ศึกเลือกตั้งนายก อบจ.บึงกาฬ นัดล้างตามวยคู่เอก เพื่อไทย VS ภูมิใจไทย
สนามเลือกตั้งนายก อบจ.บึงกาฬ ครั้งนี้น่าจับตาอย่างยิ่ง เมื่อ นางแว่นฟ้า ทองศรี ภรรยาของ นายทรงศรี ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แห่งพรรคภูมิใจไทย สายตรง นายเนวิน ชิดชอบ ลงป้องกันเก้าอี้นายก อบจ. ซึ่งมีฐานเสียงแน่นปึกจากนักการเมืองท้องถิ่นทั้ง 8 อำเภอ ไล่ตั้งแต่ผู้ใหญ่บ้าน ยันนายกเทศมนตรี
ด้าน พรรคเพื่อไทย ส่ง ว่าที่ร้อยตรี ภูมิพันธ์ บุญมาตุ่น อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 และเมื่อปี 2563 ยังเคยสวมเสื้อ “คณะก้าวหน้า” ลงสมัครนายก อบจ.มาก่อนแล้วรอบหนึ่ง แต่ก็พ่ายให้กับ นางแว่นฟ้า ทองศรี ลงชิงเก้าอี้ในครั้งนี้
ภูมิพันธ์ บุญมาตุ่น
เมื่อครั้งเลือกตั้งนายก อบจ.บึงกาฬ เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2563 ผลคะแนนอันดับ 1 คือ นางแว่นฟ้า ทองศรี ที่มีแรงผลักดันจากพรรคภูมิใจไทย ทุบทุกสถิติที่มีการเลือกตั้งมาด้วยคะแนนเสียง 105,478 คะแนน อันดับ 2 ว่าที่ร้อยตรี ภูมิพันธ์ บุญมาตุ่น จากคณะก้าวหน้า ได้ 34,917 คะแนน อันดับที่ 3 นายนิพนธ์ คนขยัน อดีตนายก อบจ.บึงกาฬ ได้ 26,274 คะแนน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งร้อยละ 63.15 % บัตรเสีย 7,901 ใบ คิดเป็นร้อยละ 3.92% บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 3,881 ใบ คิดเป็นร้อยละ 1.92%
เดิมที บึงกาฬ เป็นพื้นที่ของ พรรคเพื่อไทย มาโดยตลอด มี ส.ส.เขต 2 คน แต่การเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อปี 2566 จ.บึงกาฬ ได้เพิ่มขึ้นมาอีก 1 เขต เป็น 3 เขตเลือกตั้ง ทำให้การแข่งขันชิงเก้าอี้ดุเดือดมากขึ้น
ผลปรากฏว่า พรรคภูมิใจไทย ชิงพื้นที่ ส.ส.ได้ถึง 2 เขต ส่วนพรรคเพื่อไทยรั้งไว้ได้เพียง 1 เขต ถือเป็นการเสียพื้นที่ ส.ส.เขต ครั้งแรกให้กับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งก่อนหน้านี้พรรคภูมิใจไทยก็คว้าเก้าอี้นายก อบจ.มาแล้ว
ขณะที่ พรรคภูมิใจไทย โดย เนวิน ชิดชอบ ใช้เวลา 10 ปี มอบให้ “เสี่ยป้อม” ทรงศักดิ์ มาตอกเสาเข็มสีน้ำเงินที่ จ.บึงกาฬ ผู้ผลักดันจัดตั้ง อ.บึงกาฬ ให้เป็นจังหวัดที่มีความเจริญก้าวหน้า พัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ส่ง นางแว่นฟ้า ทองศรี ลงสมัครนายกอีกครั้ง พร้อมที่จะเดินหน้าหาเสียงชูนโยบาย งัดกลยุทธ์ต่างๆ มาขอคะแนนกับชาวบึงกาฬ ใช้สโลแกนบึงกาฬต้องพัฒนา ขอโอกาส “ตน บึงกาฬ” สร้างบึงกาฬ เพื่อคนบึงกาฬ
แว่นฟ้า ทรงศรี
