แก๊งมิจฉาชีพเปิดเพจเฟสบุ๊กรับจำนำรถยนต์ เยื่อเปิดร้านให้เช่ารถหลงเชื่อนำรถเก๋งไปจำนำเพื่อนำเงินมาเสร็มสภาพคล่อง แต่ลูกค้ารายใหม่ต้องการใช้รถเก๋ง จึงรถฟอร์จูนเนอร์ไปเปลี่ยนเอารถเก๋งออกมา ความแตกมารู้ความจริงว่าเป็นแก๊งมิจฉาชีพนำรถไปจำนำส่งขายข้ามลาว พอไปแจ้งความที่ สภ.เมืองนครราชสีมา ตำรวจไม่ใส่ใจติดตามรถให้ จึงเข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือกับตำรวจกองปราบติดตามรถคืนให้ได้ ก่อนส่งลงเรือข้ามโขงได้หวุดหวิด
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 11 พ.ค.ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.สุชาลินี อักษรวงศิลป์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที 136/1 หมู่ที่ 1 ต.บ้านหัน อ.สี่คิ้ว จ.นครราชสีมา ว่าได้รับการติดต่อให้ไปรับรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูเนอร์ สีขาว ทะเบียน งพ xxxx คืนกับ ร.ต.ต.อัครรัฐ อรรคบาล รอง สว.(ป) กก.3 บก.ป.ด.ต.สนทยา บัวถนอม ด.ต.ชัชชัย ช่างสอน และ จ.ส.ต.เอกชัย แสนสุริวงค์ ผบ.หมู่ กก.3 บก.ป.ซึ่งไปติดตามยึดรถคันดังกล่าวกลับคืนมาได้ หลังจากเข้าแจ้งความรถยนต์หายไว้ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา ตามบันทึกประจำวันเมื่อวันที่ 2 พ.ค.2567 เวลา 15.28 น.แต่คดีไม่คืบหน้าทั้งๆ ที่มีหลักฐานสำคัญให้ตำรวจครบหมดแล้ว
ต่อมาได้เข้าร้องเรียนขอความเชื่อเหลือกับ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการกองปราบปราม ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป.และ พ.ต.ต.สันติชัย ศรีสวัสดิ์ สว.กก.3 บก.ป.ร.ต.ต.อัครรัฐ อรรคบาล รอง สว.(ป) ประสานกำลังกับ ร.ต.อ.กัมปนาท กัลยานาม รอง สว.ทล.ส.ทล 5 กก.4 บก.ทล.และร.ต.ท.จันทร์แรม ไทยพัฒนกิจ รอง สว.(ป) ออกติดตามรถยนต์คันดังกล่าวตามGPS ที่ขึ้น ซึ่งมีคนเห็นรถวิ่งผ่านสี่แยกไฟแดงบ้านดงบัง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ เป็นจุดเป้าหมายที่คนร้ายจะนำรถไปลงเรือข้ามไปขายยังฟัง สปป.ลาว นอกจากนี้มีเจ้าของรีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.บึงโขงหลง เห็นกลุ่มคนร้ายที่เข้ามาเช่าที่พักสอบถามเส้นทางจะไปยังบ้านดังบัง
ด้าน ร.ต.ต.อัครรัฐ อรรคบาล รอง สว.(ป) กล่าวว่ากลุ่มคนร้ายคงหาจังหวะลักลอบนำรถยนต์ลงเรือข้ามน้ำโขงออกนอกประเทศไม่ได้ จึงได้ขับรถวนเวียนอยู่ตั้งหลายรอบ ก่อนที่จะตัดสินใจนำรถยนต์คันดังกล่าวมาซุกซ่อนจอดทิ้งอยู่บริเวณป่าข้างถนนสายบ้านเชียงเครือ-บ้านหนองหอย หมู่ที่14 ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ สกลนคร จึงใด้ไปตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว พร้อมด้วย ร.ต.ต. ธัชพล คำทุม รอง สว (สอบสวน) สภ.ขมิ้น อ.เมือง จ.สกลนคร พร้อมกับติดต่อเจ้าของมารับรถคืน
