวตายที่บ้านพักในสวนยางพารา ตนเองก็ขออโหสิกรรมให้กับทั้งสองคน และเชื่อว่านางสาวสุพัฒน์ตรา อาจทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ การที่หนีไปยิงตัวตายก็อาจเป็นเพราะรู้สึกผิดที่ยิงลูกชายของตนเอง ซึ่งจริงๆแล้วทั้งสองคนนั้นรักกันมาก
.