บึงกาฬ ผัวโหดทะเลาะเมียราดน้ำมันเผาร่างเสียชีวิต

เมื่อวันที่ 3 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 19.30 น. ร.ต.ท.ปฏิพล รักพงษ์ รอง สว.(สอบสวน)สภ.โซ่พิสัย ปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวนเวรฯ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุประจำสถานีว่า มีเหตุเพลิงไหม้ที่บ้านห้วยลึก ข้างโรงเรียนบ้านห้วยลึก มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

พ.ต.อ.ไพรวัลย์ ท้าวพรม ผกก.สภ.โซ่พิสัย พร้อมกับ ร.ต.ท.ปฏิพล รักพงษ์ พนักงานสอบสวนเวร จึงเดินทางออกตรวจที่เกิดเหตุ เมื่อถึงที่เกิดเหตุ บ้านแห่งหนึ่ง ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ เพลิงได้สงบลงแล้ว มีร่องรอยเพลิงไหม้บริเวณหน้าบ้านเป็นหญ้าคาที่ใช้ทำเป็นหลังคาไหม้บางส่วน

และได้แจ้งให้ พิสูจน์หลักฐานจังหวัดบึงกาฬ มาตรวจที่เกิดเหตุและตรวจเก็บวัตถุพยาน สอบถามรายละเอียดเบื้องต้น จากชาวบ้านใกล้เคียงแจ้งว่า บ้านหลังนี้มีสามีภรรยาอยู่ด้วยกันสองคน มีปากเสียงทะเลาะกันเป็นประจำ ผู้ก่อเหตุ (สามี) คือ นายบุญรถ อายุ 48 ปี เจ้าของบ้าน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นภรรยาชื่อ น.ส.พนาวัลย์ อายุ 47 ปี เป็นภรรยา

จากการสอบสวน นายบุญรถ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนกับภรรยา ได้ทะเลาะมีปากเสียงกัน และนายบุญรถ จะเข้าไปเอาเสื้อกันหนาวในบ้านพัก เมื่อได้เสื้อกันหนาวแล้วออกมานอกบ้าน และได้ไปหยิบเอาขวดน้ำมันเบนซินบรรจุในขวดน้ำอัดลม จะเอามาเติมน้ำมันรถจักรยานยนต์ แต่เกิดมีปากเสียงกันรุนแรงขึ้น นายบุญรถฯจึงใช้น้ำมันเบนซินซึ่งบรรจุในขวดน้ำอัดลมซึ่งถืออยู่กับตัว สาดใส่ตัว น.ส.พนาวัลย์ และได้มีการยื้อแย่งไฟแช็กกัน ทำให้เกิดไฟไหม้ร่างกายของ น.ส.พนาวัลย์ ซึ่งมีน้ำมันเบนชินเปียกเสื้อผ้าตัวที่สวมใส่อยู่ ทำให้ได้รับบาดเจ็บบวกกับ จุดเกิดเหตุเป็นบริเวณเพิงยืนออกมาหน้าบ้าน มุงด้วยหญ้าคา จึงเกิดไฟไหม้ น.ส.พนาวัลย์ ภรรยา ถูกไฟคอกรุนแรง

พ.ต.อ.ไพรวัลย์ ท้าวพรม ผกก.สภ.โซ่พิสัย กล่าวว่า ผู้บาดเจ็บได้ถูกนำตัวส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และเสียชีวิตในวันที่ 2 ธ.ค. ต่อมาวันที่ 1 ม.ค. นายบุญรถ สามีผู้ก่อเหตุ ได้เข้ามามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน พร้อมกับมารดาของตน พนักงานสอบสวนจึงได้สอบปากคำผู้ต้องหา และพยานและได้แจ้งข้อ กล่าวหาและสิทธิ์ให้ นายบุญรถผู้ต้องหา ทราบว่าการกระทำของนายบุญรถ ผู้ต้องหา เป็นความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ได้นำตัวผู้ต้องหายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลจังหวัดบึงกาฬแล้ว ศาลอนุญาตตามคำขอ และพนักงานสอบสวนจะได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายนณงค์ฤทธิ์ ลูกชายผู้ตาย กล่าวว่า ตนทำงานอยู่ กทม.ไม่ได้อยู่บ้านกับพ่อแม่ ทั้งคู่จะมีปากเสียงกันประจำ ซึ่งก็ไม่รู้เรื่องอะไร

พ.จ.อ.โสภณ สิทธิจันทร์ นอภ.โซ่พิสัย กล่าวว่า วันนี้ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาเยี่ยมให้กำลังใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุเพื่อเตรียมช่วยเหลือเยียวยาต่อไป

