LINE : ติดต่อผู้ดูแล

ยินต้อนรับเว็บไซต์ข่าวสารเพจข่าวท้องถิ่นบึงกาฬ

วันพฤหัสที่ 21 พฤศจิกายน 2024

เปิดปมขัดแย้ง หม่อมหลวง ใช้ปืนจ่อยิงเพื่อนบ้านดับ ก่อนลั่นไกตาม คาดแค้นถูกโพสต์ด่าบนเฟซบุ๊ก…

 

เปิดปมขัดแย้ง หม่อมหลวง ใช้ปืนจ่อยิงเพื่อนบ้านดับ ก่อนลั่นไกตาม คาดแค้นถูกโพสต์ด่าบนเฟซบุ๊ก ชาวบ้านเล่าวีรกรรม หม่อมหลวง หัวร้อน ไม่ยอมคน อ้างรู้จักคนใหญ่คนโต

แฉหม่อมหลวงโหด ยิงเบ้าตาเพื่อนบ้าน ทั้งที่ยกมือไหว้ขอชีวิต from Michell Davit on Vimeo.

กรณีหนุ่มใหญ่อ้างตัวเป็นหม่อมหลวง เมาแล้วทะเลาะกับเพื่อนบ้าน จนบานปลายมีเหตุยิงกันขึ้น ศพแรกคือนายอุทัย พรมมินทร์ อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตในสภาพสวมกางเกงยีนส์ขายาว ไม่สวมเสื้อ มีแผลถูกยิงเข้าบริเวณดวงตาข้างขวาทะลุออกหลัง 1 นัด ห่างออกไปราว 15 เมตร พบศพชายอ้างเป็นหม่อมหลวงวันชัย สายสนั่น อายุ 59 ปี นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้นถนน สภาพสวมเสื้อคอปกสีแดง กางเกงยีนส์ขายาว มีแผลถูกยิงเข้าบริเวณขมับข้างขวา 1 นัด ใกล้ตัวผู้ตายพบปืนสั้นชนิดลูกโม่ ขนาด.38 จำนวน 1 กระบอก เหตุเกิดเมื่อเย็นวานนี้ (4 ก.ค.) เวลาประมาณ 16.00 น. ในพื้นที่บ้านกลาง ม.8 ต.ชัยพร อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ

เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ลูกชายของผู้ตายทั้ง 3 คน ร่วมกับชาวบ้านก็ทำความสะอาดบริเวณจุดเกิดเหตุ นำทรายมากลบรอยเลือดและล้างทำความสะอาดพร้อมใช้น้ำมันราดจุดไฟเผาคราบเลือดลดกลิ่นคาวคละคลุ้ง

นายสิทธิพงษ์ วงศรีชา อายุ 56 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุและผู้ตายเคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน แต่นานหลายปีแล้ว เรื่องน่าจะจบแต่ไม่จบ เนื่องจากผู้ก่อเหตุไม่ยอมปล่อยวาง ผู้ก่อเหตุมาอาศัยอยู่กับภรรยาตั้งแต่ปี 2545 มักเป็นคนใจร้อน ไม่ยอมคน อ้างเป็นหม่อมหลวงรู้จักคนใหญ่คนโต แรกๆ ก็ช่วยมีส่วนร่วมกับชาวบ้านตลอด หลังมีความคิดไม่ถูกกับผู้นำชุมชน ทะเลาะเบาะแว้งกับชาวบ้านไปทั่ว อยากมีอภิสิทธิ์อยู่เหนือคนอื่น ข่มขู่จะยิงกับคนที่มีเรื่องด้วยประจำ วันเกิดเหตุก็มีการสังสรรค์กันที่บ้านของผู้ก่อเหตุ ก่อนจะทะเลาะกับผู้ตาย

