ท่องเที่ยว » เริ่มแล้ว อันซีนอีสาน น้ำตกถ้ำพระ สไลเดอร์ที่เดียวในไทย สวนน้ำทางธรรมชาติ

เริ่มแล้ว อันซีนอีสาน น้ำตกถ้ำพระ สไลเดอร์ที่เดียวในไทย สวนน้ำทางธรรมชาติ

29 พฤษภาคม 2017
0

วันนี้ (28 พ.ค. 60) เวลา 15.00 น. หลังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ โดยเฉพาะที่บริเวณกลางเทือกเขาเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ต.โสกก่าม อ.เซกา จ.บึงกาฬ จนมีมวลน้ำจำนวนมากไหลเข้าสู่น้ำตกถ้ำพระ น้ำตกขึ้นชื่อของจังหวัดบึงกาฬ ที่กลายเป็นที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดฮิตของคนทั้งประเทศ โดยในวันนี้ได้มีนักท่องเที่ยวเริ่มทยอยมาเล่นน้ำตกกันแล้ว ซึ่งในระยะนี้เป็นต้นฤดูฝนเจ้าหน้าที่ได้เปิดให้ประชาชนนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมความงดงามและเล่นน้ำตก ได้ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2560 เป็นต้นไปจนหมดฤดูฝน
-
ขณะที่ การเดินทางขึ้นไปยังน้ำตกถ้ำพระ จะต้องเดินทางด้วยเรือหางยาวขนาดใหญ่ ที่ชุมชนได้จัดบริการไว้ ในราคาไปกลับคนละ 20 บาทเท่านั้น นั่งเรือผ่านลำน้ำบังบาตร ที่มีความอุดมสมบูรณ์คล้ายป่าดงดิบ ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ถึงท่าเทียบเรือ และเดินท้าวต่ออีกประมาณ 300 เมตร ก็จะถึงน้ำตกถ้ำพระ
สำหรับ น้ำตกถ้ำพระ ตั้งอยู่กลางเทือกเขาเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ในเขตพื้นที่ บ้านภูวัว หมู่ 9 ต.โสกก่าม อ.เซกา จ.บึงกาฬ ซึ่งถือเป็นเทือกเขาที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติอีกแห่งหนึ่งของภาคอีสาน เนื่องจากเป็นเทือกเขาที่ประกอบไปด้วย น้ำตก ป่าไม้นานาพันธุ์ เนื้อที่เกือบ 2 แสนไร่ รวมถึงสัตว์ป่าหายากอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะน้ำตกถ้ำพระ ถือเป็นน้ำตกที่มีความสมบูรณ์ สวยงามที่ธรรมชาติสร้างขึ้นอย่างลงตัว ซึ่งในช่วงหน้าฝนจะมีน้ำจากต้นน้ำ ลำธาร บนเทือกเขาไหลผ่านโขดหิน ซอกหินขนาดใหญ่ เป็นน้ำตก ผ่านหน้าผาหิน ก่อนไหลลงสู่ลานหินภูเขา บางจุดเป็นเส้นทางเล่นน้ำสไลเดอร์ ที่สวยงามแบบธรรมชาติ ไม่แพ้สวนน้ำขนาดใหญ่ ทำให้ปัจจุบันน้ำตกถ้ำพระ กลายเป็นที่ท่องเที่ยว พักผ่อน เล่นน้ำตก ชมธรรมชาติ ที่ประชาชน นักท่องเที่ยว เริ่มให้ความสนใจ แห่ไปท่องเที่ยวกันคึกคัก ไม่ขาดสาย
ข่าวสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบึงกาฬ

ขอขอบคุณคลิป จากธนัฐพงษ์ วงษ์ชำนาญ คนมักหมอลำและวัฒนธรรมอีสาน




มหัศจรรย์..บึงกาฬ เที่ยว “น้ำตกถ้ำพระ” อะเมซอนแห่งภาคอีสาน!

