สลด! หนุ่มใหญ่บึงกาฬซดยาฆ่าแมลงดับคาสวนยางพารา คาดน้อยใจเมียแอบไปสักคิ้วถาวรสวยขึ้นจนผัวรับไม่ได้ กลัวมีชู้

วันที่ 9 ก.พ. ร.ต.อ.ประยูร ไชยเพชร รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ดอนหญ้านาง จ.บึงกาฬ ได้รับแจ้งเหตุฆ่าตัวตาย ที่สวนยางพาราเขตพื้นที่บ้านนาซาว หมู่ 5 ต.หนองหัวช้าง อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร ร.พ.บึงกาฬ และหน่วยกู้ภัยมังกรบึงกาฬ

ที่เกิดเหตุเป็นสวนยางพาราห่างจากหมู่บ้านประมาณ 5 กิโลเมตร พบศพนายอำไพ เกี้ยงศรี อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120 หมู่ 4 ต.คำนาดี อ.เมือง จ.บึงกาฬ นั่งฟุบหน้าเสียชีวิตคากล่องเบียร์ใต้เถียงนาในสวนยางพารา สภาพศพน้ำลายฟูมปาก คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 ชั่วโมง ใกล้กันพบขวดเบียร์เปล่าถูกเปิดดื่มกินไปแล้ว 10 ขวด และยังเหลือขวดเบียร์ที่ยังไม่ดื่มอีก 2 ขวด โดยมีขวดแบรนด์ตกอยู่ใกล้ๆ มีกลิ่นยาฆ่าแมลงติดอยู่ในขวด คาดว่าผู้ตายใช้ดื่ม เพื่อฆ่าตัวตาย เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมรายละเอียดไว้ไปตวรจสอบ

จากการสอบสวนญาติผู้ตายทราบว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณ 2 อาทิตย์ ได้มีช่างสักคิ้วถาวรมาเดินสายสักคิ้วให้สาวๆ ภายในหมู่บ้าน โดยใช้เงินเพียง 1,500 บาท จากนั้นนางเสถียร เกี้ยงศรี อายุ 42 ปีภรรยาของผู้ตาย จึงขอนายอำไพ ไปสักบ้าง แต่นายอำไพ ไม่ยอม โดยบอกว่าสวยแบบธรรมชาติน่ะดีแล้ว ไม่ต้องไปแต่งเติมอะไรอีก ถึงอย่างไรก็รักเหมือนเดิม แต่เมื่อเพื่อนที่สักไปก่อนแล้วสวยขึ้นผิดหูผิดตา และเป็นการเสริมโหงวเฮ้งให้ดูดีขึ้น นางเสถียร จึงไปสักบ้าง

แต่เมื่อนายอำไพ เห็นนางเสถียรสักคิ้วมา จึงต่อว่านางเสถียร ว่าไม่เชื่อฟังกันหรือไร ประกอบกับมีเพื่อนนายอำไพ ได้พูดหยอกล้อเล่นว่า นางเสถียร สวยขึ้นแล้วหลังจากสักคิ้วถาวร แล้วจะมัวไปนอนเฝ้าสวนยางและเผาถ่านขายอยู่แต่ในสวนยางนั่นแหละ ไม่ใช่เมียมีกิ๊กแล้วเหรอ จึงทำให้นายอำไพ เกิดคิดมากและน้อยใจที่นางเสถียรไม่เชื่อฟัง วันเกิดเหตุได้ซื้อเบียร์ไป 1 ลัง พร้อมกับซื้อยาฆ่าแมลงเทใส่ขวดแบรนด์ติดตัวไปนอนในสวนยางด้วย ก่อนกินเบียร์ย้อมใจแล้วซดยาฆ่าแมลงฆ่าตัวตายดังกล่าว

เบื้องต้นญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต คาดว่าน่าจะเกิดความน้อยใจและคิดมาก ประกอบกับระยะหลังผู้ตายมักมีอาการซึมเศร้าเนื่องจากเพิ่งประสบอุบัติเหตุ รถจยย.คว่ำมา จึงก่อเหตุดังกล่าว หลังจากนั้นจึงส่งศพไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ก่อนมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนาต่อไป

ข่าว ข่าวสดออนไลน์อ่านข่าวได้ที่  https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_213220‘>