บึงกาฬ กระบะชนกลางสี่แยก ก่อนเสียหลักพุ่งเข้าชนแม่ค้าหมูสะเต๊ะสาหัส

มื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 1 ธ.ค.ร.ต.อ.ชลธี เสาศิริ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองบึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถกระบะชนกันบริเวณสี่แยกธรรมนูญ ถนนบึงกาฬ ตัดกับถนนรักสงบมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย จึงรุดไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.อนุกูล ดาวลอย ผกก.หน่วยกู้ภัยนทีธรรมและหน่วยกู้ชีพ รพ.บึงกาฬ ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตู สีดำ ทะเบียน กก 5186 บึงกาฬ ขับขี่โดยนายพงศ์พิชญ์ บุตรพระองค์ อายุ 45 ปี ข้างรถพบร่างของนางสมคิด หรือแดง บุราณหิต อายุ 58 ปี ชาว ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ มีบาดแผลถูกชนเข้าที่แขนขวาและไหปลาร้าขวาหัก ศีรษะด้านซ้ายแตกเลือดไหลอาบ นอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดจึงรีบปฐมพยาบาล ใกล้กันพบนายสายัณห์ บุราณหิต อายุ 64 ปีสามีได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก ตามร่างกายถูกเศษกระจกบาด กู้ภัยจึงช่วยปฐมพยาบาล ก่อนรีบนำทั้ง 2 คนส่ง รพ.บึงกาฬ

ส่วนบริเวณด้านหน้ารถมีรถ จยย.ถูกชนเสียหาย 4 คัน มีรถ ฮอนด้าสกู๊ปปี้สีแดง 1 กข 7870 บึงกาฬ ฮอนด้าสกู๊ปปี้สีแดง-ขาว กจ 5356 บึงกาฬ ฮอนด้าสกู๊ปปี้สีแดง-ขาว บธฉ 566 สกลนคร และฮอนด้าเวฟ สีดำ 1 กก 9410 บึงกาฬ โต๊ะตู้ขายหมูสะเต๊ะพัง เสารั้ว ประตูเหล็กหน้าบ้านถูกชนพังไปด้วย ข้าวของเครื่องใช้กระจัดกระจายไปทั่ว ส่วนคู่กรณีเป็นรถกระบะยี่ห้อเชฟโรเลต สีบรอนซ์ ทีเบียน บค 7937บึงกาฬ โดยนายเศกสิทธ์ ศรีสงคราม อายุ 38 ปีเป็นคนขับจอดแน่นิ่งอยู่บริเวณสี่แยก มีประชาชนผ่านไปมาหยุดรถมุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุนายพงศ์พิชญ์ ขับรถยนต์ 4 ประตูสีดำมุ่งหน้ามาตามถนนบึงกาฬขึ้นทางเหนือเข้าถึงสี่แยก เป็นจังหวะเดียวกันที่ นายเศกสิทธ์ ขับรถเชฟโรเลต มาตามถนนรักสงบมุ่งหน้าไปทางน้ำโขง มองเห็นในระยะกระชั้นชิดจึงเฉี่ยวชนข้างประตูด้านซ้ายรูดมาจนถึงด้านท้ายรถ ทำให้รถยนต์ 4 ประตูเสียหลักยางหลังด้านซ้ายแตกเป็นให้ควบคุมรถไม่ได้จึงเสียหลักหักซ้ายพุ่งเข้าชน นางสมคิดและนายสายัณห์ 2 สามีภรรยาที่ยืนขายหมู่สะเต๊ะอยู่ริมฟุตปาทหน้าบ้านได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งรถ จยย.จอดอยู่หน้าบ้านถูกชนกวาดเรียบไป 4 คัน ก่อนจะวิ่งเลยไปชนเสาและประตูบ้านจึงสิ้นฤทธิ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนรายละเอียดอีกครั้งว่าใครเป็นฝ่ายประมาท เบื้องต้นยังไม่ได้แจ้งข้อหาใดๆ ทั้ง 2 คน
ขอขอบคุณผู้สื่อข่าวมติชนออนไลน์ อ่านข่าวที่ https://www.matichon.co.th/news/751389

‘>