Nichrawee

Nichrawee

ไปบึงกาฬทริปนี้หวังไว้ลึกๆ ว่าจะได้ไปดูน้ำตกสวยๆ เพราะได้ยินมาว่าบึงกาฬเอง มีน้ำตกอยู่หลายที่มาก..แล้วจะให้เที่ยวแบบฟินสุดๆ ก็หน้าฝนนี่แหละแจ๋วสุด เพราะจะมีน้ำเยอะหน่อย ซึ่งน้ำตกแต่ละที่ในจังหวัดบึงกาฬก็สวยงามไม่เหมือนกันซะด้วย แถมเที่ยววันเดียวก็ไม่หมด นี่คือความดีงามของจังหวัดบึงกาฬที่ใครหลายคนไม่เคยรู้

ระหว่างทางก็ได้รับบรีฟจากน้องๆ ที่ไปด้วยกันว่า จะต้องนั่งเรือเข้าไป “น้ำตกถ้ำพระ” ประมาณ 15 นาทีนะพี่ ในใจก็เอ๊ะ..มันจะเป็นยังไงเนี่ย “ไปน้ำตก..ทำไมต้องนั่งเรือเข้าไป” แต่ดูแอดเวนเจอร์ดี น่าจะมันส์

พอไปถึงก็ต้องตะลึงเพราะมันสวย มันดูดีกว่าที่คิดและมันก็ล่องเรือจริงจังมาก..ฮ่าๆๆ เพราะน้ำลึกเป็นเมตร แต่นั่นไม่ได้ทำให้เรากลัวค่ะ เพราะความเขียวขจี ความสดชื่นของสายฝนที่โปรยปรายลงมา มันเรียกร้องให้เราต้องรีบเบิ่งไปชมความสวยงามของน้ำตกถ้ำพระ ที่กำลังรอคอยเราอยู่ และได้ข่าวว่าถ้ามาในวันหยุดนี่นักท่องเที่ยวจะมาทีเป็นพันคน แต่เรามาวันธรรมดาน่าเที่ยว หายห่วงจ้าไม่มีคนเลย เป็นมนุษย์กลุ่มเดียวที่เข้าไป เย้ๆ

ระหว่างนั่งเรือเข้าไปก็จะสัมผัสได้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติขั้นสูงสุด..เพราะมีป่าไม้เขียวชอุ่มให้เราชม 2 ข้างทาง เราก็นั่งเรือเพลินๆ กันไป ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็ถึงน้ำตกถ้ำพระ

ในระหว่างที่เรือกำลังคดเคี้ยวไปตามสายน้ำพวกเราก็ต่างพร้อมใจกันพูดกันออกมาว่านี่มัน..ป่าอะเมซอน ชัดๆ บรรยากาศมันใช่เลยเหมือนอยู่ในหนัง เดอะ เลค พาร์สิก ผสม จูราสิกพาร์ค!! จินตนาการมาเต็มมาก..

พอไปถึงก็จะมีท่าจอดเรือเล็กๆ ไว้สำหรับเป็นทางขึ้นน้ำตกค่ะ เราก็ต้องเดินเท้าเข้าไป ระยะไม่ไกลมาก ไม่ทันเหนือยก็ถึงละ.. ขอแนะนำว่าใครจะมาน้ำตกต้องใส่รองเท้าที่พื้นรองเท้าแข็งแรงและกันลื่นได้จริงๆ เพราะเราต้องเดินไปตามโขดหิน มันจะมีความลื่นมาก..จะมีตะไคร่เขียวๆเกาะอยู่เต็มไปหมดและหินก็มีความชื้นจากน้ำฝนหรือละอองน้ำต่างๆ เกาะอยู่ จะค่อนข้างอันตรายนิดนึง หินของน้ำตกถ้ำพระจะเป็นหินทรายแดงค่ะ ก็มีลักษณะเป็นรูพรุน มีลวดลายสวยงามอย่างที่เห็น ปล.อย่าเหยียบพื้นที่มีสีเขียว..เดี๋ยวลื่น

