[videojs mp4=”http://www.mediastudio.co.th/wp-content/uploads/2017/08/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94-%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%86%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%9A%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A7.m4v” poster=”http://www.mediastudio.co.th/wp-content/uploads/2017/08/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94-%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%86%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%9A%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A7-05-640×360.jpg” width=”640″ height=”360″]
จากกรณีนายบรรพจน์ หรือบัน คำโคตร อายุ 52 ปี ชาวบ้านโนนสมบูรณ์ ต.โนนสมบูรณ์ อ.เมือง จ.บึงกาฬ ถูกคนร้ายใช้ค้อนทุบหัวจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนลากร่างลงไปในนาข้าว แล้วชิงเงินที่ได้จากการขายวัวจำนวน 3.8 หมื่นบาท หลบหนีไป กระทั่งมีชาวบ้านมาพบก่อนพาส่งโรงพยาบาลแล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดบริเวณถนนระหว่างหมู่บ้านโคกสวาง หมู่ 6 ต.นาสวรรค์ กับบ้านทรายทอง หมู่ 13 ต.โนนสมบูรณ์ อ.เมือง จ.บึงกาฬ เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว ฆ่าโหด! ดักกลางทางใช้ค้อนทุบหัว ปล้นเงิน 4 หมื่น สุดเหี้ยมหิ้วทิ้งทุ่งนาปล่อยให้จมน้ำตาย
ความคืบหน้าวันที่ 30 ส.ค. พล.ต.ต.ทิวา บุญดำเนิน ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ ได้เรียกประชุม นายตำรวจที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามจับกุมคนร้าย โดยมี พ.ต.อ.อนุกูล ดาวลอย ผกก.สภ.เมืองบึงกาฬ พ.ต.ท.สันติ บุญชู รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.จรูญศักดิ์ ลำพุทธา รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ฉายยนต์ ชาวดอน รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.เสกสรร บาอุ้ย สวป. พ.ต.ต.พสุชา บุตรเชียงคำ สว.สส. ร.ต.อ.ไพบูลย์ พรมมาหล้า รอง สว.สส. และ พ.ต.ท.อดุลย์ ฉิมทับ สว.กก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ เข้าร่วมประชุม
ต่อมาชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 3 คน ที่นั่งดื่มเหล้าด้วยกันที่บ้านของนายสมยงค์ หรือยงค์ เหลาทอง อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 82 หมู่ 5 บ้านแสนสุข ต.นาสวรรค์ อ.เมือง จ.บึงกาฬ และแยกย้ายจากกัน ก่อนที่นายบรรพจน์ จะถูกฆ่าชิงทรัพย์บนถนนกลางทุ่งนา โดยทั้ง 3 คน เป็นญาติใกล้ชิดกัน หลังการสอบสวนเค้นหาความจริงตลอดทั้งวัน นายสมยงค์ จึงยอมเปิดปากรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือฆ่านายบรรพจน์ โดยทำคนเดียวไม่เกี่ยวกับคนอื่น
นายสมยงค์ ให้การโดยอ้างว่า ตนกับผู้ตายเป็นญาติกัน โดยคืนเกิดเหตุหลังจากนั่งดื่มสุราด้วยกันจนเมาได้ที่ ผู้ตายได้ควักเงิน 38,000 บาท ออกมาจากระเป๋าเสื้อด้านหน้ามาวางกลางวงเหล้า บอกว่า “เพิ่งขายวัวได้เงินเยอะแยะจะกินเท่าไหร่ ชาตินี้คงใช้ไม่หมด” ทำให้คิดอยากได้เงินไปรักษาภรรยาที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน จึงเอ่ยปากขอยืมผู้ตายแต่ถูกปฏิเสธ หลังจากเลิกดื่มกิน จึงได้ขี่รถจักรยานยนต์สะกดรอยตามหลังไป
