จากกรณีเพจ”ข่าวท้องถิ่นบึงกาฬ”ลงข่าว”กลุ่มทะลุถุง”ทะเลาะวิวาทกันในงานบุญผะเหวดบ้านโนนสูง หมู่ที่ 3 ต.เซกา อ.เซกา จ.บึงกาฬ ใช้มีดดาบฟันและทุบรถ จยย.เสียหายและใช้อาวุธปืนสั้นยิงถูกผู้มาเที่ยวงานได้รับบาดเจ็บ ตำรวจ สภ.เซกา เร่งไล่ล่ามือปืน ล่าสุดสอบพยานมัดตัวมือยิงทราบเป็นเยาวชนอายุ 17 ปี พึ่งมอบตัวและประกันออกตัวจาก สภ.บึงโขงหลง พื้นที่ติดกันเมื่อครั้ง “กัน จอมพลัง” ลงพื้นที่ ตร.คาดออกหมายจับเร็วๆ นี้ ส่วนผู้ถูกยิงอาการปลอดภัยหมออนุญาตให้กลับบ้านแล้ว
วันที่ 24 มีนาคม 2567 เวลา 11.00 น.ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.พิชิต คงพิทักษ์ผกก.สภ.เซกา อ.เซกา จ.บึงกาฬ โดยได้สอบถามความคืบหน้ากรณีแก๊งทะลุถุงได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายกิตติพงษ์ อายุ 17 ปีเข้าที่แขนด้านขวากระสุนฝังในได้รับบาดเจ็บ ถูกเพื่อนที่ไปเที่ยวงานด้วยกันและชุดรักษาความสงบหมู่บ้านโนนสูง นำส่งโรงพยาบาลเซกา ซึ่งต่อมาแพทย์ได้ทำการผ่าตัดนำหัวกระสุนออกได้อย่างปลอดภัยและให้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 3 วัน ซึ่งต่อมา นางจุฑาทิพย์ อายุ 38 ปีมารดา อยู่บ้านหมู่ที่ 6 บ้านโนนเหมือดแอ่ ต.เซกา อ.เซกา ได้นำความเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.ชาญชัย ภูล้นแก้ว พนักงานสอบสวนเวร สภ.เซกา เพื่อให้ทำการสืบสวนสอบสวน หาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีในครั้งนี้
โดย พ.ต.อ.พิชิต ผกก.ได้กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งความ ก็ไม่นิ่งนอนใจตนได้สั่งชุดสืบสวนสอบสวนออกหาข่าวเพื่อออกติดตามผู้กระทำความผิดหรือมือปืนที่ยิงผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้ โดยเบื้องต้นได้ทราบว่ากลุ่มคนร้ายผู้ทุบรถ จยย.ของผู้เสียหายอีกกลุ่มหนึ่งและเป็นผู้เสียหายบ้านเดียวกันกับผู้ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ซึ่งจากการสืบสวนสอบสวนทราบว่ากลุ่มวัยรุ่นที่ใช้มีดพร้าฟันและทุบรถจักรยานยนต์เสียหายเป็นคนละกลุ่มกันกับมือปืนที่ใช้อาวุธยิง นายกิตติพงษ์ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งต่อมาชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เซกา ได้นำตัวพยานคนสำคัญในที่เกิดเหตุมาสอบสวน จึงทราบแน่ชัดว่ามือยิงผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเยาวชนอายุ 17 ปีได้เคยเข้ามอบตัวและได้ประกันตัวกรณีก่อเหตุที่ สภ.บึงโขงหลง พื้นที่ใกล้เคียงกัน