ครั้งนี้ พรรคเพื่อไทย หวังคว้าชัยเต็มที่ ส่ง ว่าที่ร้อยตรี ภูมิพันธ์ บุญมาตุ่น ชิงเก้าอี้ ชูสโลแกน “เราพร้อมเชื่อรัฐบาลพัฒนาท้องถิ่น” พร้อมนโยบาย 4 ด้าน ประกอบด้วย 1.การเกษตรการค้า นวัตกรรมยางพารา 2.การท่องเที่ยว 3.การสร้างคน สร้างอาชีพ สร้างการศึกษาสู่สากล และ 4.การพัฒนาระบสาธารณสุข สิ่งแวดล้อมและสังคม เพื่อมาขอคะแนนเสียงกับชาวบึงกาฬอีกครั้ง
สำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.บึงกาฬ ครั้งนี้มี 3 คน ประกอบด้วย เบอร์ 1 ว่าที่ร้อยตรี ภูมิพันธ์ บุญมาตุ่น จากพรรคเพื่อไทย เบอร์ 2 นายฉัตราวุฒิ ทองสัมฤทธิ์ ผู้สมัครอิสระ และเบอร์ 3 นางแว่นฟ้า ทองศรี จากบ้านใหญ่สีน้ำเงิน
สนามเลือกตั้ง นายก อบจ.บึงกาฬ เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ พรรคเพื่อไทย หนักใจไม่น้อย หากเทียบกับการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา เพื่อไทย คว้า ส.ส.ได้แค่คนเดียว ทำให้อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงนายก อบจ.ของพรรคเพื่อไทย จัดคิวลงพื้นที่ปราศรัยใหญ่ หาเสียงช่วย ว่าที่ร้อยตรี ภูมิพันธ์ บุญมาตุ่น ผู้สมัครนายก อบจ.บึงกาฬ หมายเลข 1 ในวันที่ 19 มกราคม เวลา 08.00 น ที่โรงเรียนมัธยมบึงกาฬ
นายบุญเพ็ง ลามคำ ประธานหอการค้าจังหวัดบึงกาฬ ร่วมวิเคราะห์สนามเลือกตั้งนายก อบจ.บึงกาฬ ว่ามี 2 พรรคใหญ่ต่อสู้กัน เหมือนกับเป็นมวยคู่เอก ระหว่าง “เพื่อไทย” กับ “ภูมิใจไทย” ในสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อไทยอาจได้แรงผลักดันจากกระแสของพรรค สำหรับ “ภูมิใจไทย” ถือว่าเป็นอีกพรรคใหญ่ที่คุมพื้น จ.บึงกาฬ โดยเฉพาะ มีทีมงานเก่า ไม่ว่าจะเป็น ส.ส. รวมไปถึงท่านรัฐมนตรีที่อยู่ในพื้นที่ด้วย
“ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องทำให้ท่านอดีตนายกฯทักษิณต้องลงมาช่วยลูกทีมในพื้นที่ เสริมพลัง เสริมทัพครั้งยิ่งใหญ่ในวันที่ 19 ม.ค. นับเป็นเส้นทางทางการเมืองที่น่าจะต่อสู้กันรุนแรงพอสมควร ทั้งนี้ หลังวันที่ 19 ม.ค. หลังจากอดีตนายกฯปราศรัยหาเสียงคงได้วิเคราะห์ต่อไปว่าจะเป็นยังไง ทั้งสองฝ่ายจะแก้เกมกันยังไง ฝ่ายสีน้ำเงินก็คงไม่ยอมเหมือนกัน เพราะถือว่าเป็นทีมนักการเมืองที่ครองพื้นที่มามากพอสมควร อย่างไรก็ดี การที่อดีตนายกฯลงพื้นที่ ความคิดเห็นส่วนตัวก็น่าจะช่วยได้มากพอสมควร การหาเสียงได้ใจชาวบ้าน” นายบุญเพ็งระบุ
นัดล้างตาสนามเลือกตั้งนายก อบจ.ครั้งนี้ “นายใหญ่” สู้ “บ้านใหญ่” แต่จะคว้าเก้าอี้นายกกลับมาได้หรือไม่ เรียกได้ว่าฝ่ายหนึ่งแพ้ไม่ได้ อีกฝ่ายหนึ่งต้องชนะให้ได้
สุดท้ายอยู่ที่ปลายปากกาพี่น้องชาวบึงกาฬ…