อ.เซกาสลด รถโม่ปูนเหยียบ 2 ศพ ยายเอาตัวป้องหลาน 3 ขวบ ถูกทับแหลกทั้งคู่ (ชมคลิป)

เหตุสยองที่บึงกาฬ ยายพาหลานสาว 3 ขวบซ้อนรถจยย.ออกไปเก็บยางก้อนถ้วย ระหว่างทางมีรถโม่ปูนวิ่งตามหลังชนท้าย และเหยียบซ้ำจนไส้ทะลักขาขาดทั้ง 2 ศพ หลานอีกคนอาการสาหัส สุดอนาถสภาพศพยายอยู่ในท่าโอบกอดปกป้องหลาน แต่ไม่รอดทั้งคู่…

[videojs mp4=”http://www.thairath.co.th/video/2017/03/05/106667/hls_index.m3u8″ width=”640″ height=”360″ autoplay=”true” preload=”true”]

เวลา 06.30 น. วันที่ 5 มี.ค. ร.ต.อ.เกรียงไกร ศรีวงษ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.โสกก่าม อ.เซกา จ.บึงกาฬ รับแจ้งเหตุรถบรรทุก 10 ล้อโม่ปูนคอนกรีตผสมเสร็จชนรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิต 2 คนบาดเจ็บ 1 คน ที่ถนนลูกรังระหว่างบ้านโนนสวนหมอน-บ้านตาด ต.บ้านต้อง อ.เซกา จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชารุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.อุทัย อ่อนยิ้ม สวญ. แพทย์หญิงสุริศา ลาภเอกอุดม แพทย์เวร รพ.เซกา และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างศรีวิไลและกู้ภัยวีอาร์บึงกาฬ

ที่เกิดเหตุพบศพนางสมฤดี คำจันทร์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 222 หมู่ 7 บ้านหนองบัวแพร ต.ถ่อน อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร สภาพถูกรถโม่ปูนชนและเหยียบซ้ำเข้าที่หน้าท้องจนไส้แตกทะลักออกมากองอยู่ข้างนอก ขาทั้ง 2 ข้างก็ถูกเหยียบจนขาดออกจากลำตัว ส่วนแขนทั้ง 2 ข้างสวมกอดคล้ายจะปกป้องเด็กหญิงสุภัชชา เพชรแท้ อายุ 3 ปี หลานสาวที่ซ้อนมาด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้รถโม่ปูนเหยียบ แต่ก็ถูกเหยียบตายไปอีกคนสภาพศพไม่ต่างกัน เสียชีวิตอย่างน่าสยดสยองทั้ง 2 ศพ ส่วนผู้บาดเจ็บร้องครวญครางขอความช่วยเหลือ ทราบชื่อเด็กหญิงวารุณี เสนนันตรา อายุ 10 ปี รีบนำส่ง รพ.เซกา

ห่างไป ที่ไหล่ถนนพบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีเขียวขาว ทะเบียน กยธ 356 สกลนคร ถูกชนท้ายสภาพพังยับ ด้านหน้าห่างออกไป 5 เมตร พบรถบรรทุก 10 ล้อโม่ปูนคอนกรีตผสมเสร็จ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาวแดง ทะเบียน 70-3610 สมุทรสาคร ยังมีปูนอยู่เต็ม จอดกลางถนน

สอบสวน นายอุทัย คำจันทร์ สามีนางสมฤดี ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้ขี่รถจักรยานยนต์พาหลานสาว 2 คนออกจากบ้านมาช่วยเก็บยางก้อนถ้วย ถึงที่เกิดเหตุเป็นทางโค้ง รถ 10 ล้อวิ่งตามหลังมาจะแซงเกิดเสียหลักและเบรกไม่ทัน จึงชนแล้วเหยียบซ้ำทำให้ภรรยาและหลานสาวเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนคนขับรถโม่ปูนทราบชื่อเล่นว่านายแลน ไม่ทราบนามสกุล หลังเกิดเหตุเปิดประตูรถวิ่งหลบหนีเข้าป่าสวนยางพารา เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตามตัวมาดำเนินคดีในข้อหาขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตและบาดเจ็บต่อไป.’>