จนเมื่อไม่นานมานี้ที่ทีมงาน”กัน จอมพลัง”ลงพื้นที่ หลังก่อเหตุยิงผู้เสียหายก็ไปทำงานอยู่กับบิดาในสถานที่ก่อสร้างสะพานไทยลาว ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.เซกากำลังรวบรวมพยานหลักฐานในการออกหมายจับผู้ก่อเหตุรายนี้ต่อไป จึงอยากจะขอฝากไปถึงบิดามารดาหรือผู้ปกครองกลุ่มวัยรุ่นให้สอดส่องดูแลพฤติกรรมบุตรหลานของตัวเองอย่างใกล้ชิด หากไปก่อเหตุหรือทำผิดพลาดประการใดแล้วผู้ปกครองก็จะมีส่วนรับผิดชอบด้วย
ส่วนพยานที่เห็นเหตุการณ์อีกคนหนึ่งก็คือ นายมอส ซึ่งเปิดร้านขายของถูกดีอยู่ที่ร้านหน้าวัดบ้านโนนสูงกล่าวว่าในงานเป็นการจัดงานบุญพระเวสประจำปีของหมู่บ้านโนนสูง ขณะเกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันนั้นเป็นเวลาประมาณ 02.00 น.ของวันที่ 21 มี.ค.และในงานก็มีวงดนตรีหมอลำคณะแพรวพราวแสงทองมาเปิดทำการแสดงด้วย กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุได้ทุบรถและถือมีดดาบฟันรถจักรยานยนต์คู่กรณีที่จอดอยู่หน้าร้านของตนเองจากนั้นก็ได้พากันวิ่งขึ้นรถมอเตอร์ไซค์หลบหนีไปทางเข้าเมืองอำเภอเซกา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงอยากจะขอฝากกลุ่มวัยรุ่นว่าถ้าหากอยากจะชมหมอลำคณะดังดีๆแล้วก็อย่ามาทะเลาะวิวาทหรือก่อเหตุในงานบุญพระเวสอีกไม่ว่าที่ไหนเพราะว่าถ้าหากก่อเหตุแล้วคณะกรรมการหมู่บ้านก็จะไม่จัดงานประเพณีและจ้างหมอลำดีๆ มาเปิดทำการแสดงให้ชมฟรีอีกต่อไป
ส่วนพยานอีก 2 สาวที่ไปร่วมงานบุญในครั้งนี้และเห็นเหตุการณ์ สมมุติว่า น้อง A และB ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่าขณะเกิดเหตุพวกตนกำลังจะรอรถกลับบ้านซึ่งนั่งรถกระบะไปด้วยกันประมาณ 20 คน ได้มีกลุ่มวัยรุ่นไม่ทราบว่าเป็นกลุ่มใดได้เกิดทะเลาะวิวาทกันก่อนในวัด ซึ่งขณะนั้นหมอลำกำลังเลิกทำการแสดง มือปืนที่ยิงกลุ่มพวกตนได้รับบาดเจ็บนั้นเห็นใช้อาวุธปืนสั้นยิงนัดเดียวดูเหมือนว่าจงใจจะยิงเข้ามาในกลุ่มพวกตนทั้งๆ ที่พวกตนไม่รู้เรื่องอะไรด้วยและก็มีผู้ที่รับบาดเจ็บด้วยกัน 1 คน
นางจุฑาทิพย์ แม่ของ นายกิตติพงษ์ ผู้เคราะห์ร้ายถูกยิง กล่าวว่า ก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่ลูกชายถูกยิงในครั้งนี้ ถ้าหากว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมมือปืนได้ตนก็จะสอบถามว่าเหตุใดจึงมายิงลูกชายตนให้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งหากพอฟังได้ว่าเป็นการไม่มีเจตนาจะยิง ตนเองก็จะฟังเหตุฟังผลของมือปืน แต่ถ้าว่าเป็นการเจตนายิงทำให้ได้รับบาดเจ็บหรือถึงตายได้ ก็จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีถึงที่สุด เพราะปกติแล้วแล้วลูกชายตนก็ไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน ส่วนตนเองก็ไม่สบายเนื่องจากว่าหน้ามืดเพราะไม่ได้พักผ่อนโดยไปนอนเฝ้าลูกชายอยู่ที่โรงพยาบาลเซกาถึง 3 วัน 3 คืนจึงเกิดหน้ามืดไปดังกล่าว