ยายฉันอจิต อายุ 74 ปี แม่ยายของผู้ตายเล่าทั้งน้ำตาว่า ชาวบ้านกลางสมน้ำหน้าที่มันตาย เพราะมันข่มขู่ชาวบ้านไว้หมด ถ้าใครยุ่งกับกูกูจะฆ่าให้หมดทุกคน เวลาเมาก็ถือปืนออกมาท้าดวลกับชาวบ้าน กับผู้นำชุมชน เวลาผ่านหน้าบ้านก็จะด่าอีเ-ี้ย อี-ัตว์ แม้แต่ผู้หญิงมันก็ไม่เว้น ถ้าไม่ตายบ้านกลางไม่เจริญ ตายไปชาวบ้านก็ดีใจ หมู่บ้านจะได้สูงขึ้น หลังเกิดเหตุยิงลูกเขย มันก็เดินวนรอบไม่ให้ใครเข้าไปใกล้ แม้กระทั่งผู้ใหญ่บ้าน พร้อมขู่ใครเข้ามามึงตาย ลูกเขยยกมือไหว้ขอโทษขอชีวิต ผมขอโทษ มันก็ไม่ฟัง ยังยิงมัน หลานชาย 3 คนยังเรียนอยู่ใครจะมาเลี้ยง ยอมยกมือขอชีวิตแล้วยังต้องฆ่ากันอีก

โดยนางสวนสน อายุ 46 ปี ภรรยานายอุทัย กล่าวว่า ปกติแล้วผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นหม่อมหลวงเป็นคนชอบดื่มสุราเสียงดังในหมู่บ้านเป็นประจำ ใครก็ไม่กล้าตักเตือน ยิ่งเฉพาะเวลามีตำรวจมานั่งสังสรรค์ด้วย ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน เมื่อหลายปีที่ผ่านมาตนและสามี ทนเห็นการกระทำของคนชายที่อ้างว่าเป็นหม่อมหลวงไม่ไหว ตนจึงโพสต์ลงในเฟซบุ๊กต่อว่า ในเมื่อตัวเองเป็นถึงหม่อมหลวงแล้ว จะกินเหล้าเมายา ก็อย่าให้รบกวนชาวบ้านมากนัก ใครก็กินเหล้ากันได้แต่ว่า กินแล้วให้มีมารยาทหน่อย อย่าเสียงดังรบกวนชาวบ้านมากนัก เมื่อหม่อมหลวงและแฟนเห็นไม่พอใจ ต่อว่าในเฟซเข้ามาเช่นกัน และตนจึงลบโพสต์ดังกล่าวออกไป เวลาที่พวกตนเดินผ่านหรือขับรถผ่านบริเวณสี่แยก บ้านผู้ก่อเหตุที่เปิดเป็นร้านขายของชำ ก็จะถูกต่อว่าหรือตะโกนด่าหยาบคายตลอด แต่ก็อดทนไม่แยแสมาตลอด

กระทั่งก่อนเกิดเหตุสามีตนซึ่งก็เดินผ่านหน้าบ้านแกอีกครั้ง จึงเกิดมีปากเสียงท้าตีท้าต่อยกัน ซึ่งหม่อมหลวงก็สู้ไม่ไหว จึงวิ่งเข้าไปเอาปืนพกสั้นออกมา จังหวะนั้นสามีกำลังจะเดินกลับมาใกล้จะถึงบ้านแล้ว ถูกหม่อมหลวงวิ่งเอาปืนไปข่มขู่ จะฆ่าให้ตาย จนสามีตนก็ยกมือไหว้ ยอมแล้วขอโทษขอให้ไว้ชีวิต แต่หม่อมหลวงหัวร้อนยิงเข้าเบ้าตาสามีจนล้มลงกับพื้น

จากนั้นก็ยังยืนเฝ้าสามีที่นอนหายใจรวยรินคุมเชิงอยู่ไม่ห่าง จากนั้นก็พยายามตามหาตัวตนเพื่อจะยิงทิ้งเหมือนกัน แต่ตัวเองก็ขับรถหนีไปก่อนตั้งแต่มีเรื่องทะเลาะกัน และกลับมาเห็นตอนที่สามีถูกยิงแล้ว ซึ่งผู้ก่อเหตุห้ามใครเข้ามาใกล้ หรือมาช่วยเหลือเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะยิงคนที่เข้ามาให้ตายตามไป โดยตนเองยืนยันที่จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะทนกับครอบครัวนี้มานาน ซึ่งชาวบ้านก็เห็นด้วย

