“บ้านโนนสว่างเหนือปลอดเหล้า เปลี่ยนผู้ใหญ่บ้านขี้เมา เป็นคนใหม่”
บ้านโนนสว่างเหนือ ชุมชนขนาดใหญ่ที่มีประชากรหนาแน่น ห่างจากตัวอำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ แค่ 1 กิโลเมตร มีลักษณะของความเป็นชุมชนเมืองที่อยู่ท่ามกลางสภาพภูมิประเทศที่สวยงาม มีแหล่งน้ำสำหรับทำการเกษตรและท่องเที่ยวที่สำคัญ คือบึงโขงหลง บ้านโนนสว่างเหนือ ประชากรถึง 440 คัวเรือน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา ทำสวนยางพารา และรับจ้าง มีวัฒนธรรมประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชนเช่นเดียวกับชุมชนอื่นๆในภาคอีสาน
จากการสำรวจข้อมูลชุมชน พบว่ามีปัญหาเรื่องการดื่มเหล้าซึ่งส่งผลกระทบหลายอย่าง มีผู้ดื่มถึงร้อยละ 79.32 ซึ่งอยู่ในวัยทำงาน ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้นำชุมชน หรือผู้ใหญ่บ้าน ก็คือนักดื่มตัวยง
“ผู้ใหญ่บ้านกินเหล้า ทะเลาะกับเมียตลอด ทั้งๆที่เป็นคนดี จนได้รับเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้าน อาจเป็นเพราะบ้านผู้ใหญ่บ้านเป็นร้านค้า และจำหน่ายเหล้า จึงมีเพื่อนบ้านมานั่งกินด้วยที่บ้าน พอเมาแล้วนอน ทำให้ผิดนัดคนอื่นหรือเข้าประชุมไม่ทันบ่อยๆ” เสียงของคนในชุมชนได้สะท้อนถึงปัญหาที่เกิดขึ้น จากการมีผู้นำติดเหล้า
เมื่อผู้นำดื่มเหล้า ทำให้เรื่องการดื่มเหล้ากลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน รวมทั้งงานบุญประเพณีต่างๆ มักจะมีเหล้ามาเกี่ยวข้องเสมอ ทั้งงานบวช งานกฐิน งานศพ บุญบั้งไฟ งานลอยกระทง บุญผ้าป่า ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นถึงงานละ 40,000 บาท
ต่อมามีนักวิชาการสาธารณสุข ได้ชักชวนนายประยอม บุตรวังค์ ผู้ใหญ่บ้าน จัดตั้งสภาผู้นำชุมชนจากตัวแทนกลุ่มต่างๆในหมู่บ้านจำนวน 40 คน ขอรับการสนับสนุนจากโครงการร่วมสร้างชุมชนและท้องถิ่นให้น่าอยู่ เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาและพัฒนาชุมชนด้านต่างๆ ปัญหาเหล้า จึงถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นปัญหาแรก ที่ต้องร่วมมือกันแก้ไข แต่ก่อนจะทำงานเรื่องนี้ร่วมกัน ทุกคนต่างมองว่า ผู้นำชุมชน ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง ต้องเลิกเหล้า เพื่อเป็นต้นแบบให้คนอื่นๆในชุมชน
ด้านนายประยอม บุตรวังค์ ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่าเดิมตนดื่มเหล้าหนักมาก และชวนเพื่อนดื่มด้วยเพราะความเชื่อเดิมการเป็นผู้นำชุมชน ต้องทำงานร่วมกับชุมชนตลอด เมื่อเสร็จจากงานก็เลี้ยงเหล้าเพื่อนบ้านที่มาช่วยงาน ผลที่เกิดขึ้นคืออาการหลงๆลืมๆ ผิดนัด เข้าร่วมประชุมไม่ทัน ทั้งที่เป็นผู้นำและเป็นคนนัดหมายคนอื่น ลูกบ้านก็พูดให้ในทางไม่ดีว่าดื่มเหล้าแล้วเสียคน