ส่วนนางสุนิสา เอมสมบุญ ยุติธรรมจังหวัด กล่าวว่า วันนี้ได้ลงมาแนะนำการแจ้งสิทธิแก่ผู้เสียหายว่ามีสิทธิ์จะได้รับค่าตอบแทนในคดีนี้อย่างไร ซึ่งจะมีการเยียวยาผู้เสียหาย จะมีค่ารักษาพยาบาล ค่ากรณีถึงแก่ความตาย รวมไปถึงค่าอุปการะต่างๆ

นางแพง อายุ 64 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุฝ่ายหญิงกลับจากไปดื่มสังสรรค์กับเพื่อนมาได้ยิน 2 ผัวเมียทะเลาะกัน ผู้ตายบอกสามีว่า “กูจะเอามึงตายวันนี้ละ กูนี่ละจะเผาแม่มึง แม่มึงละจะตายก่อนกู” ขณะนั้นตัวเองอยู่บนชั้น 2 ของบ้าน ก็ตกใจว่า 2 ผัวแม่เมียจะฆ่ากัน ฝ่ายชายบอกภรรยาว่าหยุด ให้ไปขอขมาปู่(นายบุญเทียน เป็นลุงผู้ก่อเหตุ) มึงเดียวนี้ เวลาเมามาผู้ตาย ด่ากราดไปทั่วไม่สนใจหัวขาวหัวดำ ด่าเหมือนหมูเหมือนหมา ให้ไปขอขมาเพื่อให้ปู้ยกโทษให้ จะได้ไม่โกรธไม่เคือง แต่ผู้ตายกลับไม่สนใจยิ่งตะโกนบอกว่ากูสิเอามึงตายดับโคตรดับเหง้าวันนี้ละ

นายสรวุฒิ อายุ 47 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านห้วยลึก กล่าวว่า พฤติกรรมของครอบครัว 2 สามีภรรยา ว่า มีปากเสียงกันอยู่ตลอด คนเป็นเมียก็ดื่มเหล้า กลับบ้านมาก็ทะเลาะกันกันสามี ว่าไปเที่ยวกลับมาดึกดื่น ส่วนสามีก็เป็นคนขี้ระแวงขี้หึง มีระแวงผู้ชาบที่มาพูดคุยกับภรรยา ก็มีปากเสียงกันตลอด ข้างบ้านก็แจ้งให้ทราบหลายครั้ง เขาก็ไม่สนใจเพราะเป็นเรื่องในครอบครัว

นางหนูเลี่ยน อายุ 68 ปี แม่ผู้ก่อเหตุ ที่มีบ้านอยู่ติดกันกับบ้านลูกชาย(บ้านที่เกิดเหตุ) กล่าวว่า เวลาลูกชายกลับมาบ้านก็จะมีปากเสียงกันทันที(ลูกชายไปอยู่สวนยาง)ให้ผู้ตายอยู่บ้านคนเดียว เหตุเพราะรำคาญที่ทะเลาะกันทุกวัน ส่วนมากจะเป็นเรื่องภรรยา กินเหล้าทุกวัน ที่ผ่านมาทะเลาะกันก็ไม่มีอะไร วันเกิดเหตุทะเลาะกันไม่ถึง 10 นาทีก็เกิดเหตุ เวลาลูกชายบอกผู้ตายว่า เวลากินเหล้าก็อย่ากินเยอะ กินแล้วก็ไม่ต้องส่งเสียงดัง ไม่ไปด่าคนนั้นคนนี้ เพราะผู้ตายกินเหล้าแล้วก็ชอบด่าชาวบ้านไปทั่ว อย่างแม่ที่มีศักดิ์เป็นย่า ก็โดนด่าเหมือนหมา พูดขึ้นมาก็อีเหี้ยอีสัตว์ แม่ก็ใจเย็นเพราะเห็นว่าเป็นลูก ตอนอดทนไม่ได้ก็ได้แต่บอกว่าอย่าพูดมากมันจะบาป ผู้ตายก็ไม่ฟัง กินเหล้าแล้วก็เปิดเพลงเสียงดัง ชาวบ้านที่ใกล้เคียงก็รำคาญ แต่ก็บอกไม่ได้ บอกก็เถียงกลับว่ากูมีเงินซื้อกินเองไม่ได้ไปขอใครกิน ลูกชายก็คงเหลืออดเหลือทนมานานหลายปี หลังเกิดเหตุลูกชายก็ไปบอกเจ้าของสวนยางพารา ว่าจะไปเก็บยางก่อนและรุ่งเช้าจะเข้าไปมอบตัว พอเช้ามาก็มาหาแม่ที่บ้านและพาเข้าไปมอบตัวกับตำรวจ ไม่ให้ยุ่งยากไปมอบตัวสารภาพเองทั้งหมด