นายดำรงค์ อายุ 50 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ได้ยินเสียงทะเลาะกันก็เลยออกมาดู โดยลุงศาล อีกคนก็วิ่งเข้าไปห้ามและแยกออกจากกัน ซึ่งก็แยกย้ายกันแล้ว นายอุทัย ผู้ตายกำลังเดินกลับมาบ้าน หม่อมหลวงผู้ก่อเหตุก็วิ่งไปเอาปืนมายิงนายอุทัย ยายที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ผู้ตายยกมือขอโทษว่าผมผิดไปแล้วผมขอโทษ ผู้ก่อเหตุก็ไม่ฟังยิงเข้าเบ้าตาเลย ตัวเองก็รีบไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน พอมาก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปเพราะผู้ก่อเหตุถือปืนลูกซองอยู่ ไม่ให้ไปยุ่งกับศพเลย ส่วนปืน .38 ก็เหน็บอยู่เอวตลอด จากนั้นก็มีตำรวจมาเกลี้ยกล่อม ช่วงนั้นตำรวจจาก สภ.เมืองบึงกาฬ มาถึงที่เกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุก็ยกปืนยิงขมับตัวเองทันที ส่วนชาวบ้านที่รู้ข่าวต่างก็พูดเสียงเดียวกันว่า ดีใจที่หม่อมหลวงวันชัย ที่เปรียบเสมือนขาใหญ่ในหมู่บ้านเลือกจบชีวิตตัวเองหนีความผิด

ด้าน ร.ต.อ.รัฐพล เดชนรสิงห์ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองบึงกาฬ กล่าวว่า ศพบุคคลทั้งสองหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและพิสูจน์หลักฐานชันสูตรแล้ว จะเก็บศพไว้ที่โรงพยาบาลบึงกาฬก่อน ต้องรอคิวและพรุ่งนี้ถึงจะส่งไปผ่าพิสูจน์และหัวกระสุนออก ที่สถาบันนิติเวชขอนแก่น ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างเรียกญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ฝ่าย และชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ มาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุหรือแรงจูงใจที่หม่อมหลวงวันชัยก่อเหตุสลดในครั้งนี้

… อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/region/news_4718674

ข่าวกู้ภัย-อาชญากรรม ล่าสุด

ไอซ์ 285 กก. ซุกกระสอบวางทิ้งที่ริมโขง ‘เกรดต่ำ’ จนตรวจไม่เจอสารเสพติด ต้องส่งแล็บถึงรู้..

ไอซ์ 285 กก. ซุกกระสอบวางทิ้งที่ริมโขง ‘เกรดต่ำ’ จนตรวจไม่เจอสารเสพติด ต้องส่งแล็บถึงรู้..

ไอซ์ 285 กก. ซุกกระสอบวางทิ้งที่ริมโขง ‘เกรดต่ำ’ จนตรวจไม่เจอสารเสพติด ต้องส่งแล็บถึงรู้ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.บึงกาฬ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดบึงกาฬ พ.ต.อ.จรูญศักดิ์ ลำพุทธา ผกก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด ลักลอบนำยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ โดยใช้เส้นทางผ่านพื้นที่บ้านห้วยดอกไม้ ต.โคกก่อง อ.เมืองบึงกาฬ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และนำกำลังเข้าดักซุ่มตามพื้นที่ต่าง ๆ เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังออกลาดตระเวนไปตามชายฝั่งตลอดริมแม่น้ำโขง ตากทางทิศใต้ของหมู่บ้าน ปรากฏว่า พบกระสอบสีขาวถูกวางอยู่ที่บริเวณริมน้ำจำนวน 11 กระสอบห่างจากปากห้วยดอกไม้ประมาณ

ข่าวเด่นบึงกาฬ