ส่วน น.ส.สุชาลินี อักษรวงศิลป์ เจ้าของรถ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวผ่านทางโทรศัพท์ว่า รู้สึกดีใจมากเป็นอย่างยิ่งที่ตำรวจกองปราบฯได้ติดตามรถยนต์ของตัวเองมาคืนให้ได้ หลังจากไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา รู้สึกว่าตำรวจที่นี่ไม่ได้ใส่ใจติดตามให้เลย ทั้งที่ตัวเองมีหลักฐานหลายอย่างไปมอบให้ไว้ จนต้องไปร้องกับตำรวจกองปราบปราม จึงได้รถคืนมาต้องขอขอบคุณตำรวจที่เอาใจใส่กับความเดือดร้อนของประชาชน ส่วนความเป็นมาของเรื่องนี้นั้น เนื่องจากตนเองประกอบธุรกิจให้เช่ารถ แต่ลูกค้าต้องการเช่ารถเก๋ง จึงได้นำรถฟอร์จูเนอร์ไปเปลี่ยนเอารถเก๋งยี่ห้อ โตโยต้า อัสติส ที่ไปจำนำไว้ก่อนนี้แล้วเพื่อมาหมุนสภาพคล่อง กับเจ้าของเพจเฟสบุ๊กชื่อ”พงษ์ศักดิ์รถแลกเงิน” โดยนัดพบกันที่บริเวณลานจอดรถด้านหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขานครราชสีมา ถ.มิตรภาพขาออก ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา
จากนั้น นายพงษ์ศักดิ์ อ้างว่าต้องนำรถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า ฟอร์จูเนอร์ สีขาวทะเบียน งพ xxxx นครราซสีมา ไปเปลี่ยนเพื่อนำรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า อัสติส สีขาว ทะเบียน 6กง xxxx กรุงเทพมหานคร ออกมาจากอู่ที่จอดไว้ แต่เมื่อนายพงษ์ศักดิ์ รับรถไปแล้วก็ไม่สามารถติดต่ออะไร ได้อีกเลยจึงมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษมอบคดีให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับนายพงษ์ศักดิ์ ในความผิดฐานยักยอก จนกว่าคดีจะถึงที่สุด โดยไม่คิดว่าจะนำรถตนมาขายข้ามประเทศดังกล่าว
น.ส.สุชาลินี อักษรวงศิลป์ ผู้เสียหายแฉพฤติการณ์แก๊งมิจฉาชีพนี้ต่อไปว่า ครั้งแรกที่นำรถไปจำนำนั้นเป็นรถเก๋งยี่ห้อ โตโยต้า อัสติสขาว ทะเบียน 6กง xxxx กรุงเทพมหานคร ก็นัดกันที่ห้างบริเวณลานจอดรถด้านหน้าห้างสรรพสินค้า สาขานครราชสีมา เข้าใจว่าออฟฟิศอยุ่ที่นั่น พอเอารถเก๋งไปส่งนายพงษ์ศักดิ์ ที่อ้างเจ้าเป็นเจ้าของเพจก็เขียนหนังสือใส่กระดาษให้ว่า ได้รับเงินจำนวน 5 หมื่นบาท แต่หักค่าธรรรมเนียม 5,000 บาท ได้รับจริง 45,000 บาท โดยไม่ได้เขียนสัญญา หรือมีการเซ็นสัญญาแต่อย่างใดๆ แต่ให้ตนเซ็นชื่อไว้ ส่วนนายพงษ์ศักดิ์ ไม่ได้เซ็นชื่ออะไร และเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ผ่านมาได้โอนเงินไปตัดดอก 4,000 บาท ชื่อบัญชี น.ส.สุพิชฌาย์ ส่วนนายพงษ์ศักดิ์ เป็นคนรูปร่างท้วม สูงประมาณ 170 ซม.หนักประมาณ 70 กก.ผมหยักศก มีนวดเครา จึงอยากฝากขอเตือนประชาชนผู้ที่ลงเชื่อแก๊งมิจฉาชีพนี้ ส่วนรถเก๋งที่จำนำไว้ก่อนกำลังติดตามอยู่ว่าจะถูกนำไปเก็บหรือขายไปแล้วก็ไม่รู้ ถ้าเป็นคนทำมาหากินสุจริตจะต้องขับรถมาแลกเปลี่ยนกันเลย ทั้งที่เป็นรถเราทั้ง 2 คัน ยังมาถูกมันหลอกว่าจะขับรถฟอร์จูนเนอร์ไปเปลี่ยนเอารถเก๋งที่อู่มาคืนให้ แล้วก็เชิดรถหนีไป ถ้าไม่ได้ตำรวยกองปราบติดตามให้คงเสียรถไปทั้ง 2 คัน