หลังจากบุกป่าฝ่าดงมาพอสมควรก็ถึงแล้วจ้า… “น้ำตกถ้ำพระ” ที่รอคอย น้ำแรงมาก เห็นแล้วเย็นชุ่มฉ่ำ ชื่นใจ.. นี่ขนาดยืนอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ยังสวยขนาดนี้เหมือนสไลเดอร์ขนาดยักษ์เลย..สวยมากอลังการ แต่เดี๋ยวก่อนนี่แค่ด่านแรกยังไม่หมด..ยังมีอะไรเด็ดกว่านี้

พอเราชื่นชมสไลเดอร์ยักษ์มาพอสมควร เราก็เลาะไปตามโขดหิน..และขึ้นไปตามบันไดเล็กๆ อีกแป๊ปนึงค่ะ (ช่วงนี้ต้องระวังลื่นกันหน่อย..ทางเดินแคบมาก ต้องเดินช้าๆ จิกเท้าแน่นๆ ไม่ต้องรีบ)

นี่ฮะ..ภาพแรกที่ทุกคนจะได้เห็น เป็นลานหินบนหน้าผาสูง เราสามารถมองเห็นป่าที่อยู่ไกลออกไป มีหมอกลงให้เราได้กระชุ่มกระชวยหัวใจ แล้วก็จะเห็นพระพุทธรูปที่ประทับอยู่บนหน้าผาอีกฟากนึง เนื่องจากที่นี่เป็นสำนักสงฆ์กลางป่า

ยังไม่จบ ชีวิตยังต้องเดินต่อ..อีกหน่อยนึง เพื่อไปหาจุดไฮไลท์ของที่นี่ ป็นน้ำตกที่อยู่สูงสุด.. ซึ่งความสวยงามนั้นต้องบอกเลยว่าประทับใจมาก..

ถ่ายรูปแบบลืมไปเลยว่าจะกล้องจะพังหรือไม่พัง ถ่ายไปเช็ดไป ไม่เสียแรงที่นั่งรถ ขึ้นเขา ลงเรือ เดินป่าเข้ามา มันคือที่สุดของความฟิน ที่ไม่คิดว่าบึงกาฬเองจะมีที่เที่ยวที่ดีต่อใจเรามากขนาดนี้

และต้องบอกอีกอย่างนึงว่า “น้ำตกถ้ำพระ” จะมีน้ำแค่ในฤดูฝนเท่านั้นนะจ๊ะ มาหน้าอื่น..ก็จะเห็นแค่โขดหิน แต่นักท่องเที่ยวก็สามารถขึ้นไปเดินเล่น ชมวิวได้เหมือนกัน ความสวยงามจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละฤดูกาลค่ะ จะมาหน้าไหนก็มีเสน่ห์ไม่เหมือนกัน..

สุดท้ายนี้ใครที่ยังไม่เคยไปเที่ยวจังหวัดบึงกาฬ และนึกภาพไม่ออกว่าบึงกาฬเป็นยังไง ก็อยากจะแนะนำให้ลองไปสัมผัสประสบการณ์พิเศษด้วยตัวเอง เหมือนกับที่เราไปมาแล้ว ก็เก็บความประทับใจกลับมาเล่าสู่กันฟัง และมีความตั้งใจว่าถ้ามีโอกาสจะกลับไปอีกแน่นอน

และถ้าใครเลือกไม่ถูกว่าจะมาหน้าไหนดี ก็ขอให้มาหน้าที่เราสะดวกค่ะ 55 ล้อเล่นๆ มาหน้าฝนก็ดีค่ะ ก็จะได้เจอน้ำตก ป่าเขียวๆ มีหมอกบางๆ หลังฝนให้เราชื่นชม ถ้ามาหน้าหนาวก็จะเจอกับอากาศเย็นๆ มีทะเลหมอกให้เราชื่นใจ

การเดินทาง : จากอำเภอบุ่งคล้าไปตามทางหลวงหมายเลข 212 ระยะทาง 24 กิโลเมตร ถึงบ้านท่าดอกคำ มีทางดินแยกขวาไปจนถึงห้วยบางบาตร และต่อเรือชาวบ้านเข้าน้ำตก

ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่พาเราไปหาประสบการณ์ดีๆ สนุกๆ และทำให้เราหลงรักจังหวัดบึงกาฬ แบบไม่รู้ตัว