“ตอนหายเมา บางครั้งก็ร้องไห้ เสียใจที่ไปต่อว่าคนอื่นในขณะเมา ดื่มเหล้านานๆไปก็เกิดอาการหลอนได้ยินเสียงหลอนต่างๆ มีอาการมือสั่น เหนื่อย เมื่อไม่ได้กินเหล้า วันแรกที่ไปอบรมเขียนโครงการขอทุนจากสสส.แอบนำเหล้าใส่ขวดเล็กๆไปด้วย เพราะติดเหล้า จึงคิดว่าต้องเลิกเหล้าให้ได้ เพราะทำงานโครงการสสส.เรื่องเลิกเหล้า และต้องเป็นต้นแบบให้คนอื่นให้ได้ เป็นแรงกดดันให้เลิกเหล้าได้จนถึงวันนี้”
การทำงานใช้หลากหลายกลยุทธ์เพื่อแก้ไขปัญหา ทั้งการสร้างสภาผู้นำชุมชน 40 คน ให้เป็นต้นแบบที่ดี การตั้งกติกาชุมชนและถือปฏิบัติร่วมกัน เช่น ห้ามขายห้ามดื่มในวันพระ ร้านค้าต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ทุกครัวเรือนต้องงดดื่มในวันพระหรือวันสำคัญทางศาสนา และห้ามขายห้ามดื่มในงานบุญประเพณีทุกงาน
นายศัตรูพ่าย คชราช นักวิชาการสาธารณสุข ศูนย์สุขภาพชุมชน รพ.บึงโขงหลง กล่าวถึงวิธีการทำงานว่าเน้นการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายในชุมชน ทั้งวัด หน่วยงานสาธารณสุข อสม. ผู้นำชุมชน และอปท. ซึ่งมีนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องนี้เช่นเดียวกัน ขับเคลื่อนการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาไปพร้อมๆกัน จนเกิดชุมชนโนนสว่างเหนือปลอดเหล้า
“จุดแข็งของชุมชนโนนสว่างเหนือเป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีงานบุญประเพณีตลอดทั้งปี จึงถือโอกาสรณรงค์เรื่องนี้ไปพร้อมๆกัน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมพี่น้องอสม.เคาะประตูบ้าน ช่องทางธรรมเทศนาจากเจ้าอาวาสวัดศิริมงคลวราราม ซึ่งเป็นส่งเสริมสุขภาพ รณรงค์อย่างต่อเนื่องจนถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของชุมชนที่นี่”
ด้านพี่หนูเล็ก อสม.ชุมชนโนนสว่างเหนือ เล่าว่ากิจกรรมอสม.เคาะประตูบ้านซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ช่วยให้ผู้ดื่มเหล้าเลิกดื่มเหล้าได้ คือการเดินเข้าไปในบ้านเพื่อพูดคุย ให้ความรู้ แนะนำวิธีการเลิกเหล้า และที่สำคัญ คือการให้กำลังใจนักดื่ม ให้ผู้ดื่มเหล้ามีกำลังใจลด ละ และเลิกเหล้าได้ในที่สุด
หนึ่งปีผ่านไป สิ่งที่ชุมชนได้จากการรวมพลังแก้ไขปัญหา คือ ได้ผู้ใหญ่บ้านคนใหม่ โดยนายประยอม บุตรวังค์ ได้เลิกเหล้าอย่างถาวร และในชุมชนมีผู้ลด ละ ได้ถึง 463 คน เลิกดื่มโดยเด็ดขาดถึง 32 คน มีบุคคลต้นแบบ ครัวเรือนต้นแบบ และร้านค้าต้นแบบ ขยายสู่การจัดงานศพปลอดเหล้าได้ถึง 9 งาน งานประเพณีปลอดเหล้าได้ถึง 16 งาน ประหยัดค่าใช้จ่ายซื้อเหล้าได้หลายแสนบาท
ส่วนความสุขของคนในครอบครัวผู้ใหญ่บ้าน นางติ๋ม บุตรวังค์ ภรรยา เล่าให้ฟังว่า มีความสุขมากขึ้น ไม่มีการทะเลาะกันเหมือนในอดีต ภูมิใจที่เลิกเหล้าแล้วกลับมาเป็นคนดี
“ทุกวันนี้สามีเลิกเหล้า เหมือนได้สามีใหม่” นางติ๋ม กล่าวทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้มเปื้อนหน้า
….. อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/605935‘>