เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 30 เมษายน ร.ต.อ.เกรียงไกร ศีรพงษ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.โสกก่าม อ.เซกา จ.บึงกาฬ ได้รับแจ้งจากนายอ๋อย โพธิ์คนัน ผู้ใหญ่บ้านบ้านโนนสำราญ ม.7 ต.โสกก่าม ว่ามีพระธุดงค์อยู่ในเขตหมู่บ้านได้ไปเก็บสมุนไพรที่ห้วยน้ำขุ่น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัวโดนช้างไล่เหยียบจนมรณภาพ จึงได้รายงานให้ พ.ต.ท.อุทัย อ่อนยิ้ม สวญ.สภ.โสกก่าม ทราบพร้อมรุดไปตรวจสอบพร้อม พญ.ธนานันทน์ หอมแพน แพทย์เวร รพ.เซกา กู้ภัยสว่างจุดบึงโขงหลงและโสกก่าม
เมื่อไปถึงพบว่าชาวบ้านได้ร่วมกันนำศพพระอ่อน โสบุญ (ชินวโส) อายุ 64 ปี มาไว้ที่สำนักสงฆ์ดานสูง ม.7 บ้านโนนสำราญ ต.โสกก่าม แล้ว จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่า พระอ่อนได้ขึ้นไปธุดงค์ปักกลดภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัวมาหลายวันแล้ว โดยชาวบ้านจะเอาข้าวปลาอาหารไปถวายในทุกเช้า แต่พอมาเช้าวันนี้ชาวบ้านนำอาหารขึ้นไปถวายกลับพบเป็นศพนอนมรณภาพอยู่
ภายในบริเวณพบร่องรอยของเท้าช้างทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ซึ่งคาดว่าพระถูกช้างป่าเหยียบจนเสียชีวิต จึงได้ร่วมกันนำศพพระอ่อนลงมาไว้ที่สำนักสงฆ์ดังกล่าว
แพทย์เวร รพ.เซกาได้ชันสูตรศพพบว่าพระอ่อนซี่โครงหักทิ่มปอดทำให้เลือดออกที่ช่องท้องจึงเป็นเหตุให้มรณภาพในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดต่อญาติมอบศพให้นำไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป
นายทวีป คำแพงเมือง ผอ.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว เจ้าของพื้นที่เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์พระถูกช้างป่าทำร้ายจนเสียชีวิตในครั้งนี้ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัวก็ได้นำปัจจัยส่วนหนึ่งไปร่วมทำบุญกับพระที่มรณภาพเพื่อเป็นการช่วยเหลือตามประเพณีด้วย ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ติดป้ายประกาศตลอดทั้งการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ เช่นหอกระจายข่าวหมู่บ้านว่า ห้ามประชาชนขึ้นไปบนภูวัวโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างเด็ดขาด หากฝ่าฝืนถือว่ามีความผิด เนื่องจากเป็นการรบกวนสัตว์ป่า และอาจถูกทำร้ายจากช้างป่าที่มีอยู่กว่า 50 ตัวได้ แต่ก็ยังมีการลักลอบขึ้นไป ถึงแม้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัวจะจัดชุดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนคอยติดตามดูทั้งช้างป่าและคนที่จะลักลอบขึ้นไปแต่ก็ไม่ทั่วถึง
‘>