เมื่อถึงที่เกิดเหตุผู้ตายสงสัยว่ามีใครขี่รถตามจึงหยุดรถกลางถนน เป็นจังหวะที่ตนตามไปทัน จึงหยิบค้อนปอนด์ที่เตรียมไปด้วยทุบเข้าท้ายทอย 1 ที พอรถล้มลงจึงตีซ้ำอีกครั้ง เข้าใจว่าตายแล้วจึงค้นเอาเงิน 38,000 บาท และเงินในกระเป๋ากางเกงยีนที่ผู้ตายสวมใส่ได้เงินประมาณ 4 หมื่นบาท ส่วนโทรศัพท์มือถือของผู้ตายได้โยนลงน้ำในนาข้าวพร้อมกับค้อนปอนด์ ก่อนจะลากนายบรรพจน์ ที่สลบไปทิ้งทุ่งนาข้างทาง แล้วขี่รถกลับไปอาบน้ำที่บ้านเข้านอนตามปกติ กระทั่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปค้นหาของกลางตามคำรับสารภาพ ได้เงินสด 37,000 บาท ซ่อนอยู่ใต้ตู้เย็นบนบ้าน โทรศัพท์มือถือของผู้ตายและค้อนปอนด์ทิ้งลงนาข้าวห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 10 เมตร
พล.ต.ต.ทิวา เปิดเผยว่า คดีนี้ปิดคดีได้เร็วแค่เพียงข้ามคืนก็จับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว เนื่องจากผู้ใต้บังคับบัญชาทุกส่วนได้ให้ความใส่ใจติดตามกดดันฆาตกรอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติงานอย่างรวดเร็วจนผู้ต้องหาขยับตัวหนีไม่ทัน หลังการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพจึงแจ้งข้อหาว่าชิงทรัพย์ผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ก่อนที่จะคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมีชาวบ้านที่รู้ข่าวต่างพากันมามุงดูและสาปแช่งต่างๆ นานา ว่าเป็นญาติกันแท้ๆ ยังทำลงได้
[videojs mp4=”http://clip.tnews.co.th/newscenter_1504088148_3143.mp4″ poster=”https://www.khaosod.co.th/wp-content/uploads/2017/08/%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%9A%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A72-696×392.jpg” width=”640″ height=”360″]
เกิดเหตุชายวัยกลางคนชาวบึงกาฬถูกคนร้ายใช้ค้อนทุบหัวชิงเงินสดที่ขายวัวมาได้เกือบ 4 หมื่นบาท ล่าสุดตำรวจรวบตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้แล้ว ปรากฏว่าเป็นหลานแท้ๆของผู้ตาย ซึ่งวันนี้ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำสารภาพ
ตำรวจควบคุมตัวนายสมยงค์ เหลาทอง วัย 48 ปี ไปทำแผนประกอบคำสารภาพ หลังก่อเหตุใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวนายบรรพต คำโคตร วัย 52 ปี ซึ่งเป็นลุงแท้ๆของตัวเองเสียชีวิต ระหว่างนายบรรพตขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านบริเวณชายทุ่งในตำบลนาสวรรค์ อำเภอเมืองบึงกาฬ
ตำรวจเปิดเผยว่า ในเบื้องต้น หน่วยกู้ภัยที่เข้าตรวจสอบสภาพศพ แจ้งว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่เมื่อลงพื้นที่เก็บหลักฐาน กลับพบหลักฐานบางอย่าง ที่บ่งชี้ว่าน่าจะเป็นการถูกฆาตกรรม ไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดา
ตำรวจควบคุมตัวนายสมยงค์ ในฐานะผู้ต้องสงสัยรายสำคัญมาสอบปากคำ หลังมีพยานให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุนายสมยงค์อยู่กับลุงของเขา เป็นคนสุดท้าย แต่นายสมยงค์ยังคงปฏิเสธ กระทั่งตำรวจพบของกลาง คือ ค้อน และมือถือของผู้ตายตกในจุดเกิดเหตุ จากนั้นจึงควบคุมตัวนายสมยงค์ไปค้นบ้านพัก ก่อนจะพบเงินสดทั้งหมด 37000 บาทของผู้ตายซุกซ่อนไว้ ซึ่งถือเป็นหลักฐานมัดตัวผู้ต้องหารายนี้
เมื่อจำนนด้วยหลักฐาน นายสมยงค์ ยอมรับสารภาพว่าดื่มสุราอยู่กับลุงและเพื่อนสนิทอีก 1 คน โดยลุงได้นำเงินเกือบ 4 หมื่นบาทจากการขายวัวมาโชว์กลางวงเหล้า หลังแยกย้ายกันกลับบ้าน เขาจึงขี่รถจักรยานยนต์ติดตาม ก่อนใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวนายบรรพต จนเสียชีวิตแล้วหลบหนี
ผู้ต้องหาอ้างว่าสาเหตุที่ต้องฆ่าชิงเงินเพราระหว่างดื่มสุราด้วยกัน เขาได้ขอยืมเงินเพราะเห็นว่าลุงมีเงินค่อนข้างมาก แต่ถูกปฎิเสธทำให้โมโห
คดีนี้ตำรวจสามารถตามจับผู้ต้องหาได้ หลังรับแจ้งเหตุไม่ถึง 6 ชั่วโมง โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดนไตร่ตรองไว้ก่อน และชิงทรัพย์จนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ชนะชัย แก้วผาง
รายงาน
‘>